เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา
ผมได้มีโอกาสเข้ากรุงเทพอีกครั้ง
คำว่าเข้ากรุงเทพ สำหรับผม
คือการได้นั่งรถเมล์สายต่างๆ
ขึ้นและลงตามป้ายรถเมล์
และไปสู่ที่หมาย
เสาร์ที่เพิ่งผ่านพ้นไปก็เช่นกัน
ผมและผองเพื่อน นัดกันที่หน้าโรงพยาบาลธนบุรี
เพื่อไปเยี่ยมพ่อของเพื่อนในกลุ่ม ที่เป็นมะเร็ง
ผมไม่เคยไปโรงพยาบาลศิริราชมาก่อน
ผมไม่รู้ว่า โรงพยาบาลนี้ อยู่แถววังหลัง
และใกล้กับโรงพยาบาล ธนบุรี 1
ผมนัดกับเพื่อนที่แยกบางนา
นัดกันไว้ว่าเวลาประมาณ 9 โมงเจอกันนะ
จนเวลาเกือบ 10 โมง เพื่อนผมเขาก็ยังไม่มา
ผมก็เริ่มรอไม่ไหว
จากนั่งเป็นยืน
จากยืนเป็นเดินไปเดินมา
โทรติดต่อก็ไม่ได้ ฮ่วย
สุดท้าย
ผมเดินไปหานายท่ารถเมล์
ถามว่า รถเมล์สายที่ผมจะไปเนี่ย ไปถึงท่าพระจันทร์เลยใช่ไหมครับ
นายท่าก็ตอบผมว่า
" รถสายนี้ที่ขึ้นทางด่วนหมดแล้วครับ เพิ่งขับผ่านไปคันสุดท้ายเมื่อกี้นี้เอง
ถ้าจะรอ ต้องรอตอนเย็น ถึงจะมีอีก "
ผมก็เหวอเลย
เก็บข้อมูลมาแค่ว่า นั่งรถเมล์สายนี้ ลงท่าพระจันทร์
แล้วก็นั่งเรือข้ามฟาก จบ
ผมไม่รู้ว่าจะเดินทางโดยรถเมล์สายอะไรเหมือนกัน
เจอสาย 25 ท่าช้าง
ท่า ๆ เหมือนกัน มันน่ามีเรือ
คิดได้แค่นี้ ก็ขึ้นเลยครับ
ขึ้นมาได้ซักพัก
รถติดมากมาย
ร้อนมากด้วย
ถามพี่กระเป๋าว่า " อีกนานไหมครับกว่าผมจะถึงท่าช้าง "
พี่เขาตอบว่า " ก็สุดป้ายแหละหนู ประมาณชั่วโมงกว่า "
ได้ยินดังนั้น ก็ลงป้ายหน้า
ลงทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้ว่าจะขึ้นสายไหนต่อดี
แล้วก็โทรศัพท์ถามพี่ที่ทำแผนกแผนที่
ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันมาก
รถเมล์สาย 511 สีส้ม ก็วิ่งผ่าน
ผมรีบกรอกเสียงตามสายไปว่า
" 511 เพิ่งผ่านผมไป ไปได้ไหมพี่ "
พี่เขาก็ " ขึ้นโล้ด "
พอขึ้นปุ๊บ มองหาที่นั่ง
กระเป๋ารถเมล์ก็เดินตรงมาหาผม
ตอนนั้น ผมยังไม่รู้เลยว่าจะลงป้ายไหน
เขาก็ทำท่าจะเก็บเงิน
ผมก็ " รอแปปนะครับ "
ผมก็ถามพี่ที่ทำแผนที่
" พี่ ผมต้องลงป้ายไหนเหรอครับ "
" มาถามเร่งรีบแบบนี้ นึกไม่ออกเหมือนกันหว่ะ งั้นถามพี่กระเป๋ารถเมล์เลยว่า จะไปศิริราช ลงป้ายไหนได้บ้าง "
พี่กระเป๋าตอบผมว่า " ลงพาต้าปิ่น"
เมื่อรู้ป้ายที่จะลงแล้ว ผมก็ขอบคุณพี่แผนกแผนทที่
แล้วก็ก็ชิงหลับเลย
พอใกล้ถึง พี่กระเป๋าก็เรียก
" ป้ายหน้าพาต้าปิ่น ๆ "
ไอ้เราก็สะดุ้ง เอ๊ย ถึงแล้ว
พี่กระเป๋าบอกว่า น้องเดี๋ยวขึ้นสายนี้เลยนะ สาย 57
คือ ผมยังไม่ทันได้ลงจากรถเมล์คันนี้เลย
ไอ้เจ้ารถเมล์สาย 57 ก็เริ่มเคลื่อนตัวจะออกเสียแล้ว
ผมก็ิวิ่งตาม แล้วก็โบกไม้โบกมือ จนรถเมล์สาย 57 นี้จอดรับ
พอขึ้นรถเมล์ปุ๊บ
บทสนทนาก็ตามมาเหมือนเคย
พี่ครับ รถสายนี้ผ่าน โรงพยาบาลศิริราช ใช่ไหมครับ
ผ่านค่ะ น้องจะไปไหนเหรอ
ผมจะไปโรงพยาบาล ธนบุรี 1 หน่ะครับ
เอ่อ พี่เพิ่งเป็นกระเป๋ารถเมล์ใหม่อ่ะ ไม่รู้จักเลย
แล้วก็มีป้าคนหนึ่ง นั่งถัดจากผมไปไม่ไกลนัก แกก็ชะโงกหน้าพร้อมกับบอกว่า
พ่อหนุ่ม ก็ลงป้าย รพ. ศิริราช แล้วเดินต่อไปอีกนิดเดียวก็ถึงจ๊ะ
ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกขอบคุณ คุณป้าคนนี้มาก
ขอบคุณครับ
จนเมื่อถึงป้าย รพ. ศิริราช แกก็ลง ผมก็ลง ผู้โดยสายคนอื่น ๆ ก็ลง
ผมก็เลิกลั่ก แล้วจะไปทางไหนต่อดีผม
ว่าแล้ว ก็เดินไปถามป้ายที่ขายของอยู่ตามริมทาง
แกก็ชี้โบ้ ชี้เบ้ ผมก็ มองตามมือแกไป
ดูแล้วท่าจะไกลมากแหงม
แล้วก็มีมือ มือหนึ่งมาจับมือผมพร้อมกับพูดว่า
ไปพร้อมกับป้า เดี๋ยวป้าเดินไปส่ง
ผมก็...
