หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 29
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ละเลียดไวน์ By ป๋าณต  (อ่าน 236107 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ป๋าณตอายไม่กล้าตั้งเอง
บอกว่า ตัวเองยังไม่เก่ง
แต่ตู ศิษย์นัมเบอร์วัน (พุดเองเออเอง  กร๊าก)
ขอการันตีว่า ซอมเมอลิเย่ร์เมพนามว่าป๋าณตผู้นี้
คือ ชาบูแห่งวงการละเมียดไวน์อย่างแท้จริง
คือพี่แกครบองค์
ความรู้แน่น
ภาษาสลวย
จินตนาการสูง
และหน้าตาน่าเชื่อถือ (อันนี้สำคัญ)

เริ่มคำถามแรกโดยพี่ร่ม
แกถามว่า

ปกติไวน์ที่ถือว่าใช้ได้ ราคาประมาณเท่าไหร่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มี.ค. 2011, 13:53 น. โดย ChubbyPook » บันทึกการเข้า
คำตอบคือ ตอบไม่ได้ว่ะ 555
จำไว้ว่า ราคาไวน์ ไม่ได้เกี่ยวกับรสชาติที่เราถูกใจ
มันขึ้นอยู่กับว่า เรากินไวน์กับอาหารชนิดไหน

แต่ราคามันก็บอกอะไรได้บางอย่าง
เพราะเมืองไทยมันมีไวน์กล่อง ไวน์ไห ราคาถูกเยอะแยะ
ซึ่งคุณภาพมันเฮงซวยมากๆ ไม่ได้หมักบ่มอย่างที่ควรจะเป็น
เผลอๆ เติมแอลกอฮอล์เข้าไปอีก

บันทึกการเข้า
สรุปเราควรจะเลือกไวน์ตามอาหารที่เรากิน
และพยายามเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือ
มีการเก็บไวน์ที่ดีใช่ไหมป๋า

แล้วประเทศที่ผลิตล่ะสำคัญไหม
มีประเทศอะไรแนะนำบ้าง

แล้วก็แนะนำไวน์เบื้องต้นที่ควรกินกับประเภทอาหารให้ทีนะจ๊ะ
เช่นไวน์ขาวเหมาะกับซีฟู๊ดไรงี้
บันทึกการเข้า
Gewurztraminer เกวูซทรามิเนอร์ กินกับอาหารทะเลจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือส้มตำปูปลาร้า  หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
จริงๆ เคยตอบเรื่องไวน์คร่าวๆ ไว้หนนึง ในจู๋นี้ http://www.f0nt.com/forum/index.php/topic,15001.15.html

ก็ตัดเอามาให้อ่านก่อนแล้วกัน

ออกตัวก่อนว่า ตูไม่ใช่ไวน์กูรู
แล้วก็ยังถือว่าเป็นมือใหม่
ในเรื่องของการชิมไวน์อยู่
เพียงแต่ตูเป็นคนชอบกินชอบชิม
ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม
ดังนั้นก็หวังว่าคำแนะนำจะพอมีประโยชน์บ้าง
แต่ก็คงไม่ใช่สูตรสำเร็จที่จะเอาไปอ้างอิงได้กับทุกคน

คือทุกครั้งที่ผมกินไวน์ก็ไม่เห็นจะรับรู้ว่ารสชาติมันอร่อยยังไง หรือว่าคุณภาพไวน์อันไหนมันคุณภาพดียังไงเลยอะครับ
ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ก็ตัดสินเองที่รสชาติ + กลิ่นล้วนๆ เลย

ก่อนอื่นเลยต้องถามบวบกลับไปว่า
แล้วดื่มเหล้าดื่มเบียร์เนี่ยมันอร่อยตรงไหน
อันนี้ถามจริงๆ จะได้แนะนำถูก

คนส่วนใหญ่ถ้าไม่เคยดื่มไวน์มาก่อน
เวลาพูดถึงไวน์ปุ๊บ
ในจินตนาการก็มักจะคิดว่า
มันน่าจะหอมหวานเหมือนน้ำผลไม้
แต่พอได้กินเข้าจริงๆ มันกลายเป็นคนละเรื่อง
ดังนั้นต้องเข้าใจก่อนว่า ไวน์คือไวน์
ไม่ใช่น้ำผลไม้คั้นหรือกล่องที่เราเคยกิน

