หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10 11 12 ... 31
 
ผู้เขียน หัวข้อ: อูคูเลเล่ (แตกหน่อ)  (อ่าน 199770 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เรียกผมว่าพี่ กันเลยทีเดียว  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
ฮะ พี่ตั้งฮะ  กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
สำหรับตูนี่ จับกีต้าร์ไม่ได้เลย..



(ไม่มีมุกอะไรทั้งนั้น)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
จับแล้ว มันเจ็บนิ้วเหรอครับ


ชง

อ้าว.....

....

 น้องดำ
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
อ่านจู๋นี้มากๆ จากไม่อยากได้เริ่มอยากได้แล้วสิ  กร๊าก
บันทึกการเข้า

เรียกผมว่าพี่ กันเลยทีเดียว  ฮือๆ~
ก็เป็นพี่ตั๊ง ไม่ใช่เหรอ  กรี๊ดดดดด


มามะ ตั้งเป็นชมรมอูคูเลเล่
บันทึกการเข้า

ท่องเที่ยวเป็นงานหลัก ถ่ายรูปเป็นงานรอง
วาดรูปเป็นงานอดิเรก ขายยาเป็นงานประจำ
แอบอ้าง
คำถามยอดฮิต ซื้ออูคูเลเล่แบบไหนดี
ช่วงนี้มีพี่ ๆ น้อง ๆ ฝากคำถามมาถึงผมผ่านทางอีเมล MaysaHawaii@gmail.com ค่อนข้างเยอะครับ คำถามยอดฮิตเลยคือ อยากจะซื้ออูคูเลเล่ตัวแรก อยากจะลองหัดเล่นดู ให้ช่วยแนะนำให้หน่อยนะ ว่าจะซื้อตัวไหนดี
ได้เลยครับ ไม่มีปัญหา เอาเป็นว่าจากประสบการณ์ที่ผ่านมา อยู่ที่ฮาวาย เมืองหลวงของอูคูเลเล่มาพักใหญ่ ๆ ผมขอจำแนกอูคูเลเล่ออกเป็นสามแบบ สามจำพวกนะครับ

1. อูคูเลเล่แบบหัดเล่นดูก่อน
2. อูคูเลเล่แบบดี มีการพัฒนาเสียง
3. อูคูเลเล่แบบดี๊ดี มีแต่คนอยากได้

เริ่มจากแบบที่หนึ่งก่อนนะครับ "อูคูเลเล่แบบหัดเล่นดูก่อน" คือ อูคูเลเล่ที่มักจะเป็นอูคูเลเล่ตัวแรกสำหรับผู้ที่เริ่มต้นสนใจ อาจจะเคยมีพื้นฐานการเล่นดนตรีมาบ้าง หรือไม่มีเลยก็ไม่เป็นไร แต่อยากจะลองหัดเล่นดู ยังไม่รู้ว่าจะชอบหรือเปล่า เห็นเค้าเล่นกันแล้วน่ารักดี อยากเล่นบ้างจัง แต่ก็ไม่อยากทุ่มทุนสร้างมาก เดี๋ยวเล่นแล้วเจ็บนิ้ว เลิกขึ้นมาแล้วเสียดายเงินหน่ะ อูคูเลเล่ในแบบที่หนึ่งนี้ ราคามักจะไม่เกิน 3,000 บาท (สำหรับขนาดโซพราโน) อยู่ราว ๆ นี้ อาจจะถูกกว่านี้นิดหรือแพงกว่านี้หน่อย มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อนะครับ ส่วนมากแล้วจะเป็นไม้ลามิเนท หรือไม้อัด ต้นทุนในการสร้างก็เลยถูก เพราะใช้ไม้ราคาถูกมาซ้อนกันหลายชั้น แล้วก็เอาไม้ราคาแพงขึ้นมาหน่อยมีลวดลายสวยงามขึ้นอีกนิด มาปิดหน้า (ถ้านึกไม่ออกให้นึกถึงเฟอร์นิเจอร์ไม้ครับ อย่างเช่นโต๊ะไม้ที่ทำจากไม้อัด แล้วก็มีไม้สวย ๆ บาง ๆ มาแปะอยู่ด้านบน)

