หน้า: 1 [2] 3
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนภาษา กับครูสอนศาสนา  (อ่าน 9560 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
จริงๆ ในคัมภีร์ (เรียกงี้ได้ป่าว?) ของทุกศาสนา ก็มีตำนานที่สนุกดีนะครับ อ่านแล้วเหมือนอ่านนิทานเลย หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
ตบกับเข้าเรื่องนิดนึง

ศาสดา นี่ใช้คำว่าอะไรหรอครับ
แล้วคนเผยแพ่ศาสนาด้วย(แบบพระสงฆ์เนี่ยแต่เป็นคำเรียกแบบกลางๆ)
บันทึกการเข้า

หมายถึงสรรพนามเหรอ?

ปล. "เผยแผ่" นะครับ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
เอ่อ..
คำนามแหละครับ
ที่ไม่ใช่ บุดดาหลอด หรือ จีซัส แต่เอาคำที่สามารถสื่อได้ถึงของทุกศาสนาอะ มีป่าวหว่า

ปล.กะจะพิมพ์ว่าเผยแพร่แหละ(พิมพ์ตก) แต่มันใช้เผยแผ่นี่หว่า หน้าแตก
บันทึกการเข้า

ก็ใช้ว่าศาสดานี่ครับ หมีโหด~
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
มิชชันนารีอ๊ะเปล่า งง
พระอัญญาโกณฑัญญะก็เป็นนะครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เป็นคริสตัง ที่เข้าวัดไทยบ่อยที่สุดในสามโลก  กร๊าก

ไม่ได้อคติกับศาสนาใด และไปได้กับทุกศาสนาและความเชื่อ

เพราะจริงๆแล้วก็แค่เชื่อในสิ่งที่ทำให้ตัวเองสบายใจเท่านั้นแหละ ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

สนใจท่ออุตสาหกรรม​ เลือก DragonFlex นะจ้ะ​จุ๊บๆ​
ศาสดา (สาดสะดา)

 n.a savant, a religious prophet, the Enlightened One, namely the Buddha
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
ตูก็ชอบมันทุกศาสนาแหละ
ใครๆ หลายคนที่นี่ก็เป็น คงรู้ๆ กันอยู่ว่ามันน่าสนุกที่จะรู้

แต่ไม่ชอบให้มาจูง โดยเฉพาะศาสนาธรรมกาย ง่ะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ธรรมกายนี่ก็สนุกนะครับ ทำให้เรารู้ว่าการแปลงศาสนาพุทธให้เป้นอีกรูปแบบนึง มันทำเงินได้มากขนาดไหน 555
บันทึกการเข้า
น่าจะเป็นคนเกาหลีรึป่าวครับ

สมัยผมเรียนอยู่จะเจอบ่อยมากๆ  จะมีอาสาสมัครเกาหลีบินมาไทยเพื่อเผยพระวจนะแทบตลอดทั้งปีเลย
บันทึกการเข้า
แต่ก่อนก็จะมีฝรั่ง 2-3 คน มาที่บ้าน ตอนนั้นยังเด็ก ๆ อยู่เลย
แม่ก็โอเคยินดี ยอมให้เข้าบ้านมาสอน เอาหนังสือมาให้อ่าน เหมือนเล่านิทานให้ฟังนั่นล่ะ
รร.ก็รร.คริสต์ ก็ชิน ๆ + ชอบ ๆ แต่พักหลัง ๆ ไม่ไหว
พี่เค้ามาถี่เหลือเกิน มาชนิดที่ว่าตื่นเช้ายังไม่ทันไรมาแล้ว แล้วก็อยู่ยาววว

จะไปว่ายน้ำ จะไปไหนไม่ได้ไปกันเลยทีเดียว
ตอนหลังก็เลยล๊อกบ้าน ปิดม่าน ทำเหมือนไม่อยู่
หรือไม่ก็ให้แม่ไปบอกเค้าว่าลูกไม่อยู่ เห็นหน้าเค้าผิดหวังแล้วก็รู้สึกสงสาร
แต่ตอนนั้นวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ เราอยากพัก อยากไปไหนกันบ้างอ่ะนะ