- ไวน์มีกี่ประเภท แต่ละประเภท มีจุดเด่นจุดด้อยยังไง
ตอบเรื่องชนิดของไวน์ง่ายๆ ก่อนก็
มีไวน์แดง ไวน์ขาว ไวน์โรเซ่ ไวน์ฟอง(แชมเปญหรือสปาร์กลิ่งไวน์)
และไวน์หวาน(Dessert wine)

วิธีการทำไวน์ก็ง่ายมาก
เก็บเอาองุ่นมาใส่ถัง บีบให้น้ำองุ่นออกมา(สมัยก่อนเขาใช้ตีนย่ำเอา)
ปล่อยให้ยีสต์ที่อยู่ที่เปลือกองุ่นตามธรรมชาติ
ทำงานในกระบวนการหมัก
แล้วรอ   อ๊าง~

จะเห็นว่ากระบวนการทำไวน์
เป็นกระบวนการที่เกิดจากธรรมชาติ
คนส่วนใหญ่เลยเชื่อกันว่า ดื่มไวน์ดีต่อสุขภาพ

ทีนี้วกกลับมาที่ชนิดของไวน์ก่อน
ไวน์แดงก็ทำมาจากพันธุ์องุ่นแดง

ไวน์ขาวก็ทำมาจากพันธุ์องุ่นเขียว
(องุ่นบางสายพันธุ์ ที่เอามาทำไวน์ขาว สีเปลือกเป็นสีแดงก็มี)

ไวน์โรเซ่ทำจากองุ่นแดงส่วนใหญ่
แต่แยกน้ำองุ่นไม่ให้ไปแช่รวมกับเปลือกตอนผลิต

ไวน์ฟอง ปกติเขาจะเติมส่วนผสมที่เป็นน้ำตาลกับยีสต์เพิ่มลงไป
เพื่อทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ ในกระบวนการหมัก

ไวน์หวาน ก็เติมปริมาณองุ่นเพิ่มลงไป
หรือเป็นไวน์ที่มีน้ำตาลเหลือจากกระบวนการหมัก

พักก่อนแป๊บ เดี๋ยวมาต่อ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
- เขาเลือกไวน์กันยังไง โดยเฉพาะไวน์ในระดับที่ซื้อหาได้นะครับ ไม่ใช่แบบไฮโซแก้วละหลายตัง
คำตอบของตูในข้อนี้ง่ายมากแต่ก็ยากด้วย(เอ๊ะ ยังไงกัน  โวย)
ที่ว่าง่ายคือเลือกไวน์ที่ตูกินแล้วชอบ
แต่ที่ว่ายากคือ แล้วตูจะรู้ได้ยังไงว่าตัวไหนตูชอบ
คำตอบสุดท้ายคือ ต้องชิม ครับ  อ๊าง~

ทีนี้แล้วจะเลือกชิมยังไงล่ะ
เพราะไปร้านขายไวน์ก็มีไวน์ละลานตาเต็มไปหมด
ซื้อไปซื้อมา ก็กลายเป็นไวน์ที่คนขายกินแล้วอร่อยไปซะทุกที
ยกเว้นจะไปเจอคนขายที่เก่งๆ และใจดี
เขาจะมีวิธีทำให้เรารู้ว่า เราชอบไวน์แบบไหน
โดยการให้เราชิม  อ๊าง~

ปกติแล้ว องุ่นแต่ละสายพันธุ์
ก็จะมีสี รสและกลิ่นเฉพาะตัว
เราก็เริ่มชิมและจำจากสายพันธุ์องุ่นนี่แหละ
เพราะส่วนใหญ่ ฉลากไวน์ ก็จะบอกพันธุ์องุ่นเอาไว้

เริ่มจากไวน์แดงก่อน
องุ่นที่นิยมเอามาทำไวน์แดงก็มี
Merlot อ่านว่า แมร์โล
Cabernet Sauvignon อ่านว่า คาเบอร์เนต์ โซวีญง
Pinot Noir อ่านว่า พิโนต์ นัวร์
Shiraz อ่านว่า ชีฮาส แต่ส่วนใหญ่ก็ออกเสียงว่า ชีราซ