ข้อดี ราคาถูกครับเมื่อเทียบกับแบบอื่น แตกหักเสียหายไป ก็จะไม่เสียใจมาก เลิกเล่นก็ไม่เสียดายเงิน เอาไปตั้งโชว์ก็เก๋ไก๋ดี มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ บางตัวทำเป็นลายแตงโม สับปะรด กีวี ถ้ามีลายทุเรียนผมก็ว่าจะซื้อเหมือนกัน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นอย่างแท้จริง เสียงที่ได้ เมื่อเทียบกับเงินที่ซื้อค่อนข้างคุ้ม

ข้อเสีย เนื่องจากราคาถูก คุณภาพก็เลยตามราคา งานอาจจะไม่เรียบร้อย เสียงแต่ละตัวก็ต่างกันไม่ค่อยมาตรฐาน เสียงที่ได้จากไม้ลามิเนท (laminate) นั้น เทียบกับเสียงที่ได้จากไม้แท้ทั้งตัว (ไม้แท้ เค้าเรียกว่า solid) สู้กันไม่ได้ เสียงดีแค่ไหนก็มักจะดีได้แค่นั้น เรียกว่าเต็มที่ของมันแล้ว สาเหตุเพราะไม้ลามิเนท หรือไม้อัดนั้น มีจำนวนชั้นกาวที่ติดระหว่างไม้ชั้นต่าง ๆ ค่อนข้างเยอะ ซึ่งกาวถือเป็นศัตรูสำคัญที่ทำให้เสียงทึบ ไม้สั่นได้ไม่เต็มที่ ยิ่งถ้ามีหลากหลายสี ทาสีด้วยลวดลายต่าง ๆ ลงไป อาจจะยิ่งทำให้เสียงทึบยิ่งขึ้นไปอีก (แลกมากับความสวยงาม ต้องเลือกเอาหน่ะ) เปรียบไปเหมือนนักร้องที่เสียงใช้ได้ แต่มีหน้าตาเป็นอาวุธ ก็เลยได้ออกเทป ข้อเสียอีกข้อคือ พอเล่นแล้วชอบ มักจะต้องเสียเงินซื้อตัวที่สอง เสียเงินสองต่อซะ เวลาขายต่อมักจะราคาตก

ในหมวดนี้ก็จะมีอยู่หลายยี่ห้อ เช่น Makala, Mahalo, Ohana, Lanikai, Kala (บางรุ่น), Fluke, Flea (บางรุ่น), Oscar Schmidt

มาต่อกันด้วยแบบที่สองครับ "อูคูเลเล่แบบดี มีการพัฒนาเสียง" อูคูเลเล่ในหมวดนี้มักจะทำจากไม้แท้ทั้งตัว (solid) ไม่มีกาวมาเจือปนระหว่างชั้นเหมือนแบบแรก มักจะมีให้เลือกมากมายหลายแบบ เช่นไม้มะฮอกกานี ไม้อะเคเซีย หรือแม้กระทั่งไม้โคอา ราคาก็จะสูงขึ้นมาจากแบบแรก อยู่ที่ราว ๆ 4,000 - 10,000 บาท (ช่วงอาจจะกว้างสักหน่อย ราคาก็อาจจะคาบเกี่ยวกับแบบแรก แต่ข้อสังเกตคือ ต้องเป็นไม้แท้ทั้งตัว solid โลด)

