หวัดกินไปวันนึง กลับมาอ่าน ดันมีกระจู๋แบบนี้ด้วย
ถ้าให้เลือกได้คงไม่มีใครอยากแอบรักใคร ถ้าแบ่งเป็น 2 ฝ่ายก็จะประมาณว่า
-
คนที่ไปแอบรักแอบชอบเขา แบ่งเป็น 2 กรณี คือ ป๊อดไม่กล้าบอกไม่กล้าแสดงออก กับอีกแบบก็คือ อีกฝ่ายไม่ยอมเปิดโอกาสให้ เลยไม่รู้จะเริ่มยังไง
-
ฝ่ายที่โดนรักโดนชอบ (ถูกกระทำ) น่าจะแบ่งได้ 3 กรณี อันที่ 1 ถ้าถูกใจฝ่ายที่เข้ามาก็จะแสดงออกเป็นความรักที่สมหวังสองฝ่าย ซึ่งบางทีอาจจะไว้ฟอร์มอยู่บ้าง ...อันที่ 2 ไม่ชอบ และก็บอกออกไปเลย ฝ่ายที่ไปชอบก็เซ็งไปตามระเบียบ ....ส่วนอันที่ 3 นี่เป็นพฤติกรรมที่ทุกคนคงจะไม่อยากเจอ ก็คือ ฝ่ายที่โดนกระทำไม่ได้ชอบไอ้นี่อีนี่เลย แต่บอกไปตรงๆมันก็จะเสียมารยาท เสียน้ำใจ เลยกั๊กๆเลี้ยงๆมันไว้หน่อย ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ประมาณไม่ถามก็ไม่บอก หรือถ้าถามก็บอกอ้อมๆ เหมือนเคาะกะลาให้หมาดีใจ ไอ้ฝ่ายที่ชอบก็จะเป็นพฤติกรรมแอบรักข้างเดียวไป เหมือนเลี้ยงกิ๊กไปกลายๆ ...พอสุดท้ายวิกฤติจริงๆถึงจะกล้าบอกว่า ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแอบชอบ และก็จะบอกว่าเราไม่เหมาะกันหรอก (คำตอบแพทเทิร์น) ......ไอ้เรื่องพวกนี้นี่มันเหมือนการโกหกแนวแอ๊บแบ๊ว โดยส่วนตัวเวลามีใครมาชอบเรา มันจะไม่รู้เลยเหรอว่าชอบระดับไหน ตรูว่าไอ้ความรู้สึกนี้มันสามารถรับรู้ได้ทุกคนนั่นแหล่ะ
ตรูมองโลกในแง่ร้ายไปมั๊ยเนี่ย
ไอ้การแอบรักถ้าเป็นความฝันมันก็โอเคอยู่หรอก แต่ในความจริงมันคงไม่โรแมนติกเหมือนกับตัวหนังสือ ....การแอบรักมันมีข้อดีอยู่บ้างตรงที่ทำให้เรารับรู้ความเป็นจริงของชีวิตมากขึ้น และก็อาจจะเกิดมุมมองหรือแรงบันดาลใจดีๆในการเขียนเรื่องสั้น-ทำหนังอะไรพวกนี้ได้แบบเข้าใจชีวิต