หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9
 
ผู้เขียน หัวข้อ: สนทนาธรรม ตามวัย ^^  (อ่าน 33007 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ตูเชื่อเรื่องกรรมนะ (เฉพาะกรรมในชาตินี้นะ )

เพราะเป็นเหตุแห่งผลทั้งมวลจริงๆ



พูดเหมือนกับเพิ่งไปทำบาปทำกรรมอะไรมา  หมีโหด~
บันทึกการเข้า
ตูเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมเหมือนกัน
แต่ไม่ได้เกี่ยวกับแนวอภินิหารเลยสักนิด

บุญกรรมมันธรรมดามากเลย
เหมือนต่อยผนังแล้วเจ็บ หรือกินไอติมแล้วอร่อยน่ะ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ตูเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมเหมือนกัน
แต่ไม่ได้เกี่ยวกับแนวอภินิหารเลยสักนิด

บุญกรรมมันธรรมดามากเลย
เหมือนต่อยผนังแล้วเจ็บ หรือกินไอติมแล้วอร่อยน่ะ

ตอบได้อย่างกับผู้บรรลุธรรม  โวย
บันทึกการเข้า
รออ่าน

แล้วก็คิดเหมือนเอ  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
สำหรับตัวเอง จริงๆผมก็โตมาใกล้ชิดกับวัดอยู่ตลอดนะ ถึงที่บ้านจะไม่ได้เคร่งครัดอะไรนักหนา
(โดยเฉพาะพ่อผม แกแอนตี้วัดชนิดทำมาหากินแบบสุดๆ  กร๊าก) แต่ก็รู้สึกว่าถูกสอนเรื่องพวกนี้มาเยอะพอสมควร

ส่วนตัวผมเชื่อเรื่องเวรกรรม นรกสวรรค์นี่ไกลตัวไป ยังไม่นับ เอาแค่เรื่องในช่วงยังหายใจนี่ก่อนก็พอแล้ว
ทำดีย่อมต้องได้ดี ทำชั่วย่อมต้องได้ชั่ว และผมว่า มันได้เดี๋ยวนั้นด้วย ซึ่งมันก็เห็นผลจริงๆ

ครับ ผมไม่ได้หมายถึง ทำดีแล้วจะได้สิ่งดี "จากคนอื่น" ตอบแทนในทันที แต่ทำดีแล้ว ความรู้สึกดีๆัมันเกิดขึ้นในใจ
นั่นผมว่า ก็เป็นสิ่งดี หรือ กรรมดี ที่ผมได้รับตอบแทนแล้วนะ สบายใจทั้งวัน มีความสุขดีออก
ถ้าวันไหนผมทำชั่ว แอบทำอะไรไม่ได้ ผมก็จะรู้สึกไม่ดี หรือระแวงมันไปตลอดทั้งวัน โคตรทรมานเลย ผมจะหงุดหงิดเป็นพิเศษ
และนั่นคงเป็นผลของกรรมชั่ว ที่ผมได้รับตอบแทนในทันที
จากการใช้ชีวิตมา ถ้าผมจะคิดทำอะไรไม่ดีก็เตรียมรับผลของมันแต่เนิ่นๆได้เลยทีเดียว เป็นคนบาปกรรมตามทันเร็วมาก  กร๊าก

ผมว่าคนเราดำเนินชีวิตด้วยการคิดไม่ไปเบียดเบียนใครได้ตลอด มันก็คงเป็นแก่นที่ดีที่สุดสำหรับการใช้ชีวิตแบบปรกติแล้วล่่ะครับ
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
แนวนี้ดีจัง.. แปะไว้อ่านค่ะ
 กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ผมเชื่อเรื่องกรรม(ในชาตินี้)เช่นกัน
ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อ หรือต่อต้านชาติหน้า ชาติก่อน แต่เพราะยังไม่มีอะไรการันตีผมได้ถึงเรื่องนั้น

อีกเรื่อง ที่คล้ายๆกัน คือ ความสมดุลทางธรรมชาติ ให้ไป ได้รับ , ได้รับ เสียไป เพื่อความสมดุล
เมื่อไม่นานมานี้ ผมได้งานเป็นการติวเด็ก ได้มา 3,600 บาท ดีใจมาก
พอตกเย็น มอเตอร์ไซค์พัง ซ่อมหมด 2,600 บาท

