ปัญหาเรื่องไฟฟ้าบ้านเรานี่ กากยังไงก็ยังเป็นอย่างนั้นอยู่
ไฟไม่เรียบ กระแสไฟจ่ายมาไม่สม่ำเสมอ และอื่นๆ
เรื่องความปลอดภัยไม่ต้องพูดถึง เพราะแทบไม่มี
ข้อกำหนดมาตรฐานต่างๆ ของพี่ไทยแทบไม่มีกำหนด
เพราะชีวิตคนไทยราคาถูก
แค่เรื่องติดตั้งสายดินให้ได้มาตรฐานยังยากเลย
บางทีหม้อแปลงเครื่องปั่นไฟได้มาตรฐาน
แต่สายไฟเสือกไม่ได้คุณภาพ ขนาดไม่ได้ตามกำหนด
ไหนจะขั้วต่ออะไรต่อมิอะไร ไหนจะเรื่องคนมักง่าย
ไหนจะเรื่องพวกขโมยลักลอบตัดสายไฟไปขายอีก
ตูไม่แปลกใจหรอก ที่ระบบไฟบ้านเรามันถึงกาก
แล้วพวกเครื่องเสียงดีๆ หรือระบบเสียงเนี่ย มันอ่อนไหวกับปัจจัยพวกนี้มากๆ
คนเล่นเครื่องเสียงราคาแพงๆ ในเมืองไทย
ถึงต้องควรเผื่องบอีก 30 เปอร์เซนต์กับระบบไฟฟ้า
ต้องซื้อตัวกันไฟกระชาก เครื่องปรับแรงดันไฟให้เรียบ
ถ้าบ้านไม่มีสายดิน ก็ต้องติดตั้งสายดินใหม่
ไม่งั้นเครื่องเสียงราคาแพง ก็มีโอกาสเจ๊งได้อย่างง่ายดาย
สมัยก่อนตูต้องออกไปติดตั้งระบบเน็ตเวิร์คหน้างาน
ตามไซต์งานที่เพิ่งสร้าง ช่างเดินเคเบิลเน็ตเวิร์คโดนไฟดูดตายก็มี
คือปกติไฟส่องสว่างเวลาทำงาน ถ้าเป็นเมืองนอกเขาก็จะมีมาตรฐานของเขาอยู่
สายไฟหุ้มฉนวนเส้นเบ่อเร่อ ขั้วต่อก็เป็นฉนวนมีตัวล็อค
แต่สาเหตุคือ มีช่างก่อสร้างแม่มมักง่าย
เอาสายไฟที่ต่อไว้กับไฟนีออนชั่วคราวไปพาดผ่านรางใส่เคเบิลของเน็ตเวิร์ค
(ที่เป็นสายไฟเดินในบ้านเส้นยาวๆ ด้านนึงต่อกับไฟนีออนปลายทาง เพื่อให้แสงสว่างเวลาทำงาน
ส่วนอีกด้านก็เป็นสายไฟสองเส้นเปลือยๆ จิ้มเข้าไปในปลั๊กไฟ
เหมือนตามงานวัด
แล้วสายไฟนี่แม่มก็ถลอกปอกเปิก สายทองแดงเปลือยเป็นระยะๆ )
ตูว่ากรณียกเลิกคอนเสิร์ตอันนี้ฟังขึ้นนะ
เพราะถ้าจะยกเลิกเพราะคนดูไม่พอ ผลประโยชน์ไม่ลงตัว
มันคงจะยกเลิกก่อนหน้าไปแล้ว คงไม่ส่งทีมงานมาให้โดนไฟดูดเกือบตาย
อีกอย่างนึงคือ ชีวิตคนเมืองนอกเขาราคาแพงกว่าคนไทยนั่นแหละ
ดังนั้นอะไรที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิต เขาไม่ยอมเสี่ยงแบบคนไทยหรอก