ตกลงมันอันตรายขนาดนั้นเหรอเนี่ย

อันนี้ความรู้ใหม่จริงๆ
....
จริงๆนะเนี่ย

เพราะถ้ามองตามผลที่ออกมาตอนนี้ มันเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่น่ากลัวน้อยกว่าสายพันธุ์ปกติซะอีก
....
อนึ่ง
เมื่อเย็นวาน ผมตรวจนักเรียนเซนต์กาเบรียลไปคนนึง และตรวจนักเรียนโรงเรียนโยนส์ออฟอาร์คไปคนนึง (มากัน5คน มีพ่อแม่พามาเป็นกลุ่มใหญ่)
เหนื่อยกับการอธิบายเหมือนกัน เพราะดูเหมือนว่าภาพจากในข่าวมันฝังใจจนกระทั่งเค้าไม่เปิดรับข้อมูลทางการแพทย์เท่าไหร่แล้ว
วันนี้มีมาอีก20คนแต่ว่าหมอคนอื่นตรวจ
วันนี้อาจารย์รองหัวหน้าภาควิชาเรียกประชุม เนื่องจากเกิดปัญหาขึ้นแล้ว เพราะว่านักเรียนที่มา มามากเกินไป และเริ่มมีการผลักภาระในการตรวจมาให้ภาควิชาที่ผมอยู่...
อย่างเมื่อวานผมอยู่เวรตั้งแต่สี่โมงเย็น ... ผมเจอเรียกไปตรวจเด็กที่พ่อแม่สงสัยว่าจะเป็นหวัดตัวนี้ โดยที่เด็กไม่ได้มีอาการของไข้ ... เด็กมีน้ำมูกไหลกินยาภูมิแพ้มาหลายเดือน ... อธิบายนานมากๆ
ใช้เวลาไปนานมาก เพราะว่าเรื่องนี้มีหลายฝ่ายเกี่ยวข้อง
มีเอกสารให้ผมมานั่งกรอก (มีเอกสารที่ข้อมูลซ้ำซ้อนกันสองชุด พอประกอบกับต้องเขียนเวชระเบียน ก็เป็นสามชุด)
เด็กแต่ละคนเวลาซักประวัติก็ไม่ได้ง่ายๆ ...
แล้วสุดท้ายอะไร ... ต้องมาเสียเวลาตรวจและทิ้งคนไข้ที่หนักจริงๆ มาตรวจเด็กที่เป็นภูมิแพ้ และตอบคำถามผู้ปกครองทีละคน
...
ตอนนี้ที่โรงพยาบาลก็มีนักเรียนเซนต์กาเบรียลมานอนอยู่สองคน
คนนึงอาการหนักพอสมควร ตอนนี้ยังไม่ระบุว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ไหน ...
อีกคนอาการไม่หนัก
ปัญหาคือไม่มีตึกที่จะให้นอน
มีการเปิดตึกส่วนหนึ่งให้ใช้เป็นตึกที่จะนอน ... มีการเตรียมจัดหมอให้ไปตรวจ ...
ปัญหาที่ตามมาก็ยังมีอยู่คือ ไม่มีพยาบาลยอมไปขึ้นที่ตึกดังกล่าว
ตอนนี้ปัญหากำลังหนักครับ
คนตระหนกกันมากเกินไป
มากเกินไปจนกระทั่งทำในสิ่งที่ไม่ค่อยเหมาะ
มากเกินไปจนกระทั่งตอนนี้เริ่มส่งผลต่อคนไข้หนัก(จากโรคอื่น)
....
เหนื่อยครับ
เมื่อวานไม่ได้กินข้าวเย็น นอนตอนตีห้า
...
เข้าใจนะครับว่าคนที่ไม่รู้ก็ย่อมจะกังวล
แต่สงสัยว่าทำไมมีการออกจดหมายเวียนให้เอานักเรียนไปตรวจที่โรงพยาบาลแบบหว่านแห ประมาณว่านักเรียนที่มีอาการน้ำมูกไหลเป็นหวัดต้องระวังโรคนี้
ไม่มีการให้ข้อมูลในจดหมายเวียนเลยว่าจริงๆแล้วอย่างน้อยต้องมี"ไข้"
ถ้ามีการสื่อสารที่ดี ... มีความใส่ใจสักนิด เอาข้อมูล"จริงๆ" ที่มีหมอและนักวิชาการให้สัมภาษณ์"ตามหลักวิชาการ" ไปลงข่าวแบบดีๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา
นี่เอาแต่ข่าวแบบเว่อร์เกินจริงไปลง
ผลคือวุ่นวายกันไปหมด