ตูนี่เสี่ยงมากถึงมากที่สุด
ตั้งแต่มันเพิ่งเริ่มแพร่ มีแค่แอลเอ ซานฟราน ฮ่องกง
ตูกวาดเรียบ ไปมาแล้วทุกที่
น่าแปลกว่าที่เมกาเนี่ย ผู้คนเค้าดูชิลกันยังไงไม่รู้ ขึ้นเครื่องมาก็ไม่ปิดปาก
อีพวกเกาหลีนี่แหละ ปิดกันพรึ่บพรั่บ ฝรั่งพากันตกใจ
"นี่เค้าเป็นรึปล่าวถึงได้ปิดปากกัน?"
เออเว้ย คิดต่างกันแท้ๆ อีซีกโลกเราคิดว่าปิดปากเพื่อป้องกัน
ส่วนอีกฟากกระโน้น คิดว่าปิดเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ
ว่าแล้วขอเล่าเรื่องการวัดอุณภูมิของแต่ละที่
ที่เมืองไทยขาเข้าไม่เจออะไรเลย นอกจากโต๊ะที่มีพยาบาลนั่งอยู่
(รึเป็นเพราะว่าพวกตูแยกจากผู้โดยสารก็ไม่รู้ หารู้ไม่พวกตูเนี่ยตัวเสี่ยงติดเชื้อกว่าผู้โดยซะอีก)
ที่เกาหมี เมื่อก่อนเป็นแค่ไอ้เครื่องสแกนอุณหภูมิ (ที่เมืองไทยเพิ่งจะมี)
ตอนนี้ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาดักรอหน้าเครื่องเพื่อวัดอุณภูมิกันเลย
เครื่องก็มีสองแบบคือ แหย่หู กับ แปะตรงคอ
บางวันพี่แกคงนึกครึ้มใจ อารมณ์ว่าชีวิตตูน่าเบื่อเหลือแสน
ใครยื่นหูให้พี่แกจิ้ม แกก็เอาแปะคอ ใครยื่นคอ พี่แกก็เอาทะลวงหู
โว้ววว ตูตกใจว้อย ดีไม่แยงแก้วหูตูบรรลัยหมด
ประเทศที่ประทับใจต่อมาคือสิงคโปร์ เป็นปรอทเลย
เรียลปรอท แต่แค่ปั๊ดตะนาเป็นระบบดิจิตอล แต่กลไกยังเหมือนเดิม
คือหนีบตรงจั๊กกุแร้ แล้วสิงคโปร์ร้อนไตแหกเหมือนบ้านเรา
ยูนิฟอร์มตูก็หนาเยี่ยงผ้าห่มเอสกิโม เต่าแตกจั๊กแร้จุ๊บกันทุกนาง
แล้วตูดันเป็นคนสุดท้าย
ปรอทเปียกมาเชียว
แต่ที่ชอบที่สุดคือฮ่องกง ไม่ต้องมาประชิดตัว ไม่ต้องมาจิ้มมาแปะ
ไม่ต้องมาหนีบที่จั๊กให้เหงื่อจุ๊บ
ฮ่องกงมีระบบ "ปืนเลเซอร์วัดอุณภูมิ"
ไอ้ม๋าแตกกกก
ตกใจแทบสิ้นชีวิต
เพราะโรงแรมที่ฮ่องกงเป็นโรงแรมในแอร์พอร์ต กำลังเดินเม้าๆไป
จู่ๆก็มีอาหมวยยืนดักหน้าทางเข้าพร้อมพูดว่า "เอ๊กจึ๊คิ้วซึมี"
แล้วเอาปืนเลเซอร์เล็งหน้าผากตู
แม่จ้าววววว มีไฟจุดแดงๆบนกะโหลกตูด้วยนะ
เกิดอาหมวยอีหยิบมาผิดอัน อั๊วมีซี้แหง๋แก๋กันแน่ๆ
ส่วนเพื่อนตูคนนึง โดนกักตัวที่เกาหลี 10 วันเต็ม
เพราะว่าในไฟลท์มีคนเป็นโรคนี้ 3 คน
คือไม่ใช่ว่าแค่เฝ้าระวัง หรือเข้าข่ายว่าเป็น
แต่ตรวจแล้วเป็นเลยจริงจังไม่ใช่สลิงและตะลิงปลิงแต่อย่างใด
JFK-ICN บิน 14 ชั่วโมงได้
ครอบครัวนี้มีห้าคน คือพ่อแม่ ลูกตัวน้อย ลูกสี่ขวบ ลูกหกขวบ
ผู้บริการโซนครอบครัวนี้คือเพื่อนตูเอง
ตอนขึ้นเครื่องมา ตัวแม่น่ะไม่สบายอยู่แล้ว
พอกลางไฟลท์ ลูกคนเล็กก็เริ่มมีไข้สูง 41 องศาแบบเฉียบพลัน
แล้วก็ลามมาลูกคนกลาง ลูกคนโต พอถึงอินชอนปุ๊บ
เพื่อนตูบอกว่า
"ตั้งแต่เกิดมาตูไม่เคยรู้สึกยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาก่อน
เพราะทุกคนกั้นผู้โดยสารคนอื่นออกหมด แหวกทางให้อี 7 คนนี้เดินออกไปก่อน"
คือครอบครัวนั้นห้าคน เพื่อนตู แล้วก็เจ๊ที่อยู่อีกฝั่งก็โดนหางเลขไปด้วย
ออกไปก็ตรวจกันยุบยั่บ ส่องหูส่องคอ เก็บชิ้นเนื้อ แล้วก็กลับไปนอนตุ๊มๆต่อมๆที่โรงแรม
ผลคือเพื่อนตูไม่ติดเชื้อ แต่เด็กสามคนนั้น
เป็นไข้หวัดใหญ่ H1N1 ชัวร์ป้าบ
โดนกักตัวไปซะสิบวัน มีแต่คนห่วงใย กลัวเอาเชื้อมาแพร่ในโรงแรม