ไวน์ขาวก็มี
Chardonnay อ่านว่าชาร์ดองเน
Sauvignon Blanc อ่านว่า โซวีญง บลังค์
Pinot Gris อ่านว่า พิโนต์ กริส
Gewurztraminer อ่านว่า เกวูซทรามิเนอร์
Riesling อ่านว่า ฮีสลิง แต่ส่วนใหญ่ก็ออกเสียงว่า รีสลิง

ก็แนะนำให้ ชิมตามสายพันธุ์องุ่นก่อน
แล้วก็จำไว้ว่า สายพันธุ์องุ่นไหน
ที่เราดื่มแล้วชอบ ต้องรู้ตรงนี้ให้ได้ก่อนครับ


เดี๋ยวมาต่อ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
ตอนนั้นยังไม่เทิร์นโปร
ตอนนี้เป็นโปรแล้วป๋า
ตอบได้งี้ไม่เป็นกูรูแล้วเป็นไร
กูรู้ปะเนี่ย


บันทึกการเข้า
วิธีการดื่มที่ถูกต้อง
ก็ไม่ควรดื่มเกินวันละสองแก้ว   หมีโหด~

ขั้นตอนในการชิมไวน์ หลักๆ
มีดังต่อไปนี้

- ใช้ตามอง
มองอะไร มองสีครับ
วิธีมอง ก็เอียงแก้วดู สีของไวน์บอกอะไรมากมาย
ตั้งแต่ พันธุ์องุ่น อายุของไวน์ ไปจนถึงความเข้มเต็ม
หรือความสมดุลระหว่างแอลกอฮอล์กับน้ำผลไม้ในไวน์

- ใช้จมูกดม
ดมอะไร ดมกลิ่นครับ
ให้เติมไวน์ลงในแก้วไวน์
อย่าเยอะมากให้สูงแค่พอส่วนโค้งเริ่มต้นของกระเปาะแก้ว

วิธีดม อย่าเพิ่งแกว่งแก้ว ให้ดมก่อน
ทีนี้แกว่งแก้ว แล้วดมอีกที ให้สังเกตความแตกต่าง
เพราะไวน์บางตัวกลิ่นยังไม่เปิด เราต้องแกว่งแก้ว
เพื่อให้น้ำไวน์สัมผัสกับอากาศ กลิ่นที่ซ่อนไว้ก็จะเผยออกมา
กลิ่นของไวน์แต่ละชนิด ก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต หรือเขตแคว้นที่ปลูก
ไวน์บางตัวเราดมแล้วได้กลิ่นกาแฟคั่ว
บางตัวได้กลิ่นดินกลิ่นหญ้า บางตัวได้กลิ่นดอกไม้
บางตัวได้กลิ่นยางไหม้

สำหรับคนที่ิไม่เคยกินไวน์มาก่อน
ตูแนะนำให้ดมเยอะๆ ดมไปเรื่อยๆ แล้วสังเกตดูการเปลี่ยนแปลง
(แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องใช้แก้วไวน์ที่คุณภาพดีพอสมควร
เพราะแก้วไวน์ห่วยๆ จะไม่สามารถทำให้เราดมกลิ่นอะไรได้
บางทีได้แต่กลิ่นแอลกอฮอล์)

- อม
พอดมจนเริ่มเบื่อแล้ว
ทีนี้ก็ถึงเวลาเอาไวน์เข้าปาก
ต้องเข้าใจก่อนว่า ตำแหน่งตุ่มรับรสของลิ้นเรา
กระจายไปทั่วลิ้น โดยรสหวานจะอยู่ปลายลิ้น
ถัดเข้ามานิดนึง ข้างๆ ลิ้นทั้งสองข้างจะเป็นรสเค็ม
ลึกเข้าไปหน่อย ก็จะเป็นรสเปรี้ยว
ส่วนโคนลิ้นก็จะเป็นรสขม
(ดูจากภาพประกอบ จากเว็บ http://www.2basnob.com/)



