หน้า: [1] 2 3 4 5
 
ผู้เขียน หัวข้อ: “แอร์พอร์ตลิงก์ห่วยแตก” แต่เราก็ได  (อ่าน 15052 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
โดย วันชัย ตัน

“การสมรู้ร่วมคิดกับการทุจริตคือภัยร้ายแรงที่สุดของการทุจริต”

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุมนานาชาติว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต ครั้งที่ 14 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมาที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต์

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน  หนังสือพิมพ์หลายฉบับพาดหัวข่าวว่า

“แอร์พอร์ตลิงก์ ห่วยแตก!  โวยไม่มีบันไดเลื่อนที่นั่งแคบ-สถานีเตาอบ

สุพจน์ เต้นสั่งแก้ด่วน หลังเจอผู้โดยสารฟ้องสุดทนบริการ แอร์พอร์ตลิงก์ ห่วยแตก! ต้องกระเตงกระเป๋าลงสถานี เบาะนั่งแสนแคบ  แถมรอนานเป็นชาติกว่าขบวนรถไฟจะมา”

สุพจน์ในที่นี่ คือนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ ร.ฟ.ท. ผู้รับผิดชอบโดยตรง โครงการระบบขนส่ง ทางรถไฟเชื่อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและสถานีรับส่งผู้โดยสารอากาศยานในเมือง หรือ แอร์พอร์ตลิงก์ ระยะทาง 28 กิโลเมตร

อันที่จริงแอร์พอร์ตลิงก์ ได้เปิดบริการให้กับผู้โดยสารมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมแล้ว และถูกผู้ใช้บริการร้องเรียนมาโดยตลอด ว่าโครงการรถไฟฟ้าที่ใหม่ถอดด้าม ทำไมห่วยแตกได้เพียงนี้

สาเหตุที่ห่วยแตกได้อย่างรวดเร็วเพียงนี้ ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่า ผลของการคอรัปชั่นอย่างมโหฬารต่อโครงการแอร์พอร์ทลิงก์ มูลค่า 26,000 ล้านบาท ที่ไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ใน ร.ฟ.ท.ไปเซ็นรับมอบมาได้อย่างไร

ผู้เขียนเคยใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์มาหลายครั้ง มีข้อสังเกตที่น่าสนใจเกี่ยวกับความห่วยแตก ดังนี้คือ

โครงสร้างสถานีรถไฟที่เพิ่งเปิดไม่นาน แต่ดูเก่าได้ทันใจจากความหมองของสีปูน บันไดสูงชัน วัสดุที่ใช้ไม่ว่าจะเป็นกำแพง พื้นผิว ราวบันได ที่กั้นต่าง ๆ  สัมผัสแรกก็บอกได้ว่าน่าจะใช้วัสดุคุณภาพเกรดต่ำถึงต่ำที่สุด  ไม่ทนทาน และไม่คำนึงถึงความปลอดภัย ราวบันไดกรุตาข่ายเหล็กแบบโบราณย้อนยุค ทางเดินขึ้นลงไม่ได้มีความสะดวกเลย คงออกแบบแบบบ้าน ๆ ตามมีตามเกิด

เพื่อนที่ไปด้วยบอกว่า เวลาจับราวบันไดอันแสนบอบบาง ให้จับค่อย ๆด้วยความเกรงใจ เพราะไม่รู้ว่ามันจะหลุดออกมาเมื่อใด

บันไดเลื่อนมีแต่ทางขึ้น แต่ไม่มีทางลง ลิฟท์ขนผู้โดยสารก็เล็กและแอบไว้ราวกับไม่อยากให้ใครเห็น ทั้ง ๆที่ประกาศว่าเป็นสถานีรับส่งผู้โดยสารจากสนามบินนานาชาติที่ต้องมีกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ ๆ

ผู้เขียนมีประสบการณ์ในการแบกกระเป๋าหนักหลายสิบกิโลลงบันไดมาสามชั้น เช่นเดียวกับผู้โดยสารจำนวนมากจากเมืองนอกอย่างทุลักทุเล

