ผมว่ามันก็เป็นทางเลือกที่โอเคออกนะครับ
การร้องเพลงขอทุนทำค่าย ตามจตุจักรที่เห็นกันบ่อยๆ ผมก็ว่าน่ารักดี
ผมว่าการเขียนจดหมายขอ ดูไม่ลงทุนอะไรมากกว่าด้วยซ้ำ
อันนี้น่าจะได้ฝึกหลายอย่าง ได้เจอผู้คน สังคม และคนที่อยากจะให้จริงๆ
คนละนิดคนละหน่อย ฝึกความอดทนด้วย นักศึกษาเป็นชนชั้นกลางมีเงิน
คงอายที่จะมาทำอะไรแบบนี้ ลองทำดู ลองทำตัวจนๆขอกันตรงๆแบบนี้ ผมว่าแฟร์ดีออก
อยากให้ก็ให้ ไม่อยากก็ไม่ให้ ทั้งนี้ไม่นับพวกแอบอ้างทั้งหลายนะครับ อันนั้นคนละปัญหา
บูมรับปริญญาผมว่าก็ดี เห็นเค้าได้เยอะกัน คือเป็นวันเรียนจบ
แล้วน้องก็เป็นรุ่นน้อง เอาไปทำงานคณะ ก็น่าให้
แต่ที่ว่ามาทั้งคู่ ก็ไม่เคยทำ ไม่เคยมีด้วยแหละ คือศิลปากรดันไม่มีบูม แล้วก็ไม่มีค่ายชนบทอะไรทั้งนั้น
ปกติคณะจะมีงาน 3 อย่าง ที่หากินใช้กับทุกกิจกรรมได้ทั้งปี
คือปี 1 จัดงานแต๊ง ปี 2 จัดติว 7 วัน แล้วก็ปี 3 จัดงานกิฟต์ นอกนั้นก็ขายของงานจานศิลป์ ก็มีเท่านี้
จริงๆแค่งานกิฟต์ก็ได้เยอะพอทำไรทุกอย่างแล้ว แล้วทั้งหมดที่หามา ก็จะมาลงตอนปี 4 กับซ่อมน้อง+มีตติ้ง เป็นอันจบพิธี
อันนี้แล้วแต่ว่าแต่ละรุ่นจะบริหารได้แค่ไหน อย่างรุ่นผม ยังเหลือเงินหลายหมื่นมาจนจบไปแล้ว
เหของรุ่น ก็เอาไปโปะช่วยงานน้องบ้าง อะไรบ้าง จบมา 5 ปีก็ยังเหลืออยู่ สุดท้ายก็เลยเอาไปบริจาค
แล้วถ่ายรูป ฟอร์เวิร์ดเป็นเม็วบอกเพื่อนๆว่า จบมานานแล้ว กูขี้เกียจจะเก็บแล้ว กูเอาไปบริจาคละนะ