ข้อดี แบบที่สองนี้เหมาะสำหรับผู้ที่หลงรักอูคูเลเล่เข้าให้แล้ว แบบแรกด้านบนเหมือนคนหมั้นกัน แบบที่สองนี้เหมือนขอแต่งงาน (ชั้นรักเธอเข้าให้แล้ว ต้องการลงหลักปักฐานกันหล่ะทีนี้) เสียงของไม้แท้นั้นมักจะดี และจะดียิ่งขึ้นตามกาลเวลาที่ผ่านไป สาเหตุเพราะไม้แท้จะเริ่มแห้ง ทั้งเสียงและทั้งทรง จะเริ่มเข้ารูปเข้ารอย ยิ่งเล่นบ่อยให้ไม้ได้สั่น ได้ดิ้น เสียงก็จะยิ่งดี แบบที่สองนี้มักจะเหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณ และพอจะรู้ตัวเองว่าสามารถเล่นไปเรื่อย ๆ โดยไม่ท้อแท้ เปรียบไปเหมือนกับคนที่ยินดีจ่ายเงินเข้าฟิตเนส จะได้ทำให้ตัวเองมีกำลังใจในการออกกำลังกาย เพราะเสียเงินไปแล้วจะนอนตีพุงก็กะไรอยู่

ข้อเสีย ราคาสูงกว่าแบบที่หนึ่ง แค่นี้หละครับ คิดไม่ออกว่ามีข้อเสียอย่างอื่นอีกหรือเปล่า อืม ... เอาเป็นว่าถ้าซื้อมาแล้วไม่เล่น เสียดายเงินหน่ะ เหมือนแต่งแล้วขอหย่า รู้สึกปวดใจ

ในหมวดนี้ก็จะมีอยู่เช่น Melokia (อันนี้คุ้ม ขอแนะนำ), Kala (บางรุ่น), Lanikai, Mainland, Fluke, Flea หมวดนี้มีเยอะหลายยี่ห้อ ทับ ๆ กันอยู่กับหมวดแรก ดูราคาอย่างเดียวไม่ได้ต้องดูที่ไม้ด้วย

มาต่อกันที่แบบสุดท้ายครับ "อูคูเลเล่แบบดี๊ดี มีแต่คนอยากได้" อันนี้ง่ายเลยครับ เป็นอูคูเลเล่แบบไฮเอนด์ หรือแบบไฮโซ ทำจากไม้แท้ทั้งตัวแน่นอน และมักจะเป็นแบรนด์ดังที่มาจากฮาวาย ญี่ปุ่น หรือบางทีก็มียุโรป เป็นงานแฮนด์เมด อาจจะมีเครื่องจักรเข้าช่วยนิดหน่อย แต่ต้องผ่านการเซ็ตอัพ ตรวจเช็คด้วยผู้เชี่ยวชาญ ราคาก็แน่นอนครับตามคุณภาพ ค่อนข้างแพง 10,000 ขึ้นไป ถึงหลักแสน

ข้อดี งานเนี้ยบ ให้เสียงกลมกล่อม เหมือนจิบไวน์ชั้นดี (ว่าเข้าไปนู่น) เป็นของแบรนด์เนม ใคร ๆ ก็รู้จัก ใคร ๆ เห็นก็อยากได้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีงบประมาณ และใจรักจริง เหมือนคนแต่งงานแล้วมีลูก ชั้นจะดูแลเธอและลูกตลอดไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตาม ข้อดีสุด ๆ คือจะทำให้มีกำลังใจในการฝึกหัดและเล่นอย่างต่อเนื่อง (โทษอุปกรณ์ไม่ได้แล้วไง ต้องโทษฝีมือผู้เล่นอย่างเดียว) เวลาขายต่อก็มักจะได้ราคา บางทีได้กำไรด้วยซ้ำไป เหมาะสุด ๆ สำหรับนักดนตรีมืออาชีพที่ต้องใช้อัดเสียง หรือมือสมัครเล่นที่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ ชอบเล่น หรืออาจจะซื้อเก็บไว้ เป็นการลงทุน