บนสถานีร้อนอับ โดยเฉพาะเวลาที่มีผู้โดยสารจำนวนมากยืนรอรถไฟ ที่ยังรักษาเอกลักษณ์การไม่ตรงเวลาของรฟท.ได้ จากที่เคยคุยว่ามีรถไฟออกทุก 15 นาที แต่เอาเข้าจริงต้องรอถึงครึ่งชั่วโมง

แต่ที่น่าตกใจมากก็คือ เมื่อรถไฟมาเทียบชานชาลาแล้วจะพบว่า ระหว่างพื้นชานชาลาและรถไฟที่ปรกติต้องชิดกันมากเพื่อความปลอดภัย แต่ที่นี่กลับห่างกันอย่างผิดสังเกต ซึ่งเป็นจุดที่อันตรายมาก หากมีผู้โดยสารแน่นมากเวลาออกจากรถ หรือคนชรา อาจเกิดอุบัติเหตุผู้โดยสารถูกผลักจนขาหล่นลงไปตรงช่องว่างได้

มีพรรคพวกเคยเล่าให้ฟังมาหลายปีแล้วว่า โครงการแอร์พอร์ตลิงก์ มีการเปลี่ยนสเป็กรถไฟอย่างน่าเกลียด จนอาจทำให้ชานชาลากับรถไฟไม่สัมพันธ์กัน แต่ตอนนั้นผู้เขียนยังไม่เห็นของจริง เพิ่งมาประจักษ์สายตาเมื่อเร็ว ๆนี้เอง

และเมื่อผู้เขียนเข้าไปในตัวรถไฟที่หน้าตาล้าสมัย ตกรุ่นที่ผลิต แล้วเหมามาขายต่อบ้านเรา  สัมผัสแรกก็เหมือนเดิมคือ รู้สึกได้ทันทีว่าเป็นตู้รถไฟคุณภาพต่ำ ไม่ว่าที่นั่ง ราวจับอันแสนบอบบางและดำสกปรก มีฝุ่นจับมากเหมือนกับไม่เคยทำความสะอาด  ขนาดของตู้โดยสารอันคับแคบ  ไม่มีช่องเก็บกระเป๋าโดยสารเป็นสัดส่วนแยกจากที่นั่ง เหมือนกับแอร์พอร์ตลิงก์ในประเทศอื่น  จนน่าสงสัยว่า จะรองรับผู้โดยสารที่มากับกระเป๋าขนาดใหญ่ได้อย่างไร

ที่น่าประทับใจคือเสียงปิดประตูดังสนั่นทุกครั้ง ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของรฟท.ได้แก้ตัวว่า สาเหตุของการปิดประตูเสียงดัง เพื่อความปลอดภัยของรถไฟที่มีความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แต่รถไฟหัวจรวดในนครเซี่ยงไฮ้ ความเร็ว 400กิโลเมตรต่อชั่วโมงกลับมีเสียงเงียบกริบ  คงมีเพียงรถไฟคุณภาพต่ำที่มีเสียงดังแบบนี้มากกว่า

หลายสถานีเมื่อเดินลงมาด้านล่างในยามวิกาลแล้ว เปลี่ยวแน่นอน ทางเข้าออกไม่สะดวก หากไม่ใช่สถานีพญาไทที่สามารถลากกระเป๋ามาต่อรถไฟฟ้าบีทีเอสได้แล้ว  ก็ไม่รู้จะไปต่อรถโดยสารอะไร นอกจากรถแท็กซี่ที่มีผู้โดยสารต่างชาติหลายคนถูกเก็บราคาค่าโดยสารมหาโหด

สถานีมักกระสันอันเป็นสถานีใหญ่ที่สุดของแอร์พอร์ตลิงก์  พอเดินลงมาก็ไม่รู้จะไปลิงก์ หรือไปต่อกับอะไรที่ไหน ไม่มีทางเชื่อมระบบขนส่งสาธารณะใด ๆ   นอกจากรถไฟหวานเย็นถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง ไปภาคตะวันออก

