เคยมีคนชวนพี่ไปเล่นเหมือนกันค่ะ
http://www.f0nt.com/forum/index.php/topic,7761.msg984533.html#msg984533ตอนแรกโทรมาถามว่า ว่างไหม มาเล่นเกมส์กัน ง่ายๆ ไม่ยากหรอก คล้ายๆ เกมส์เศรษฐี (โทรจิกมาก)
เนี่ยมันต้องเล่น 4 คน คนไม่ครบมาเล่นหน่อยน้าาาาาาาา
ไม่อยากไปหรอก แต่มันขับรถมารับ
ไปถึงจะเจอทีมงานอีก 3 คน เป็นผู้หญิง 1 ผู้ชาย 2 ( ไม่นับคนที่ถูกชักชวนมาอีก 3 กับไอ้คนชวนอีก 1 )
ผู้หญิงบอกว่าจบรั้วเหลือง-แดงมา ผู้ชายบอกว่าเรียนอยู่รั้วชมพู ส่วนอีกคนเพื่อนไอ้คนโทรชวนนั่นแล
คนชัีกชวนมาเกริ่นชวนเชื่อ ระหว่างนั่งรอเค้ากางกระดาน
" เกมส์เนี้ยสนุกมากจริงๆ นะ เลยอยากให้มาลองเล่น "
" เป็นเกมส์ที่ดี สามารถบอกอนาคตเราได้เลยนะ "
" เกมส์นี้หาเล่นยาก ไม่มีขายตามท้องตลาด บริษัทพี่(ผญ)เค้าซื้อลิขสิทธิ์มาอีกที ตอนนี้ไม่มีขายแล้ว"
" เกมส์นี้แพงมาก ถ้าไปซื้อมาเล่นเองนี่ สี่ห้าพันเลย แต่อย่างที่บอกไม่มีขายแล้ว "
" ถ้าอยากเล่นอีกครั้ง ที่กรุงเทพก็มีที่ตึกช้าง เล่นครั้งละพันห้า หรือยังไงนี่หล่ะไม่แน่ใจใช่ไหมพี่(ผญ) แต่เีนี่ยเอามาให้เล่นฟรีเลยนะ "
บลา บลา บลา
อธิบายการเล่น
เท่าที่จำได้ สปอยไปในตัว กระดานนึงเล่น 4 คน ใช้เวลา
ประมาณ 1 ชั่วโมงต่อเกมส์
แต่ละคนก็จะได้กระดาษ A4 ที่ระบุอาชีพ เช่น แพทย์ นักธุรกิจ โดยแต่ละอาชีพเงินเดือนไม่เท่ากัน
ซึ่งส่งผลต่อการซื้อ การกู้ยืมเงิน การซื้ออสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ หุ้น ของเกมส์
เล่นเหมือนเกมส์เศรษฐี แต่ละคนจะมีหมุด อ่า เค้าเรียกว่าอะไรหล่ะ เอาเป็นว่านั่นแหละพอนึกออกเนอะ
ทอยลูกเต๋าสองลูก ได้กี่คะแนนก็จับตัวหมุดเดินในกระดาน เดินวนครบ 1 รอบจะได้รับเงินเดือนตามแต่อาชีพ
โดยแพทย์จะเงินเดือนสูงสุด ถ้าเดินตกช่องโอกาส (มีใหญ่ และเล็ก) ให้หยิบกระดาษ(วางกองไว้ริมกระดาน)มาอ่านว่าได้อะไร
แล้วให้ตัดสินใจว่าจะเอา-ไม่เอา อาทิ ซื้อหุ้น Entertainment ได้ในราคาหุ้นละ 50 บาท (ให้ตัดสินใจว่าจะซื้อไหม ซื้อเท่าไหร่กี่หุ้น)
ซื้อบ้านเช่ากี่ ตร.ว ก็ว่าไปได้ในราคาเท่านี้ๆ เล่นๆ ไป สามารถปล่อยขายให้คนอื่นได้แล้วแต่การเดินตกช่องในกระดาน
ถ้าเดินตกช่องตกงานจะหยุดเดินไป 2 รอบ ไม่ได้รายรับ (เงินเดือน)
ใครสามารถเข้าไปเดินช่องด้านในก่อน ช่องด้านในเส้นทางโรยด้วยกลีบกุหลาบมาก
หรือชนะในเกมส์ก็หลุดพ้นอะไรทำนองนั้น (พอดีไม่ชนะเลยจำไม่ได้
)
พอหมดเวลาก็จะมาดูว่าใครมีอสังหาเยอะสุด มีหุ้นเยอะ
สรุปคือมีเงินเยอะที่สุดนั่นแหละเค้าอธิบายต่อโดยการเปิดพาวเวอร์พอยน์ สรุปผลของการเล่นเกมส์ ว่าแต่ละคนเป็นคนจำพวกไหนใน 4 แบบ
แทนด้วยอักษรย่อภาษาอังกฤษ 4 ตัว
ประมาณว่า เป็นคนที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองโดยไม่ต้องบริหารเอง ไปไหนก็ได้ มีวันหยุดตามใจชอบ รายได้เยอะ
เป็นคนมีธุรกิจเป็นของตัวเองแต่ทำงานหนักไปไหนไมได้ ต้่องทำงานตลอดเวลา หรือชอบเป็นลูกน้องเค้าไปวันๆ...