ข้อเสีย แพง ต้องมีใจรัก และเงินลงทุน แตกหักเสียหายไป น้ำตาถึงกับร่วงได้ (เหมือนภรรยาขอหย่า แล้วพาลูกหนี โอ้...ไม่) ต้องดูแลให้ดีเป็นพิเศษ เก็บไว้ในเคส ทะนุถนอม บางทีสวยเกินไป ไม่กล้าเล่นเพราะกลัวเป็นรอยก็จัดเป็นอีกหนึ่งข้อเสียได้เหมือนกัน เรือไม่ได้ถูกสร้างให้ขึ้นมาวางบนบก อูคูเลเล่ก็ไม่ได้ถูกสร้างให้มาวางตั้งโชว์ (คำค๊ม คม)

หมวดนี้ก็จะมีบิ๊กเค ของฮาวาย อย่างเช่น Kamaka, KoAloha, Kanilea, G String หรือ Martin เจ้าเก่า

ทีนี้ก็มาถึงคำถามยอดฮิตว่าตกลงแล้ว ควรจะซื้อรุ่นไหน ยี่ห้อ อะไรดี เมษาฮาวายฟันธงมาเลยได้มั้ย......อันนี้ตอบแทนยากมากครับ เพราะแต่ละคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อไม่เหมือนกัน สำหรับผม ผมเลือกที่จะซื้อแบบที่สอง และแบบที่สาม เพราะผมหลงรักเข้าให้แล้ว (หัวปักหัวปำ) ผมทำงานพอมีเงินเก็บนิดหน่อย พอซื้อได้ไม่ถึงกับเดือดร้อน

สำหรับน้อง ๆ ที่ยังอยู่ในวัยเรียน หรือคุณหนู ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้ ผมแนะนำให้ซื้อแบบที่หนึ่งครับ หรือพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ยังไม่รู้ใจตัวเอง ก็ลองดูก่อนไม่เสียหาย เพราะราคาไม่แพงมาก ถูกกว่าแบบที่สามหลายเท่าตัว แต่เสียงก็ไม่ได้แย่ถึงกับฟังไม่รู้เรื่อง หลายยี่ห้อนั้นคุณภาพดีคุ้มราคา แต่ต้องไปลองด้วยตัวเอง เพราะเสียงแต่ละตัวค่อนข้างผันผวน ในยี่ห้อเดียวกัน โมเดลเดียวกัน เสียงอาจจะต่างกันราวฟ้ากับดิน จะให้ดีคือต้องไปฟังกับหู ดูกับตา

เท่าที่ผมคุยกับคนที่เพิ่งเริ่มเล่นอูคูเลเล่ ย้งไม่เคยเห็นคนไหนที่เล่นแล้วไม่ชอบเลย (อาจจะมีบ้างแต่น้อย เทียบกับคนส่วนใหญ่ที่เล่นแล้วชอบ) แล้วผมก็ยังไม่เคยเห็นคนที่พอใจอยากมีแค่ตัวเดียว ส่วนใหญ่มักจะซื้อตัวที่สอง ที่สาม เนื่องจากอูคูเลเล่มีอยู่ถึง 4 ขนาด ไม้ก็มีให้เลือกหลากหลาย หลายแบบหลายดีไซน์ ความน่ารัก ข้อดี ข้อด้อย ก็ต่างกันไป ตัดสินใจไม่ถูก มีมันทุกขนาดทุกรุ่นซะเลย จบ

แต่ถ้าลังเลระหว่างแบบที่หนึ่ง กับแบบที่สอง เชื่อผมครับว่าเก็บเงินอีกซักหน่อย ยอมเพิ่มเงินอีกนิด กัดฟันนิดนึง ซื้อแบบที่สองดีกว่าครับ จะไม่ผิดหวังเลย เสียงที่ได้จะดี ยิ่งเล่นก็ยิ่งดี เหมือนให้ได้ลุ้นว่าเสียงจะพัฒนาขึ้นไปได้ถึงระดับไหน คุณภาพการผลิตได้มาตรฐาน อยู่กันได้นาน ๆ ถึงขายต่อก็ยังได้ราคาไม่ขาดทุนมาก เผลอ ๆ ซื้อมาขายไป ได้กำไรด้วย