ไม่ต้องแปลกใจไปว่า คนที่เคยกระดกแต่เหล้า
พอมากินไวน์ แล้วบอกว่าเห็นไม่อร่อย
เพราะกระดกพรวดไปทีเดียวที่โคนลิ้น
ก็จะเจอแต่รสขมกับเปรี้ยวฝาด

วิธีอมที่ถูกต้องคือ อมให้ตุ่มรับรสได้สัมผัสกับไวน์ทั้งหมด
บางคนอาจจะให้อากาศเข้าไปผสมด้วยโดยการกลั้วลิ้น
(จะเห็นนักชิมไวน์บางคน ดื่มแล้วทำเสียงซืดๆ ครอกๆ ไปด้วย)


- กลืน
ตอนกลืนนี่สำคัญ เพราะไวน์จะมีอาฟเตอร์เทสเฉพาะตัว
หรือที่เซียนไวน์เมืองไทยเขาเรียกกันว่า ตอนจบ
การสังเกตการจบของไวน์
นั่นคือความรู้สึกซาบซ่าที่ยังคงอยู่ในปาก
หลังจากที่เรากลืนไวน์ลงไป
ก็ดูว่ายาวนานแค่ไหน ลองจับเวลาในใจดู


บันทึกการเข้า
แสดงว่าในเบื้องต้นเราต้องชิมไวน์อย่างน้อยเก้าขวด  น้องดำ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
 :หิว:
บันทึกการเข้า
เจ๋ง เดี๋ยววันนี้จะลองดูค่ะ

ส่วนที่ป๋าบอกว่า ให้หาตัวที่ชอบๆมา

ชอบ Pinot Noir อ่านว่า พิโนต์ นัวร์ ค่ะ
มันเป็นไวน์แดงที่ขมติดลิ้นนิดๆ
แต่ไม่ขมจนรู้สึกสากไปทั่วกระพุ้งแก้ม

แล้วก็ชอบ ชาดองเน่กับเกวูซทรามิเนร์
ไวน์ขาวรสอมหวานนิดๆ โดยเฉพาะอย่างหลัง
ที่เก็บหลังฤดูกลาล แต่บางคนก็บอกเหมือนไวน์เน่า

ถ้าเลือกมาสายนี้ละไปทางไหนต่ออะป๋า
บันทึกการเข้า
ตูชิมเป็นร้อย ไม่เห็นบ่น   ชิ

- ไวน์ไทยที่น่าสนใจ มีที่ไหน ยี่ห้ออะไร หาซื้อได้สะดวกๆ ที่ไหนบ้างครับ

ไวน์ไทย เท่าที่ตูชิมมา ยังไม่โดนสักตัว
องุ่นที่ใช้ก็ไม่เห็นจะบอก บางทีบอกแล้วก็ยังงงๆ
ผู้ผลิตไวน์ในไทยบางราย ก็นำเข้าน้ำองุ่นจากต่างประเทศอีกต่างหาก

ล่าสุดกินโรเซ่ของ กรานมอนเต้มา อร่อยเลยนะ  เจ๋ง

เมืองไทย ตูว่า ไวน์จากออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ไม่น่าจะแพงมาก
เท่าที่เคยเห็นราคาไม่กี่ร้อย ก็ได้ไวน์ดีพอใช้เพื่อกินกับอาหารให้อร่อยแล้ว
เรื่องยี่ห้อ ตูแนะนำให้ชิมเอง เพราะเรื่องรสชาตินี่ ของใครของมัน

ไวน์ที่ดี สำหรับตูคือ ไวน์ที่ดื่มแล้วอร่อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาดื่มไปพร้อมอาหาร
หลักการง่ายๆ ก็ตามที่หลายๆ คนบอกไป
คือ ไวน์แดงกินกับเนื้อสัตว์ที่เป็นสีแดง
ไวน์ขาวกินกับเนื้อสัตว์ที่เป็นสีขาวหรืออาหารทะเล
แต่ก็ไม่ใช่สูตรสำเร็จตายตัว
ไวน์แดงบางตัวก็กินกับปลาได้เหมือนกัน
แต่ต้องเลือกดีๆ ไม่อย่างนั้น
น้ำองุ่นแดงจะทำปฎิกิริยากับไอโอดีน
ทำให้กลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วปาก  อี๋~

