งาน Type แนว Deconstruction อาจจะเป็นข้อสรุปของงานกราฟิกยุค '90
โดยมีดีไซน์เนอร์อย่าง David Carson หรือ Why not Associates เป็นตัวชูโรง
ช่วงต้นของสหัศวรรษใหม่ยุคครึ่งแรก 2000-2005 งานแนวสแกนดิเนเวียน กราฟิกที่คล้ายสถาปัตย์มี 3D มาผสม
เกือบเป็นข้อสรุปทั้งหมดของช่วงนี้ งานกราฟิกเริ่มพาตัวเองมาเข้าใกล้งาน Fine Arts มากขึ้น
เป็นยุคที่คนทำงานกราฟิก เริ่มมาปล่อยของทาง internet กันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
งานของ Mike young, Joshua Davis และอีกหลายๆคนเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนหลายต่อหลายคนที่ตามงานทางเว็บไซต์
งาน vector และคาแรคเตอร์เริ่มแทรกๆตัวเข้ามา แต่ยังไม่ได้รับการยอมรับมากนัก แต่เริ่มเห็นๆจุดเริ่มต้นที่ประสบความสำเร็จกันแล้ว
ของเล่นแบร์บริกที่มีลวดลายกราฟิก, งานคาแรคเตอร์ Tofu ของ Devil Robots, กระเป๋าหรูที่เอาลาย Tokidoki ไปทำแล้ววางขาย
งาน vector มันนำพาตัวเองต่อเนื่องมายังครึ่งหลัง 2005-2010 ซึ่งอาจจะเรียกว่าเข้าสู่งานแนวแม็กซิมั่ม งานถึกๆ รายละเอียดยุ่บยั่บ
งาน vector เริ่มกลับมาผสมโดยใช้งาน Rastor (จำพวกงาน Retouch) บางงานมีกลิ่นอายของการใช้งานมือ อย่างตัดแปะ คอลลาจ ดรออิ้ง
รวมไปความรู้สึกของงานแนวภาพพิมพ์อิชชิ่งก็ยังมีคนทำออกมาให้เห็น
ว่าไปไอ้แนวๆแม็กซิมั่มนี่มันก็เป็นข้อสรุปของงานกราฟิกยุคครึ่งหลังของ 2000-2010 เลยนะ
พวกนี้คือเทรนด์ที่มันเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่คนที่เขาทำงานจนมีสไตล์เป็นของตัวเอง มันก็ยังมีชื่อ-มีงานอยู่ได้ถึงปัจจุบัน
อันนี้เอาตามที่ผมศึกษาและดูมาอย่างมั่วๆของผมนะพี่โอ๋ เอากันตามความรู้ที่พอจะเล่าได้โดยไม่เปิดตำราอะไรมาก
จริงๆผมว่างานมันมีหลายแบบหลายแนว แต่ช่วงนี้มันแห่แหนไปทางฝั่งที่บอกเอาซะเยอะมากแค่นั้น
นึถึงเพลงอัลเทอร์ หนังสือทำมือ หนังสั้น ที่มันเป็นกระแสเหมือนเรื่องกราฟิกแนวนี้เช่นกัน
พวกตัวจริงๆมันทำก่อนที่จะบูม แม้หายบูมแล้วมันก็ยังทำอยู่แบบนั้น คือมันทำของมันอยู่ก่อนแล้ว
แต่พวกที่มาทีหลังอาจจะกลายเป็นคลื่นลูกใหม่หรือเข้ามาตามกระแสแล้วจากไปก็มี
แล้วก็มาสะดุดที่อันนี้.....