แหล่งข่าวจาก ร.ฟ.ท.กล่าวว่า ปัญหาการไม่สะดวกในการเข้าออกสถานีแอร์พอร์ตลิ้งก์ เนื่องจากไม่มีการออกแบบไว้ตั้งแต่แรก ทำให้ไม่มีการตั้งงบสำรองเผื่อไว้ เมื่อก่อสร้างเสร็จเปิดให้บริการ จึงมีปัญหาค่อนข้างมาก

ที่กล่าวมาทั้งหมดคือแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีรถไฟฟ้าล่าสุดประตูสู่ประเทศไทยใช้เงินภาษีของคนไทยถึง  26,000 ล้านบาท  ซึ่งหากใครได้มีโอกาสไปใช้บริการแอร์พอร์ตลิงก์ในฮ่องกงหรือที่อื่น ๆ  คงบอกได้คำเดียวว่า  มันแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ไม่ว่าความทันสมัย ความสะดวกสบาย

เบื้องหลังโครงการแอร์พอร์ตลิงก์เริ่มต้นในกลางปี 2547 สมัยรัฐบาลทักษิณ  มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นรมว.คมนาคม  เป็นสุดยอดเมกกะโปรเจกต์สุดอื้อฉาวโครงการหนึ่ง ตั้งแต่การเร่งรัดประกวดราคาโครงการ ทั้งที่แบบก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์ และกลุ่มผู้รับเหมาที่ประมูลงานได้สำเร็จก็คือ กลุ่มซิโน-ไทย บริษัทของรัฐมนตรีคนกันเองในรัฐบาลทักษิณ  ท่ามกลางคำครหาว่าการประมูลไม่โปร่งใส

ฉาวครั้งแรกยังไม่พอ ทาง ร.ฟ.ท. เจ้าของโครงการยังใจกว้างเป็นแม่น้ำ ยอมจ่ายเงินค่าธรรมเนียมการกู้เงินประมาณ 1,600 ล้านบาทแทนผู้รับเหมา หรือ กลุ่มซิโน-ไทย ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เพราะสัญญาว่าจ้างก่อสร้างเป็นระบบเทิร์นคีย์ หรือการรับเหมาก่อสร้างโครงการแบบเบ็ดเสร็จ ทั้งก่อสร้างพร้อมจัดหาแหล่งเงินกู้เอง

ที่น่าเจ็บใจก็คือ ผลสอบของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือ สตง. ได้พบความผิดปกติในเรื่องที่ ร.ฟ.ท.ไปทำสัญญาเสียเปรียบให้ ร.ฟ.ท.จ่ายค่าธรรมเนียมทางการเงินจำนวน 1.6 พันล้านบาทแทนบริษัท ชิโน-ไทย เอง

ฉาวครั้งต่อมาในยุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์  เมื่อทางผู้รับเหมาส่งมอบงานไม่ทัน แทนที่จะถูกปรับวันละ 12 ล้านบาท  ทาง รฟม.ก็ใจดีอุตส่าห์ขยายเวลาการก่อสร้างให้รวม 730 วัน โดยที่บริษัทผู้รับเหมาไม่ต้องเสียค่าปรับแม้แต่บาทเดียว

นายอภิสิทธ์ก็ได้แต่ทำตาปริบ ๆ ไม่กล้าทำอะไร กฎเหล็กของคุณอภิสิทธิ์เป็นเพียงคำพูดอันสวยหรู ถูกเก็บไว้ในลิ้นชักอีกครั้ง  เพราะหุ้นส่วนใหญ่ของบริษัทผู้รับเหมาแห่งนี้ล้วนนามสกุล ชาญวีรกูล  นามสกุลเดียวกับแกนนำของพรรคภูมิใจไทย รัฐมนตรีคนสำคัญในรัฐบาลชุดนี้