ทีแรก คิดว่าตัวเองซวย โชคร้าย ที่อยู่ๆก็มาเสียเงินไป 2,600 บาท แอบเครียดเลยแหละ
มานั่งนึกๆดู มันก็มีเหตุและผลรองรับอยู่
เพราะผมก็ต้องใช้มอเตอร์ไซค์ ขับไปสอน เพื่อหาเงิน
ผมต้องใช้มอเตอร์ไซค์ขับไปเรียน เพื่อเอาความรู้ไปสอน
เงินค่าซ่อมมอไซค์ คือเงินลงทุนที่ผมจะต้องจ่ายคืนให้ความความสมดุล
ถ้าวันนั้น ตื่นขึ้นมา มีคนบอกว่า เอาไหม วันนี้จะให้ไปสอนแลกเงิน 1,000 พร้อมซ่อมมอเตอร์ไซค์ให้ฟรี ผมก็คงรับไว้โดยไม่รีรอ
ได้มา เสียไป แต่เสียไป มันก็เหมือนกับได้มา มันคือกฎสมดุลธรรมชาติ หรืออันที่จริง มันก็เหมือนกับกฎแห่งกรรม

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ม.ค. 2009, 10:09 น. โดย edมาหยอก » บันทึกการเข้า
กรรม - การกระทำ

ทำอะไรเอาไว้
รอรับดอกผลได้เลย

กรรมคล้ายบูมเมอแรง
ยิ่งขว้างแรง ยิ่งกลับมาเร็ว
จิตตั้งมั่นในการประกอบกรรมเท่าไหร่
ก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้น



เราไม่อยากให้เขาทำอะไรกับเรา
ก็อย่าเอาไปทำกับเขา

เจ๋ง แม่พูดประโยคนี้กรอกหูตั้งแต่เด็กๆ


ยุติธรรมดีนะ
ถ้าไม่ชอบ ก็อย่าทำซะเอง
ไม่เช่นนั้นเวลาถูกกระทำบ้าง
ก็อย่าได้กรีดร้อง โวยวาย
รูดซิปปากไปเลย   น้องดำ
บันทึกการเข้า

เราเป็นเช่นเราเชื่อ    :: tK ::    :: สีมา ::
กรรมก็คือสิ่งที่เกิดมาแล้วย่อมส่งผล ไม่ว่าจะตั้งใจรึเปล่า
เหมือนทฤษฎี Butterfly Effect
แค่การมีตัวตนของเราอาจทำให้เกิดสิ่งต่างๆ ได้มากมาย
ตอนเราเกิดมา ก็ทำพ่อแม่เราทั้งสุข ทั้งทุกข์แล้ว
กรรมก็ติดตัวเรามานับจากนั้น

เลยต้องอ้างของติ๊ก
จิตตั้งมั่นในการประกอบกรรมเท่าไหร่
ก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้น
คือดูที่เจตนา

และหมั่นตรวจดูจิตใจตัวเองอย่างตรงไปตรงมาสม่ำเสมอ
เพราะจิตเราไหวไปได้ง่ายมากกับสิ่งรอบข้าง
ทำอะไรคิดให้ดี คิดถึงตัวเอง คิดถึงคนอื่น

จริยธรรมที่กำหนดการกระทำของคน
แต่ก่อนคือ Dependent คือ พึ่งพา มีที่ยึดว่าอะไรถูก ศาสนา ผู้นำ ว่ากันมาว่าดีก็ว่าดีตาม
ต่อมาคนเริ่มอยู่กับตัวเองมากขึ้นเป็น Independent คือ คิดเอง ทำเอง รับผิดชอบเอง
แต่จริงๆ แล้วต้องตระหนักถึงคนอื่นที่สัมพันธ์กับเราด้วย Inter-dependent ทุกคนล้วนเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์ เกื้อกูลกัน
จำไม่ได้ว่าเรียนจากวิชาปรัชญาตัวไหน(อย่ามา ปรัชญา สิงห์โต)
แต่เป็นคำอธิบายที่ชอบ เพราะอาจใช้อธิบายวิวัฒนาการแนวคิดของคนจากยุคอดีตถึงปัจจุบัน
หรืออธิบายตัวเราเองนี่แหละ เด็กๆ เราเรียนรู้จากที่ถูกสอน
โตมาเราจะตัดสินใจเองว่าอะไรที่ดีที่สึดสำหรับเรา
และสุดท้ายเราจะเข้าใจว่่า เราต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น

