โอ้ งั้นเดี๋ยวช่วยลิสต์คำถามให้ครับ
พี่ๆ จุฬาฯ ใจดีจะได้มาตอบให้
- ตอนนี้จะขึ้น ม.5 แล้ว ติวทันไหม
- เขาติวที่ไหน จะเริ่มยังไง
- เขารับเข้ายังไง สอบตรงหรืออะไรแบบนี้ ช่วงไหน (อันนี้ต้องรู้ด้วยไหม)
- การสอบต้องสอบอะไรบ้าง
- วาดรูปไม่เก่งทำยังไง (ข้อนี้ทึกทักเอาเอง ถามเผื่อคนที่มีปัญหาด้านนี้)
- ถาปัดจบไปแล้วทำอะไร (ข้อนี้เดี๋ญวมาช่วยกันเล่นได้ครับ)
- ทำยังไงให้ติดชัวร์
- เบอร์พี่เบลล์..
มาช่วยตอบคำถามจากลิสต์พี่แอน 
- ทันครับ ถ้าขยันพอ แน่นอนว่าสู้พวกที่ขยันเท่ากัน แต่ติวมาตั้งแต่ม.ต้นไม่ได้
แต่ที่แน่ๆ เหมือนกันคือ ยังไงก็จะเก่งว่าคนที่ติวมาพร้อมกันแต่ขยันน้ิอยกว่า
สรุป.. ผมเชื่อว่า skill เกิดจากการ practice

แถมนิดนึงเรื่องติว ปกติที่ติวกัน จะเป็น "ติวเพื่อสอบ" เพราะที่ติวกันแทบจะไม่ได้ใช้เรียนเลย
แต่ข้อสอบมันดันตั้งมาตรฐานอะไรมาไม่รู้ ว่าจะวัดด้วยวิธีนี้ การติวมันก็เลยออกมาแบบนี้เหมือนกัน
อ้อ สอบคามถนัดสมัยผมนี่ถามความรู้รอบตัวด้วยนะครับ วันๆ เรียนหนังสืออย่างเดียวไม่สนโลกเนี่ย ก็จะตอบพวกนั้นไม่ได้เลย
- อยากเข้าที่ไหน ให้ไปติวที่นั่นครับ
ถ้าน้องเขาอยากเข้าที่นั่นเองอยู่แล้ว ไม่ใช่เพราะพ่อแม่ รับรองว่าติวที่ไหน มักจะทำให้มีแรงอยากเข้าไปเรียนที่นั่นมากขึ้น
ผมไม่ค่อยชอบโรงเรียนติวนะครับ ติวตามหน้าคณะนี่แหละ ถูก สนุก ได้เห็นวิถีชีวิต หรือแม้่แต่รู้จักรุ่นพี่ - เพื่อนตั้งแต่ก่อนเข้าเรียนเลยทีเดียว
- ไม่เข้าใจวิธีการสอบเข้ามหาลัยเดี๋ยวนี้เลยครับ แต่เรื่องสอบตรง หาเบอร์ แล้วโทรไปถามได้เลยครับ
อย่างบางมดเนี่ย รับตรงจะรอบสามแล้วนะครับ (ต้นเดือนหน้า)
แล้วเท่าที่ทราบมีรับตรง กันหลายที่นะครับ
- สมัยผมภาษไทย กะสังคมต้องผ่านเกณฑ์ แต่ไม่เอาคะแนนมารวม
วิชาที่เอามาคิดคือ ฟิสิกส์ เลข ภาษาอังกฤษ และความถนัด
ความถนัดจะคะแนนไม่ห่างกันมาก มันจะมีช่วงกว้างๆ ของคะแนนอยู่ คือผมว่าไปแข่งกะคนอื่นยาก
แต่ถ้าได้อังกฤษ และวิชาคำนวนดี จะได้เปรียบคนอื่นมาก เพราะเด็กคณะนี้ส่วนใหญ่ ไม่ชอบ และไม่ถนัดคำนวน

- วาดรูปไม่เก่ง.. ทำใจครับ (ล้อเล่น)
ผมเป็นตัวอย่างของเด็กเรียนถาปัดที่ "วาดรูปไม่เป็นครับ" แต่จริงๆ แล้วผมว่าเวลาเรียนเนี่ย
เรื่องที่สำคัญคือ scale ครับ ไม่เพี้ยนเป็นใช้ได้ วาดคนให้ดูว่าเป็นคน ต้นไม้เป็นต้นไม้ก็เหลือเฟือแล้วครับ
คือเอาให้ดูออกน่ะ หรือใครจะหาทางออกด้วยเทคนิกอื่นเช่นพวก CAD (Computer Aid Design) ก็ได้ครับ
- จบไปเป็นตลก เป็นดารา เป็นทหาร เป็นตากล้อง เป็นผู้กำกับ เป็นสไตลิช เป็นนักแต่งเพลง เป็นเจ้าของกิจการ เป็น ฯลฯ
เหมือนจะตลก แต่คนที่ผมรู้จัก จบไปเป็นสถาปนิกน้อยมากเลย

~
จริงๆ แล้วการเรียนแบบคณะนี้ มีข้อได้เปรียบเรื่องวืธีการคิด เรามีจินตนาการที่ดีอยู่บนพื้นฐานความจริงมากกว่าอาชีพใดๆ ในโลก
เนื่ิองจากถ้าจินตนาการนั้น ไม่มีความเป็นไปได้ทางวิทยาศาสตร์ แน่นอนว่าไม่เวิร์กแน่นอน
ในทางกลับกัน ถ้าเราคิดด้วยหลักการแหละเหตุผลอย่างเดียว ก็จะขาดเรื่องความดึงดูด ความงาม ฯ ไปได้
คิดเองเออเองว่า สมดุลย์กว่าใคร เพราะมีทั้งเหตุผล และความขบถไม่แพ้ใครเหมือนกัน
- ขยันครับ สั้นๆ เลย พูดได้ว่าผมไม่เคยเลยในชีวิต ที่จะขยันเท่าตอนเช้ามหาลัย

- ไม่รู้ครับ