ไม่น่าเชื่อว่า แอร์พอร์ตลิงก์ห่วยแตกนี้เอาเงินภาษีคนไทยไปถลุงถึง 26,000 ล้านบาท เป็นเหมือนการประจานความเน่าเฟะในการรถไฟแห่งประเทศไทย แดนสนธยาที่ไม่มีใครกล้าเข้าไปแตะ

ความห่วยแตกจากการคอรัปชั่นระหว่างรัฐบาลสมัยทักษิณกับอภิสิทธิ์ มีอะไรแตกต่างกันมั่ง

“การสมรู้ร่วมคิดกับการทุจริตคือภัยร้ายแรงที่สุดของการทุจริต” ไม่ทราบว่าคุณอภิสิทธิ์ยังจำคำพูดตัวเองได้หรือ
ไม่

มติชน  14  พย. 53
บันทึกการเข้า
แล้วจะเอามาแปะเฉยๆ ไม่แสดงความเห็นอะไรเลยเหรอครับ ฮิ้ววว

เคยได้ใช้ทีนึง.. ห่วยมั้ย ก็ห่วยนะ แต่ไม่รู้สึกว่าเลวร้ายขนาดที่ว่า
ทั้งนี้ยังไม่เคยใช้ส.ที่สนามบิน ตอนนั้นนั่งจากบ้านทับช้าง ไปลงที่มันต่อกะพญาไท
รอนานมั้ย ก็นิดนึง แต่มีนาฬิกาบอกเวลารถเที่ยวต่อไป เลยไม่ได้รอแบบไม่มีจุดหมาย
ส่วนที่ต่อกับพญาไทนี่แหละที่เจอว่าแปลกๆ คือเห็นมีทางลงแค่ทางเดียว อันนี้รู้สึกประหลาดมาก สำหรับการออกแบบอาคารสาธารณะ
ส่วนเรื่องวัสดุ ไม่รู้สึกขนาดที่เขาว่านะ เรื่องคนพิการนี่ยอมรับว่าไม่ได้สังเกตุจริงๆ
อีกเรื่องที่รู้สึกว่าเป็นประเด็นกันในเน็ตมาก่อนแล้ว คือประตูปิดเสียงดัง ทำไมตูเฉยๆ ก็ไม่รู้ ไอ้เสียงปี๊บๆ ของบีทีเอสน่ารำคาญกว่าอีก

ปล. บีทีเอสอย่างนึงที่พัฒนาน้อยมากคือการจัดการทางสัญจรคน
มีอย่างที่ไหน "ต้อง" เดินไปแลกเหรียญตรงประตู แล้วย้อนกลับมาหยอกซื้อบัตร แล้วเดินย้อนไปใหม่ เวลาคนเยอะๆ นี่วุ่นวายชิบเป๋ง

ปล.2 จขกจ ต้องการอะไร ง่ะ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
อืมมมม
โดยส่วนตัวยังไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสกับAirport Link
แต่ก็โอเคกับรถใต้ดินและBTS
แต่ไอ้เดินไปแลกเหรียญแล้วเดินกลับไปหยอดเนี่ย คิดว่ามันล้าหลังแบบบอกไม่ถูก
ใต้ดินยังพอทำเนา แต่BTSน่าจะรื้อตู้เปลี่ยนเป็นระบบที่ใส่แบงค์เข้าไปได้ด้วย เกรียน
แต่พนักงานใต้ดินทำงานกันขยันขันแข็งมาก ลันล้า
บันทึกการเข้า
รู้สึกเหมือนกันว่าใต้ดินบริการดีกว่า กร๊าก
ปัญหาอีกอย่างคือ สถานีที่มันตรงกัน ทั้งใต้ดิน/ลอยฟ้าอะ เรียกให้เหมือนกันไม่ได้เรอะ ง่ะ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
อ่านจากเว็บต้นฉบับแล้วเช่นกันครับ (บล็อกคุณวันชัย)
จริงๆ จขกจ น่าจะเปิดประเด็น แสดงความเห็น หรือเปิดโอกาสให้ถาม
จะดีกว่าการเอาบทความเขามาแปะดื้อๆ จ้ะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ใช่ๆ หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
เอ่อ...ขออภัยครับ จริงๆแค่อยากคาบบทความคุณวันชัยมาเผยแพร่ครับ ไม่ได้คิดไปถึงการตั้งคำถามใดๆครับ กลัวมันไปพาทพิงการเมืองมากขึ้นครับ  ถ้าอยากถามผมอยากถามว่ามันแย่ขนาดที่เขาว่าจริงๆเหรอครับ?
บันทึกการเข้า
การไปพาดพิงไม่ใช่เรื่องน่ากลัวตรงไหนหรอกครับ
การเมืองมันอยู่ในทุกมิติของชีวิตเราอยู่แล้ว พูดอะไรก็พาดพิงหมด