คิดว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ไม่มากก็น้อยนะครับ ผมเขียนบล็อคเกี่ยวกับอูคูเลเล่อยู่เรื่อย ๆ ยังไงก็ลองติดตามกันได้ที่ www.maysahawaii.com หรือ www.baanukulele.com นะครับ มีคำถามอะไรก็สอบถามมาได้ที่ MaysaHawaii@gmail.com ได้ทุกเมื่อครับ จะพยายามตอบให้เร็วที่สุดเท่าที่เวลาจะอำนวยครับ

สุดท้ายนี้ ขอฝากไว้ว่า "อูคูเลเล่ตัวที่ดีที่สุด คือตัวที่อยู่ในมือคุณครับ"

May the uke be with you.

เมษาฮาวาย

ที่มา: http://forum.ukeclub.net/viewthread.php?tid=396&extra=page%3D1


บันทึกการเข้า

อันบัน ♥
เอาเลยหนูอร เปิดคนแรก(เลดี้เฟิร์ส) เดี๋ยวซื้อตาม  กรี๊ดดดดด ว้าววว นะนะ นะนะนะ
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
เล็ง Oscar Schmidt ไว้
กับอีกทางก็ฝากเพื่อนที่ฮาวาย  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

oscar schmidt พี่ศักดิ์จะซื้อตัวไหนของที่ไหนเหรอคะ?
เคยเห็นน้องคนนึงใช้สีขาว น่ารักมากๆเลย  กรี๊ดดดดด

ตอนนี้รอซื้อ Papa I อยู่... (รุ่นพี่สิงโตใช้)
แล้วเดี๋ยวค่อยเก็บตังค์ซื้อตัวเมพๆทีหลัง  หยี


บันทึกการเข้า

อันบัน ♥
เล็งไว้อะจ้ะ ว่าจะซื้อตัวนี้
ส่วนจะซื้อที่ไหน ยังหาๆ อยู่เลยน่ะ

Oscar Schmidt รุ่น OU2
หน้าตาประมาณนี้



ลองหาข้อมูลเห็นเค้าว่าให้ไปดูที่ร้าน Music Collection อะจ้ะ
ราคาประมาณ 3500 แต่ไม่แน่ใจว่ามีของมั้ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 17 ก.ย. 2010, 10:25 น. โดย คิ้วหนา กะ หนูบี » บันทึกการเข้า
oscar schmidt พี่ศักดิ์จะซื้อตัวไหนของที่ไหนเหรอคะ?
เคยเห็นน้องคนนึงใช้สีขาว น่ารักมากๆเลย  กรี๊ดดดดด

ตอนนี้รอซื้อ Papa I อยู่... (รุ่นพี่สิงโตใช้)
แล้วเดี๋ยวค่อยเก็บตังค์ซื้อตัวเมพๆทีหลัง  หยี




เบิ้ลหน่อย สีขาว ที่หนูอร ถามน่าจะตัวนี้มัง

แอบอ้าง

อันเดียวกับที่น้องคนนี้ใช้เลย  กรี๊ดดดดด

รักไม่รัก ลุลา (ukulele cover)
บันทึกการเข้า
อยากเล่นบ้าง  แต่เล่นดนตรีไม่เป็นเลยซักกะอย่าง  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
ผมก็ไม่เคยเล่นพี่
สมัยวัยรุ่นเคยเล่นกีต้าร์โปร่งได้พักนึงก็เลิก

ตอนนี้เลยว่าจะมาหัด อูคูเลเล่ มั่งล่ะ

ปล. ไปหาข้อมูลมาเพิ่ม Oscar Schmidt รุ่น OU2
มันมี 2 แบบ แหละ แบบธรรมดา ประมาณ 2500
กับแบบไฟฟ้า 3500 ไม่รู้จะเอาไงดี สงสัยต้องไปลองที่ร้านดู  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
อยากเล่นบ้าง  แต่เล่นดนตรีไม่เป็นเลยซักกะอย่าง  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
หน้า: 1 2 3 4 [5] 6 7 8 9 10 11 12 ... 31
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!