การอธิบายของเค้าเราจะได้ยินศัืพท์เทคนิค
กรุงเทพ(อันนี้ตลก)เฉพาะพรั่งพรู ไม่ได้เรียนด้านธุรกิจมาอ่านจะเอ๋อได้
จะมีการเล่าประวัติคนคิดเกมส์นี้ว่าเค้าเจ๋งแค่ไหน มีรายได้ดีแ่ค่ไหน
และสุดท้ายสรุปจบว่า
กลุ่มของเค้าก็กำลังทำธุรกิจเช่นกัน กลุ่มเค้าเป็นกลุ่มเพิ่งเริ่มโต ชื่อกลุ่ม....
ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาซึ่งยังเรียนอยู่ แต่บางคนได้รายได้แล้วเดือนละเป็นหมื่น (นึกสีหน้าคนพูดออกไหม
)
และไปจัดงาน ออกบู้ธ ย่านสยามอยู่บ่อยๆ โดยไปเปิดให้เล่นเกมส์นี้แล (ฟังแล้วนึกว่าจะหาคนไปขาย ไปเชียร์เกมส์
)
เค้าบอกว่า กลุ่มเค้าจะมีการสัมมนาพูดคุยกันบ่อยๆ แต่ไม่ได้มีสำนักงาน เพราะแต่ละคนก็มีงานประจำของตัวเองอยู่แล้ว
บางคนก็เป็นนักศึกษา เวลาสัมมนาจะเชิญคนเก่งๆ มาพูด รู้จักไหมคุณบัณฑิต อึ้งรังษี หนูดี อะไรอย่างงี้เป็นต้น
ล้วนเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทั้งนั้น ถ้าสนใจเดี๋ยวเที่ยงวันเสาร์ที่จะถึงทีมเค้าจัดรถตู้มารับที่ ม. เสียค่าใช้จ่าย 150 บาท
เป็นค่าเข้าฟังสัมมนาเท่านั้น ค่ารถไม่คิดเลยนะ ไป-กลับ ด้วย สนใจรีบจองเลยนะ เดี๋ยวที่นั่งเต็ม
พอเค้าพูดเสร็จเรียบร้อยเค้าก็ขอตัวกลับ เจ้าของห้องก็เดินไปส่ง
ก็นั่งคุยรอเจ้าของห้อง (คนที่รับมาเล่นเกมส์) ก็คุยกันว่ามันแอมเวย์ปล่าวเนี่ย
เพราะเค้าพูดเล่าๆ เสร็จ
เค้าก็ไม่บอกนะว่าทำธุรกิจอะไร แต่ให้ไปบอกต่อเพื่อน ชวนเพื่อนให้มาเล่นเกมส์กันเยอะๆ แต่ห้ามไม่ให้เอาเรื่องเกมส์นี้ไปเล่าต่อ
ด้วยเหตุผลว่าเดี๋ยวเพื่อนไม่สนุก เดี๋ยวรู้ก่อน เดี๋ยวผลไม่ชัวร์ ทำนองนั้น
คุยไป-คุยมา พอคนชวนมาก็ถามตรงๆ ว่า
สรุปนี่ใช่แอมเวย์ไหมครับคุณแล้วเค้าก็ยอมรับว่า
ใช่ แล้วก็บอกว่าที่ไม่บอกก่อนเพราะว่ากลัวไม่มาฟัง
แต่ได้ประโยชน์จากการเล่นเกมส์กันใช่ไหมหล่ะ ว่าแต่สนใจกันไหม!!!!!!!...
หลังจากวันนั้น ก็โทรมาแบบไม่ปกติเลยหล่ะ จิกให้ไปฟังสัมมนา
เลยรู้ว่า มันเป็นวิธีชักชวนรูปแบบใหม่ของกลุ่มขายแอมเวย์ของเค้าหล่ะจ้ะ // บอกไปว่าไม่ว่าง ที่บ้านทำแล้ว ไม่เชื่อก็วีนไปให้รู้ตัวบ้างทำนองนั้นหล่ะ
ธรรมดาไปแถ้ดแถด้วยกัน กินข้าวกัน ตอนนี้ไม่ได้คุยกับน้องคนที่ชวนแล้ว
ประโยคแรกพูดเหมือนห่วงใย แต่ประโยคต่อมาขายของ