ยกตัวอย่าง เราเข้าห้องน้ำขี้ตอนเช้า นี่ก็การเมือง
เพราะน้ำที่เราใช้ในการฉีดก้น มันต้องผ่านกระบวนการจัดสรรทรัพยากรน้ำ
และเรื่องของระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานซึ่งกระทำโดยรัฐ และผู้มีอำนาจรัฐในการให้นโยบายเรื่องนี้
ซึ่งมาจากการเลือกตั้ง ดังนั้นทุกเรื่องคือการเมืองแน่ๆอยู่แล้ว ไม่ต้องกลัวครับ
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
คือมันมีประเด็นตั้งกะคิดจะเอามาเผยแพร่แล้วครับ คิดว่าในหัวคงมีความเห็นอะไรอยู่บ้างแหละถึงได้เอามาแปะ
แต่ไอ้การที่แปะเฉยๆ มันเหมือนยืนแจกใบปลิวข้างถนนอะครับ ดูไร้ค่า รู้สึกเกะกะ และ ฯลฯ ที่รู้สึกไม่มีประโยชน์อะไร
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
เท่าที่ตูเคยสัมผัสมา ตูว่าก็สะดวกดีนะ
(จากสุวรรณภูมิ-พญาไท) แึค่ 25 นาที ก็ถึงใจกลางเมือง
ส่วนเรื่องรอรถนาน ตูว่าก็ยังดีกว่า รอคิวแท็กซี่สุวรรณภูมิ
ที่ส่วนใหญ่มักจะเลือกแต่ผู้โดยสารต่างชาติ
ถ้าเป็นคนไทยมันจะอิดออดไม่ไป หรือไม่ก็ให้เหมาราคาแพงๆ  3cษ
การนั่งแอร์พอร์ตลิงก์ ทำให้ไม่ต้องไปปวดหัวกับแท็กซี่ส้นตีนพวกนี้

แต่เห็นด้วยว่าสถานีมักกะสันนั่น มันไปตั้งผิดที่ผิดทาง
เพราะตรงนั้นมันไม่ได้ไปต่อเชื่อมกับอะไรเลย
บันทึกการเข้า
ต่อกะสนามบินไงฮะ หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ขอบคุณที่ชี้แนะ ครั้งหน้าจะปรับปรุงตัวครับ
บันทึกการเข้า
เออ แปลกใจเรื่องมักกะสันเหมือนกันครับ
อยากทราบว่าสถาปนิกผังเมืองคิดยังไงกันครับเลยฟันธงว่าไปลงตรงนั้น

หรือทนความกระสันของนักการเมืองไม่ได้
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
 กร๊าก อุ้ย อันนี้เจ็บ  กร๊าก
บันทึกการเข้า
กร๊าก อุ้ย อันนี้เจ็บ  กร๊าก

ปล. ให้ตอบจริงๆ ผมว่าสถาปนิกไม่มีอำนาจตัดสินใจเท่าลุงๆ ผู้บริหารหรอกมั้งฮะ น้องดำ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
หน้า: [1] 2 3 4 5
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!