ก็อย่างที่ว่าละครับ กราฟิกกลุ่มดังๆของไทย
ผมก็ยังแอบเห็นว่า เค้าก็ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองนอกเค้าเหมือนกันนะ
แต่อยู่ที่ว่า ใครจะทำได้ดี ใครทำก่อนก็ดังไป
บอกสั้นๆว่า
"ก็ใช่แหล่ะ" โดยมากเป็นแบบนั้น บางคนบางกลุ่มงานเขาโดนดั๊นดันโดยคนรู้จัก สื่อ หรืออะไรก็ตาม
ดังนี่ดังจริง แต่ก็ดังแค่ในประเทศนะ เพราะออกไปข้างนอกในระดับนานาชาติมีคนทำงานแนวนั้นๆไปมากแล้ว มีเป็นร้อยมีเป็นพัน
และทำเจ๋งกว่ามากมาย มันไม่ใช่แรงบันดาลใจ แต่เป็นการลอกแบบดัดแปลงอย่างชาญฉลาด
ทำให้งานออกมาสวย เท่ห์ หล่อ โดยเอาจริตต่างชาติมายัด
ของจริงไม่ต้องกลัวน้ำร้อนครับ ออกไปไหนก็สู้เขาได้ แต่ถ้าออกไปแล้วเขาเมินเขาไม่เอา
ไม่ยอมรับงานคุณแถมด่าเหน็บกลับมานี่ มันก็ไร้ประโยชน์
พอข้างนอกเขาไม่สน ก็กลับมาแอ๊คมาโชว์คนไทยด้วยกันก็ได้ฟร่ะ ไอ้แบบนี้นี่เยอะมากนะ
ให้สังเกตุการรวมเป็นกลุ่มกราฟิกบ้านเรา จะค่อนข้างต่างจากต่างชาติ ไม่ได้รวมกันเพื่อทำงานเป็น unity เดียวกันunity คืออะไร? มันก็คือลักษณะเด่นของงานที่ออกมาว่าเป็นยังไง คนที่ตามๆงานต่างประเทศมาบ้าง
จะรู้ว่า Devil Robots, Phunk, เขาก็มีกัน 3-4 คนในกลุ่ม
เวลาเอางานไปแปะที่ไหนหรือทำให้ใคร อยู่บนงานอะไร มันไม่ต้องบอกหรอกว่าใครทำ เห็นก็รู้เลย ทั้งหมดในกลุ่มเขาทำงานเป็น unity ได้
ผิดกับงานบ้านเรานะ โดยเฉพาะที่เป็นกลุ่ม จะมาแบบคนละทิศทาง คนละแบบ อาจจะเป็นทั้งข้อดีข้อเสีย แต่คุม unity ให้เป็นหนึ่งไม่ได้
เวลาไปแปะตัวงานโต้งให้เห็นๆรวมกันหลายๆคน หลายๆกลุ่ม แล้วไม่รู้เลยว่าที่ไหนทำ รู้แค่ว่าสวย เท่ห์ แต่ใครทำฟร่ะเนี่ย
บางครั้งรู้สึกว่ามารวมกันเพื่ออะไร เพื่อต่อรองธุรกิจ เพื่อหาลูกค้า เพื่อพัฒนางาน หรือเพื่อฆ่ากันเองในวงการ...
หลายกลุ่มมาแบบไปเร็ว มาเร็ว แตกดับไปตามกาลเวลา คุณอยากดังแบบประเดี่ยวประด๋าว ขึ้นมาแล้วก็จากไป
หลายกลุ่มหลายคนหายไปแบบไม่มีตัวงานให้เล่าขาน มันจะมีประโยชน์อะไร ถ้ารักษาระยะและสร้างอะไรใหม่ๆไม่ได้เลย
วิธีคิดงาน คิด visual มันมีวิธีของมัน แรกๆอาจจะ Copy>>inspire ก็ว่ากันไป
แต่อยากจะบอกว่าพอถึงจุดๆหนึ่ง ลองไปคิดที่รากแบบง่ายๆ้้เลย อาจจะเจอคำตอบว่าอะไรหรือสิ่งไหนที่เราควรจะนำมาใช้
บางอย่างเราคิดไม่ถึง มองข้าม มันอาจจะนำมาใช้ได้ แม้สิ่งที่มันดูทุเรศก็ตาม เอามาทำใหม่ให้ดีมันก็ได้นี่นา
สิ่งที่เราเรียนรู้จากตำราตะวันตก มันเป็นจริตเป็นเปลือก ซึ่งบางอย่างทำตามเขาไปหมด ก็ใช่ว่าจะโอเค
ตัวอย่างคือ งานแนว Type บ้านเราทำสู้ฝรั่งมันไม่ได้ เพราะรากจริงๆเราพึ่งมีหลักศิลาจารึกช่วงสมัยพ่อขุนรามฯนี่เองก็ประมาณ 600-700 ปี
แต่ทางยุโรปน่ะโฮเมอร์มันเขียนโอดิสซี่มาตั้งแต่ 1,000-2,000 ปีที่แล้ว เขาผูกพันกับตัวอักษรมากกว่าเรามาก
ลองอะไรมาเยอะกว่า นานกว่า อันนี้คือข้อแตกต่างระหว่างเรากับเขา
บางทีไม่ต้องเชื่อตรูหมดก็ได้นะ แค่อ่านๆแล้วก็เอาไปคิดผสมๆกับความรู้ของตัวเอง แต่อาจจะงงยิ่งกว่าเดิม