มีคนลิ้งมาจากกระจู๋นู้น ขุดเลยแล้วกัน
พอดีว่าพึ่งค้นพบว่า การใช้ภาษานี้เป็น มันทำให้อะไรต่างไปอย่างไม่น่าเชื่อเลย
คือว่า ผมนั้นรู้สึกเฉยๆกับการใข้ภาษาอะไรได้ ไม่ได้คิดว่ามันเป็นความสามารถ
หรือเรื่องต้องไปยุ่งยากวุ่นวายอะไรด้วยถึงปานนั้น
คิดด้วยซ้ำว่า จะไปยกย่องให้ความสำคัญอะไรนักหนา
ทุกวันนี้ก็ยังคิดแบบนั้นอยู่นั่นแหละครับ ใช้ได้ก็ใช้ไป
อยากรู้เรื่องมั่งก็ลองเรียนเอาเองดูตามสะดวก
แต่ทีนี้อะไรที่มาค้นพบเอาเมื่อไม่นานมานี้ พอได้มาทำงานในออฟฟิศแห่งหนึ่ง
(ที่เข้าบ้างไม่เข้าบ้าง) ก็ค้นพบว่า ในท่ามกลางผู้บริหาร หรือคนทำงานฝั่งบริหาร
มาร์เก็ตติ้ง บุคคล หรืออะไรงี้ที่แต่งกายดูดีๆมีความน่าเชื่อถือ และเทียบกับผม
ที่ดูซกมกและทำตัววัยรุ่นไม่น่าเชื่อถือเอาซะเลย แต่พอดีในการประชุมวันนึง
ต้องมีการใช้งานภาษาฝรั่ง กลับกลายเป็นว่าเรานั้นดูเด่นเป็นสง่า
เจรจาเป็นมนุษย์มนา ทำให้เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจสำหรับตัวเองมาก
และพึ่งค้นพบประโยชน์ของมันจริงๆเอาก็ตอนนี้แหละ
ส่วนที่เคยใช้อย่างเป็นประโยชน์ เช่นใช้กำกับรายการที่เป็นภาษาฝรั่ง
ผมแค่คิดว่ามันเป็นงานๆนงทั่วๆไป ไม่ได้คิดไร และที่ใช้บ่อยๆ
ก็น่าจะเป็นการเขียนอะไรส่งพวกเอเจนซี่ ซึ่งเขาจะใช้ภาษาอังกฤษ
ในการส่งข้อมูล อีเมลกน ทั้งที่คนอ่านกับคนเขียนก็หน้าขเมรเหมือนกันหมด
แต่ทุกคนต้องใช้ภาษาอังกฤษ พวกพรีเซ้นพร็อพพอเซ่าอะไรงี้เหมือนกัน
เป็นเรื่องที่น่ารำคาญใจผมเสมอมา ผมก็เข้าใจว่า เพื่อความน่าเชื่อถือ ทำให้ดูฉลาด
(เหมือนกับในห้องประชุมนั่น ที่เปลี่ยนคนซกมกมาเป็นน่าเชื่อถือได้)
ใครเป็นคนเริ่มประเพณีนี้เป็นคนแรกก็ไม่รู้ แล้วที่สำคัญ ตกลงว่าภาษา
ไม่ได้มีไว้เพื่อการสื่อสารหรอกเหรอ มาเอาไว้โชว์ความฉลาดเนี่ย