แต่หลักๆ เวลาเขาจับคู่อาหารกับไวน์
เขาจะดูเครื่องปรุงกับวิธีการทำเป็นหลักด้วย
นอกจากเรื่องของชนิดของเนื้อสัตว์

ส่วนอาหารรสจัด อย่างพวกยำหรือส้มตำบ้านเรา
ตูแนะนำให้กินกับไวน์ขาวพันธุ์ Riesling หรือ Gewurztraminer
แต่ยำหรือส้มตำต้องไม่เผ็ดมากนะ
ถ้าเผ็ดมาก กินกับเบียร์จะดีกว่า
กินไวน์ไปก็ไม่รู้รส เปลืองเปล่าๆ

อุณหภูมิของไวน์เวลาเสริฟนั้น
ส่วนใหญ่ ไวน์ขาว อุณหภูมิที่เหมาะสมคือ 8-11 องศาเซลเซียส
ไวน์แดง ก็จะอยู่ที่ 14 ถึง 18 องศา


บันทึกการเข้า
โพสของเก่าไปก่อนนะ
แล้วเดี๋ยวจะทยอยมาตอบทีหลัง

Hardy นี่ก็ถือว่าเป็นไวน์โลกใหม่
ที่รสชาติได้มาตรฐานใช้ได้เลย
ส่วน Gallo Family บางตัวก็กินได้ดีเลยนะครับ
เหมาะกับการกินพร้อมอาหาร

เมื่อมีไวน์โลกใหม่แล้ว ก็ต้องมีไวน์โลกเก่าด้วย
หลายๆ คนคงสงสัยว่า มันต่างกันยังไง
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าอันไหนคือไวน์โลกเก่า ไวน์โลกใหม่

ข้อแตกต่างหลักๆ
ของไวน์โลกเก่ากับโลกใหม่คือ
ความเก่าแก่ของพื้นที่ในการปลูกองุ่นทำไวน์
เอาเป็นว่า ยุโรป ก็ถือเป็นไวน์โลกเ่ก่า
พวกประเทศอาณานิคมทั้งหลายก็เป็นไวน์โลกใหม่

ไวน์โลกเก่า ส่วนใหญ่เลย
จะมีการควบคุมคุณภาพการผลิต
ที่คัดสรรจากธรรมชาติเกือบทั้งหมด
รวมถึงขั้นตอนต่างๆ เรียกว่าเหมือนเป็นกฎหมายเลยก็ว่าได้

ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจไปว่า
ทำไมจึงเห็นไวน์โลกเก่าที่เก็บไว้จนได้ที่
มีราคาต่อขวดนับแสนบาท

กฎหมายที่ว่า เป็นที่รู้จักกันคือ
Medoc 1855 Classification
ซึ่งเป็นการควบคุมคุณภาพของแคว้น Bordeaux (บอร์กโดซ์)
ก็จะจัดชั้นลำดับผู้ผลิตของไวน์ฝรั่งเศส
เป็นชั้นๆ หรือที่เราเรียกกันว่า
Grand cru Classe อ่านว่า กรอง ครู คลาสเส
ซึ่งมีอยู่ห้าลำดับชั้น

ไวน์ชั้นดีที่สุด หรือที่เรียกว่า
Premiers Crus อ่านว่า เปรมิเยร์ ครู
มีอยู่ห้าตัว คือ    
* Chateau Lafite-Rothschild อ่านว่า ชาโต ลาฟิต ฮอตชิลล์
* Chateau Latour อ่านว่า ชาโต ลาตู
* Chateau Mouton-Rothschild อ่านว่า ชาโต มูตอง ฮอดชิลล์
* Chateau Margaux อ่านว่า ชาโต มาโกซ์
* Chateau Haut-Brion อ่านว่า ชาโต โอต บริยอง
ไวน์พวกนี้ ราคาดีกว่าทองเสียอีก
แต่ไม่ต้องไปคิดหาซื้อนะครับ
มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้  กร๊าก
(Vintage ใหม่ๆ หาซื้อได้ยาก
เพราะจะถูกประมูลไปตั้งแต่ยังไม่ได้ผลิต)
สิบปีผ่านไป ราคาไวน์พวกนี้จะขึ้นเป็นหลายสิบเท่า

