วิธีการดื่มที่ถูกต้องก็ไม่ควรดื่มเกินวันละสองแก้ว
ขั้นตอนในการชิมไวน์ หลักๆ
มีดังต่อไปนี้
- ใช้ตามอง
มองอะไร มองสีครับ
วิธีมอง ก็เอียงแก้วดู สีของไวน์บอกอะไรมากมาย
ตั้งแต่ พันธุ์องุ่น อายุของไวน์ ไปจนถึงความเข้มเต็ม
หรือความสมดุลระหว่างแอลกอฮอล์กับน้ำผลไม้ในไวน์
- ใช้จมูกดม
ดมอะไร ดมกลิ่นครับ
ให้เติมไวน์ลงในแก้วไวน์
อย่าเยอะมากให้สูงแค่พอส่วนโค้งเริ่มต้นของกระเปาะแก้ว
วิธีดม อย่าเพิ่งแกว่งแก้ว ให้ดมก่อน
ทีนี้แกว่งแก้ว แล้วดมอีกที ให้สังเกตความแตกต่าง
เพราะไวน์บางตัวกลิ่นยังไม่เปิด เราต้องแกว่งแก้ว
เพื่อให้น้ำไวน์สัมผัสกับอากาศ กลิ่นที่ซ่อนไว้ก็จะเผยออกมา
กลิ่นของไวน์แต่ละชนิด ก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิต หรือเขตแคว้นที่ปลูก
ไวน์บางตัวเราดมแล้วได้กลิ่นกาแฟคั่ว
บางตัวได้กลิ่นดินกลิ่นหญ้า บางตัวได้กลิ่นดอกไม้
บางตัวได้กลิ่นยางไหม้
สำหรับคนที่ิไม่เคยกินไวน์มาก่อน
ตูแนะนำให้ดมเยอะๆ ดมไปเรื่อยๆ แล้วสังเกตดูการเปลี่ยนแปลง
(แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องใช้แก้วไวน์ที่คุณภาพดีพอสมควร
เพราะแก้วไวน์ห่วยๆ จะไม่สามารถทำให้เราดมกลิ่นอะไรได้
บางทีได้แต่กลิ่นแอลกอฮอล์)
- อม
พอดมจนเริ่มเบื่อแล้ว
ทีนี้ก็ถึงเวลาเอาไวน์เข้าปาก
ต้องเข้าใจก่อนว่า ตำแหน่งตุ่มรับรสของลิ้นเรา
กระจายไปทั่วลิ้น โดยรสหวานจะอยู่ปลายลิ้น
ถัดเข้ามานิดนึง ข้างๆ ลิ้นทั้งสองข้างจะเป็นรสเค็ม
ลึกเข้าไปหน่อย ก็จะเป็นรสเปรี้ยว
ส่วนโคนลิ้นก็จะเป็นรสขม
(ดูจากภาพประกอบ จากเว็บ
http://www.2basnob.com/)
ไม่ต้องแปลกใจไปว่า คนที่เคยกระดกแต่เหล้า
พอมากินไวน์ แล้วบอกว่าเห็นไม่อร่อย
เพราะกระดกพรวดไปทีเดียวที่โคนลิ้น
ก็จะเจอแต่รสขมกับเปรี้ยวฝาด
วิธีอมที่ถูกต้องคือ อมให้ตุ่มรับรสได้สัมผัสกับไวน์ทั้งหมด
บางคนอาจจะให้อากาศเข้าไปผสมด้วยโดยการกลั้วลิ้น
(จะเห็นนักชิมไวน์บางคน ดื่มแล้วทำเสียงซืดๆ ครอกๆ ไปด้วย)
- กลืน
ตอนกลืนนี่สำคัญ เพราะไวน์จะมีอาฟเตอร์เทสเฉพาะตัว
หรือที่เซียนไวน์เมืองไทยเขาเรียกกันว่า ตอนจบ
การสังเกตการจบของไวน์ ตูก็ยังไม่เชี่ยวชาญมาก
อธิบายไม่ค่อยถูกเหมือนกัน ประมาณว่า
เหมือนกับอาการขนลุก แต่นี่เป็นตุ่มรับรสบนลิ้นลุกประมาณนั้น