ว๊า ยอมรับเลยว่าวิ่งไปถ่ายฟ้ายิ้มก่อนมาเห็นจู๋ประลองนี้
เลยไม่ส่งละกัน เอาไปโชว์ในจู๋ฟ้ายิ้มละกันนะครับ
ตอนนี้รับทราบ
แสง นี่มันเป็นหัวใจของการถ่ายภาพเลยนะเนี้ย
ขอคอมเม้นต์หน่อยละกันนะ ไม่เคยคอมเม้นต์ใครเลย
ไม่พูดพร่ำทำเพลง อาศัยชัยภูมิที่ได้เปรียบ คว้ากล้องไปสอยมาแล้วครับ
ชื่อภาพ: ฟ้าโปร่ง
ชื่อภาพ: ยักยิ้ม(ยั่วเย้า เย็นใจ จริงนา)
แนวคิดทั้งสองภาพ: ในอากาศที่กำลังเย็นจัดได้ที่ของเมืองไทย
และอุณหภูมิทางการเมืองที่กำลังเดือดปุดๆ
สิ่งเล็กๆน้อยๆก็มาทำให้คนไทยเราเป็นสุขได้
(สอบถามจากเพื่อนๆที่อยู่ออสเตเลีย, ญี่ปุ่นและเยอรมัน ไม่มีที่ไหนเห็นเลย ยกเว้นที่ไทย)
แปลว่าอะไรดีๆกำลังจะเกิดขึ้นกับบ้านเมืองใช่มั๊ยครับ ?
เหมือนจะใช้รูรับแสงแคบไปครับ
แฉกเลยทิ่มตาไปหน่อย ทั้งๆที่รูปแนวนี้มันต้องทำให้แสงดูเหมือนที่ตาเห็นมากที่สุด ลองใช้ f 5.6-8 น่าจะกำลังดี
การจัดองค์ประกอบภาพ จริงๆภาพฟ้ายิ้มจัดยากมากนะครับ แต่ที่ถ่ายมาทำได้เกือบดี รูปล่างมันมีแต่หน้า ไม่มีเนื้อหาอย่างอื่น
รูปบนดูดีกว่า เพราะมันเห็นบริบทครับ
อ๊าก ไม่ทัน
จะโพสต์พอดีเลย (ดูเวลาตอนเก็บดาวตะกี้ 19.28 พอดี
)
งั้นถือว่าหยวนๆ ละกันนะครับ ไม่ได้ตั้งใจลอกแน่ๆ
เมื่อเย็นเห็นฟ้าสีชมพูแต่ไม่มีกล้องเลยใช้กล้องมือถือโบว์ถ่ายไม่ติด
มานึกดูหน้าของพระจันทร์และสองดาวคืนนี้เหมือนผู้หญิงน่ารักๆ คนนึง
ที่มองลงมาด้วยความห่วงใยอะไรสักอย่าง อาจคิดไปเอง แต่ก็คิดแบบนี้จริงๆ
กลับมาถึงบ้านก็ฟ้ามืดแล้ว วิ่งไปหยิบกล้องไปยืนถ่ายหน้าบ้าน
มีสายไฟระโยงระยางเต็มไปหมดเลย ดูเหมือนเส้นผมของผู้หญิง เลยหามุมสวยๆ ได้
แต่พอภาพออกมาก็ไม่ค่อยเหมาะกับโจทย์นี้เท่าไหร่ เลยหามุมอื่นอีกหน่อย
จนไปปีนหลังคาบ้านด้านหลังได้มุมมานิดหน่อยครับ เลยเอามาอวดกัน
ชื่อภาพ อยู่ห่างห่าง อย่างห่วงห่วงขอแถมนะครับอีกสองภาพ เป็นของขวัญต้อนรับลมหนาวละกัน
ชื่อภาพ ธิดาราตรี ๑ชื่อภาพ ธิดาราตรี ๒ของบักแอน
มีการเพิ่มเนื้อหาในทุกรูป
รูปล่างสุดคิ้วตกเล็กน้อย เหมือนกำลังยิ้มแบบนี้
แต่หน้ามันเอียงซ้ายไปหน่อย ด้านขวาเลยดูโล่งๆไปนิด
หน้าบนจุดเด่นมันอยู่กลางไปหน่อย แต่ไม่น่าเกลียดมาก ถ้ามีบ้านที่เปิดไฟเป็นรูป ^_^ เหมือนกันจะแจ่มมาก
รูปกลางก็ดูน่าสนใจสุดเลยนะ มันเหมือนรอยยิ้มท่ามกลางสถานการณ์ที่กำลังยุ่งเหยิง เหมือนป่าดงดิบ