ส่วนเรื่องรสชาติ ตูเคยชิมแค่ ชาโต มูตอง รอดชิลล์ ปี1970
ซึ่งไม่ถูกลิ้นกับตูมากๆ เพราะกลิ่นรสที่ตูรับไม่ได้
เข้าใจว่าเป็นกลิ่นยางไหม้กับหนังสัตว์  อี๋~
แต่ฉลากสวยมาก เพราะเป็นปีที่ใช้รูปของ Marc Chagall
(มูตอง ฮอดชิลด์จะใช้ศิลปินดังๆ วาดรูปลงฉลากในแต่ปี)

กฎหมายพวกนี้ในแต่ละแคว้นของฝรั่งเศสก็มีต่างๆ กันไป
อย่างแคว้น เบอร์กันดี หรือ แซง เตมิญอง (St Emilion)
ซึ่งรสชาติหรือมาตรฐานก็ดีไม่แพ้กัน

แต่ถ้าใครอยากลอง ตูแนะนำให้ลองดู
ชั้นที่รองๆ ลงมา แต่ต้องซื้อมาเก็บแต่เนิ่นๆ
เรียกว่าพอออกมาปุ๊บ ก็ซื้อเก็บไว้
ราคาอยู่ในหลักพันบาท แต่ถ้าทิ้งไว้สิบปี
ราคาจะกลายเป็นหลายหมื่นบาทอย่างไม่น่าเชื่อ

แล้วไวน์โลกใหม่ล่ะ มันเป็นยังไง
ไวน์โลกใหม่คือไวน์ที่มีการควบคุมการผลิต
ทุึกขั้นตอน ด้วยคน ด้วยเครื่องจักร
เพื่อที่จะให้ได้ รสชาติเป็นมาตรฐาน
(ไวน์โลกเก่า การเลือกปี จึงสำคัญ
เพราะขึ้นอยู่กับดินฟ้าอากาศในปีนั้นๆ ด้วย
ว่าจะทำไวน์ออกมาได้คุณภาพดีแค่ไหน)

ไวน์โลกใหม่ส่วนใหญ่ ก็จะเก็บไว้ได้ไม่นาน
ซึ่งเราจะเห็นเขาเขียนที่ฉลากว่า
ควรดื่มก่อน ปี xxxx

แต่ไวน์แดงโลกเก่า
สามารถเก็บได้ เพราะไวน์ในขวด
จะมีการพัฒนาการไปเรื่อยๆ

สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มหัดดื่มไวน์
ตูแนะนำให้ชิมตามสายพันธุ์องุ่น
จากไวน์โลกใหม่ก่อน

เพราะไวน์โลกเก่า ส่วนใหญ่
จะมีการใช้องุ่นมากกว่าหนึ่งชนิด
รวมถึงกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ของผู้ผลิตแต่ละราย ซึ่งจะยากมากๆ ในการชิม

...............................

ส่วนเรื่องการเมาไวน์
อย่างที่เก้อบอก มันเป็นการเมาที่ซึมลึก
ค่อยๆ ซึม ค่อยๆ เมา แต่ถ้าเมาจนอ้วกจะทรมาณมากๆ
เคล็ดลับถ้าต้องดวดไวน์ในปริมาณเยอะๆ จนเมา
ก็คือห้ามหลับตา ห้ามนอน
ให้หาน้ำโซดามากิน จนสร่างก่อน

มีความเชื่อกันว่า แอลกอฮอล์จากไวน์
จะสลายไปจากตับภายใน 16-24 ชั่วโมง
แต่ถ้าเป็นแอลกอฮอล์จากเหล้าหรือเบียร์
จะตกค้างอยู่ในตับถึงหกเดือน

และที่สำคัญที่สุดคือ เมาไม่ขับนะครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า
สุดยอดไปเลย  ฮือๆ~ อ่านแล้วซาบซึ้งมาก
ถ้าเขียนหนังสือ ก็ยินดีจะซื้อเลยนะเนี่ย
บันทึกการเข้า
ดื่มไวน์ไม่เป็นเลย แต่แปะไว้ติดตามผลงานป๋า  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8 ... 29
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!