แค่นี้ก็จะเป็นหลักง่ายๆ ในการดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันแล้วนะ
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>


อยู่โดยที่ทำให้ผู้อื่นและตัวเราเดือดร้อนน้อยที่สุด
สร้างมลภาวะให้สังคมน้อยที่สุด
จนไปถึงไม่สร้างมลภาวะให้สังคมเลย

บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ตูเชื่อเรื่องบุญเรื่องกรรมเหมือนกัน
แต่ไม่ได้เกี่ยวกับแนวอภินิหารเลยสักนิด

บุญกรรมมันธรรมดามากเลย
เหมือนต่อยผนังแล้วเจ็บ หรือกินไอติมแล้วอร่อยน่ะ

เออ  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
เรื่องบุญเรื่องกรรม จริงๆแล้วก็เชื่อแบบแอนเหมือนกันนะ น้องดำ

เรื่องภพนี้ภพหน้า หรือเรื่องการหลุดพ้น อาจจะเป็นแค่กุศโลบายให้สังคมอยู่ได้โดยสงบ
แต่ก็แอบเผื่อใจไว้นิดนึงเผื่อสติปัญญาเรายังไปไม่ถึง เหมือนคนตาบอดแต่กำเนิดไม่เข้าใจเรื่องสี ฉันใดฉันนั้น
บันทึกการเข้า
 ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

...

เราไม่อยากให้เขาทำอะไรกับเรา
ก็อย่าเอาไปทำกับเขา

เกดก็คิดแบบนี้นะ

แล้วเกดก็คิดว่าการอภัยคือการทำบุญอย่างหนึ่งด้วยล่ะ เพราะส่วนตัวก็คิดว่าแค่เราคิดดีทำดีก็ถือว่าทำบุญแล้ว 

(เพราะทำบุญด้วยเงิน รู้สึกว่า ถ้าเรามีน้อยแต่ยังเอาไปทำบุญแล้วตัวเองต้องมาลำบาก ไม่มีตังค์จะกินนี่ มันก็คงไม่มีความสุขอ่ะ

ถ้าจะให้ด้วยปัจจัย เกดว่าให้เมื่อเรามี ดีกว่า ยอมโดนว่างก ดีกว่าทำไปแล้วเราเดือดร้อน เป็นทุกข์อีก)


เกดโกรธคนยากมากๆ ใครทำให้เกดโกรธนี่ ต้องพิจารณาตัวเองเลย


แต่จริงๆเป็นคนไม่ค่อยไฝ่เรื่องธรรมมะเท่าไร สวดมนต์ยังจำบทสวดไม่ค่อยจะได้


ส่วนเรื่องกรรม ก็เชื่อนะ ทั้งที่ก็รู้ว่าเป็นผลจากการกระทำ แต่ก็อย่างว่า ทำดีได้ดี ทำชั่วก็ได้ชั่ว

ถึงวันนี้ทำดียังไม่ได้ดี คนทำชั่วยังไม่ได้รับกรรม แต่เชื่อว่า สักวัน..ก็ต้องส่งผลถึงชีวิตคนนั้นไม่มากก็น้อย

พูดเองก็ งง เอง แต่ทั้งหมดเป็นหลักธรรมของเกดลดา ค่ะ หมีโหด~



บันทึกการเข้า

กินทุกอย่างยกเว้นต้นหอมค่ะ
คือเวลามีคนเขาคุยกันแบบที่เรียกว่า "สนทนาธรรม" อย่างจริงจัง
มีการอ้างอิงหลักการ พระไตรปิฎก พระสูตรอันนั้นอันนี้ สวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้
แล้วผมก็พอจะเข้าใจความรู้สึกเวลาชาวบ้านฟังนักวิชาการคุยกันแล้วไม่เข้าใจครับ

ถ้าอย่างพี่แอนว่า กรรม เป็นเรื่องง่ายๆ
เราก็ไม่น่าจะต้องพูดถึงให้มากความใ่ช่ป่ะครับ



ผมยังไม่ถึงวัยแน่เลย  หยี
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 [2] 3 4 5 6 7 8 9
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!