ปล. ที่มีคนกลุ่มพวกนี้คอยเผยแผ่ศาสนาก็คงคล้าย ๆ กับที่เราทำบุญอย่างนึง
เช่น ที่เราพิมพ์หนังสือสวดมนต์แจก ชวนกันไปวิปัสสนาที่วัด อะไรแบบนี้ละ่มั้ง
ของเค้าก็คือ เผยแผ่ศาสนา ชวนคนมานับถือศาสดาของศาสนา
ให้คนรับรู้ถึงความเสียสละของพระเยซูคริสต์ ที่มีต่อมนุษย์
บันทึกการเข้า

ในสมัยเด็ก ผมเคยมีความคิดสับสนวุ่นวายเกี่ยวกับศาสนา

โดยเฉพาะแถวบ้านผมนั้นมีมิชชั่นนารีมาเผยแพร่อยู่มาก มีประกาศติดตามเสาไฟฟ้าและผนังต่างๆ

และในทุกศาสนาก็เป็นเหมือนกันหมด คือ มีศาสดา มีคำสอน และศาสดาจะรักคนที่เชื่อในพระองค์


แต่ผมก็พบว่าศาสนาหนึ่งที่ไม่เป็นเช่นนั้น คือ พระพุทธศาสนา  

พระพุทธศาสนา เป็นศาสนาเพียงแต่ในนาม แต่โดยเนื้อแท้คือหลักความจริงของธรรมชาติ

เป็นศาสนาเดียวที่มี หลักธรรมคำสอน เป็นศาสดาของศาสนา

คุณไม่จำเป็นต้องนับถือหรือเชื่อในพระพุทธเจ้า เพราะเมื่อคุณศึกษาพุทธประวัติอย่างเข้าใจแล้วก็จะพบว่าพระพุทธเจ้าก็เป็นเพียงมนุษย์คนหนึ่ง  

ที่ชาวพุทธเคารพนับถือและศรัทธาในพระพุทธเจ้า ก็เพราะว่าพระองค์ทรงเป็นแบบอย่างแห่งการประพฤติปฎิบัติ

เป็นตัวอย่างที่ดีของมนุษย์ธรรมดาแต่สามารถพัฒนาเป็นผู้ประเสริฐได้ และทุกคนก็สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้เช่นเดียวกัน

มิใช่นับถือเพราะพระองค์สามารถดลบันดาลสิ่งใดให้แก่เราได้ หรือทำให้เราไม่แก่ ไม่เจ็บ และไม่ตาย

ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือ พระพุทธศาสนาไม่เคยบังคับใครให้มานับถือศาสนา

หรือทำการช่วยเหลือโดยการสร้างเงื่อนไขให้มานับถือพระพุทธศาสนา

คุณอาจจะนับถือศาสนาอื่นก็ได้ ขอเพียงคุณอยากจะเป็นคนดี และเชื่อว่าธรรมะตามหลักของพระพุทธศาสนาทำให้คุณเป็นคนดีได้  

ที่สำคัญที่สุด คือ คุณต้องลงมือปฎิบัติด้วยตัวของคุณเองเสียก่อน


ธรรมะย่อมรักษาผู้ปฎิบัติธรรม (ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารี : พุทธพจน์)


มีหลายคนมากมายที่ยังไม่ทันได้นำธรรมะมาปฎิบัติ  อย่างจริงจังและเข้าใจ แล้วด่วนสรุปว่า ธรรมะล้าสมัย ใช้งานไม่ได้จริง

ธรรมะหัวข้อเดียวก็มีค่า ถ้าเราทำ แต่ธรรมะเป็นพันหัวข้อก็ไร้ค่า ถ้าเราไม่ทำ

ต้นไม้มีทั้งเปลือก กระพี้ และแก่น ฉันใด พระพุทธศาสนาก็มีทั้งเปลือก กระพี้ และแก่น ฉันนั้น

อยู่ที่ว่าเราเลือกจะศึกษาหรือจับเอาเปลือก กระพี้ หรือว่าแก่น เท่านั้นเอง

ปล.แก้ไขเพื่อให้อ่านง่าย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27 ส.ค. 2009, 17:55 น. โดย ขา...จอห์น[23] » บันทึกการเข้า

ก้าวแรกที่พลาดพลั้ง คือก้าวหลังที่มั่นใจ ก้าวแรกที่เสียไป คือก้าวใหม่ที่ได้มา...
 เจ๋ง
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ถามภาษาอังกฤษครับ ลืมบอก ฮ่าๆ ฮือๆ
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 [2] 3
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!