ออ ครับ ๆ ขอบคุณป้ามากครับ
แล้วคือ ทางที่ป้าจะไป ผ่านโรงพยาบาล ธนบุรี อยู่แล้วเหรอครับ
ป่าวเลยจ๊ะ ป้ามาโรงพยาบาลศิริราช หน่ะ
อ้าว งั้นเป็นไรดีกว่าครับ ผมเกรงใจ
ไม่เป็นไร ช่วยได้ก็ช่วยกัน
ผมก็ ยิ้ม ๆ ดีใจที่มีคนมาช่วย ดีใจที่ได้เจอคนใจดี ดีใจที่มีคนเดินไปเป็นเพื่อนผม
ตลอดทางเดิน ป้าเดินจับมือผมตลอดทาง
เหมือนว่า ผมเป็นเด็ก จะหลงทางยังไงยังงั้น
ป้าคนนี้พาผมข้่ามถนน พาผมข้ามสะพานลอย
จนสุดท้าย เดินมาส่งผมถึง หน้าทางเข้าโรงพยาบาล ธนบุรี พร้อมกับสีหน้าที่ยังยิ้มแย้ม
ผมก็ประณมมือไหว้ขอบคุณ พร้อมกับพูดว่า ขอบคุณป้ามากเลยครับ
ไม่เป็นไร ช่วยได้ก็ช่วยกัน
แล้วผมก็หันหลังเดินเข้าไปยังจุดนัดพบกับกลุ่มเพื่อนๆ
ในใจตอนนั้นคิดว่า
เอ๊ะ เหมือน
เหมือนว่าเคยเป็นแบบนี้
เหมือนว่าผมเคยทำแบบนี้มาแล้วนี่นา
ตอนนั้นพอคิดได้ ก็แอบขนลุกนิด ๆ
ครั้งหนึ่ง ผมเคยจะกลับบ้าน พนัสนิคม
แล้วเจอ ยาย คนนึง แกก็ยืนเลิ่ก ๆ ลั่ก ๆ อยู่หน้า บขส.เอกมัย
ผมก็เข้าไปถามยายคนนี้ว่า จะไปไหนเหรอครับ เห็นแกยืนมานานแล้ว
แกก็ตอบว่า จะไปหาลูกสาวหรือหลานสาวนี่แหละ ที่บางแสน
ผมก็บอกว่า งั้นยายเดินไปซื้อตั๋วที่ตรงนี้นะครับ แล้วจากนั้นรอที่คิว เดี๋ยวรถก็มาครับยาย
ยายแกก็ยังงง ๆ ดูเหมือนกับ คนไม่เคยขึ้นรถทัวร์ไรแบบนั้น
สุดท้าย ผมเลยไปบางแสนกับแกด้วย
ไปทั้งอย่างนั้น
ไปทั้ง ๆ ที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะไป
แต่ผมไปเป็นเพื่อน ยายแก
ยายก็ถามผมว่า
เราจะไปบางแสนด้วยเหมือนกันเหรอพ่อหนุ่ม
ออ ป่าวหรอกครับ ตอนแรกผมจะไปพนัสนิคม แต่ว่าผมเปลี่ยนใจแล้ว ผมว่าจะไปบางแสน
แล้วก็นั่งไปเป็นเพื่อนยายด้วย
ยายแกก็ขอบคุณผมใหญ่
ผมก็ ช่วยได้ก็ช่วยกัน ครับ ไม่ได้ลำบากอะไรผมมาก(ผมติดประโยคนี้เวลา ช่วยเหลือใครอะไรแบบนั้น)
จนเมื่อถึงบางแสน ยายก็ลงก่อน ผมลงเลยไปอีกป้ายนึง
ก่อนลง ยายแกให้ เหรียญ ที่ห้อยอยู่ในจี้ ซึ่งแกแขวนไว้ที่คอ
ผมก็ไม่รับ แต่แกก็ยืนยันว่า แกอยากให้
เหรียญนั้นเป็นเหรียญ ๑ บาท รูปช้าง ขนาดเท่าเหรียญเหรียญ 5 สมัยก่อน
ข้างในเหรียญเขียนว่า สยามรัฐ ร.ศ. ๑๒๗
ผมก็ไม่เอา ยายแกก็จะให้ท่าเดียว
จนสุดท้ายผมก็รับมา และติดตัวไว้ในกระเป๋าสตางค์ตลอดจนถึงปัจจุบัน
ผมมาเล่าให้พี่แผนที่ที่ผมถามทาง
พี่เขาบอกว่า ไม่แน่นะ ป้าคนนี้ อาจเป็นยายคนที่ออยเจอ และช่วยเขาไว้ก็ได้
รู้สึกขอบคุณป้าคนนี้ และยายคนนั้น ที่ำทำให้ผม มีประสบการ์ที่ดีที่น่าจดจำ
ขอบคุณครับ