หน้า: 1 2 3 [4]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ปัญหามันอยู่ที่ ทางเลือก  (อ่าน 12502 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ใช้ต่อจุดแบบลุงจ๊อบว่าสิ
ผมไม่เกี่ยงว่าจะเป็นทางผีบอก หรือว่าคิดเอาเอง
แต่ผมชอบที่จะคอยลุ้นว่า สิ่งที่ทำๆวันนี้มันจะมาประสานต่อกันในอนาคตแน่ๆ
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
อืม

ที่บ้านเดือนดีตรงที่แม่ไม่ได้บังคับว่าจะให้เป็นอะไรไปทางไหนน่ะ
หาทางมีชีวิตอยู่ได้ ก็เรื่องของแกละ หมีโหด~

ส่วนชาร์ป (อยู่ๆ ก็ไม่อยากเรียกพี่ละุถึงชาร์ปจะแก่กว่า เป็นเพื่อนละกันนะ)
ไม่รู้เหมือนกันว่าชาร์ปจะไปทางไหน
แต่ที่ค่อนข้างแน่ใจคือ ชาร์ปเป็นคนที่มีดี และมีฝีมือ

สู้ๆ เข้าละกัน ผ่านไปได้ก็สบายละ หมีโหด~
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ใช้ต่อจุดแบบลุงจ๊อบว่าสิ
ผมไม่เกี่ยงว่าจะเป็นทางผีบอก หรือว่าคิดเอาเอง
แต่ผมชอบที่จะคอยลุ้นว่า สิ่งที่ทำๆวันนี้มันจะมาประสานต่อกันในอนาคตแน่ๆ
หมายถึงการพูดที่Stanfordชิมิ  น้องดำ
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
มีคนรู้จักกันเป็นวิศวกร เขาเล่าว่า เรียนโยธา บางทีก็มีไปต่อโท สถาปนิกได้
พวกออกแบบอะไรบางทีก็ก๊อบๆเขามั่วๆของคนอื่นได้บ้าง
แต่สถาปนิกจะมาต่อโยธาอันนี้จะยากหน่อย เพราะวิชาคำนวณมันก๊อบกันยาก
เท็จจริงเป็นยังไงอันนี้ผมไม่รู้


แต่งานทุกงานมีมิติในทางกว้างทางลึก และเชื่อมโยงกับงานในสาขาอื่นๆ
อยู่ที่เราแล้วละว่าจะเลือกลึกตื้นอย่างไร
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
การไหลต่อไปในทางที่ชอบ มันง่ายกว่าฝืนไปทางที่ไม่ชอบ ง่ายๆ แบบนี้แหละ
สถาปนิก ไม่จำเป็นต้องย้อนศร เพราะได้ไปทางที่ชอบกว่า สนุกกว่าอยู่แล้ว ..
วิศวกรทำแบบนั้นได้ง่ายกว่า แต่ผมไม่เคยเห็นคนที่สร้างงานดีๆ จากวิธีนี้เลย
บันทึกการเข้า

อยู่บ้านไร่ ไร้เน็ต พี่จะกางมอสกิโต้เน็ต เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง เดินตามสายรุ้ง ทิ้งเมืองกรุงไว้กับเธอ ..
นั่นไง พออ่านคำอธิบายโจทย์เพิ่มจากชาร์ปปั๊บ
ก็เลยรู้เลยว่าประเด็นมันไม่ได้มีแค่ 2 ข้ออย่างที่โจทย์ว่าไว้ตั้งแต่แรกจริงๆ ด้วย

ลองย้อนกลับไปอ่านคำตอบของลุงอ๋าห์กับหมอแมวอีกครั้งนะครับ
บางทีด้วยความเป็นคนเลือดร้อนเพราะฮอร์โมนวัยรุ่น
มันอาจจะบิดเบือนความจริงอะไรไปก็ได้
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
การไหลต่อไปในทางที่ชอบ มันง่ายกว่าฝืนไปทางที่ไม่ชอบ ง่ายๆ แบบนี้แหละ
สถาปนิก ไม่จำเป็นต้องย้อนศร เพราะได้ไปทางที่ชอบกว่า สนุกกว่าอยู่แล้ว ..
วิศวกรทำแบบนั้นได้ง่ายกว่า แต่ผมไม่เคยเห็นคนที่สร้างงานดีๆ จากวิธีนี้เลย
ยังมีสถาปนิกชื่อดัง ที่เคยเป็นนักมวยมาก่อนเลยนะครับ กร๊าก
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
 (เหงื่อแตกพลั่ก) เรื่องใหญ่อยู่นะ
 
 
 
เอาไงเอากันชาร์ป ชีวิตเราเราเลือกเอง และอย่างที่อู๋บอก
"หนักแน่นในผลลัพท์"  หมีโหด~
 
 
 
เอาใจช่วยอยู่นะ
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
สมัยเด็กๆพ่อกับแม่พยายามจะขีดเส้นให้เดินเหมือนกัน ก็สู้รบตรบมือกับที่บ้านมาโดยตลอด
ในที่สุดก็เลือกทางเดินของตัวเองทุกครั้งและทุกเรื่อง โดยมักจะเอาประโยคเดิมๆมาอ้างกับที่บ้าน (และบอกให้ตัวเองฟัง) อยู่เสมอๆว่า
ชีวิตนี้เป็นของเรา จะผิดจะถูก ก็ขอเลือกเดินในทางตัวเองเลือก
....เพราะถ้ามันเกิดผิดพลาดขึ้นมา หรือไม่ประสบความสำเร็จ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องโทษใคร ถ้าจะพังก็ขอให้พังเพราะตัวเองเลือกดีกว่า

แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นหนทางของผู้ใหญ่นะ คือก็ตกลงกันว่า ถ้าเราข้ามไปสู้ทางที่เราเลือกไม่ได้ (ส่วนใหญ่ก็วัดที่ผลสอบเข้า กับผลการเรียนแหละ)
เราก็ต้องเดินตามเส้นทางที่ผู้ใหญ่ขีดไว้โดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะเค้าให้โอกาสเราเลือกและทำมาก่อนแล้ว
เป็นโชคดี ที่ข้ามสะพานมาได้ทุกครั้ง  อืมมมมห์  แต่ก็ไม่รู้ว่า ทุกวันนี้เรียกว่าชีวิตประสบความสำเร็จรึเปล่า เพราะมันก็ลอยไป ลอยมาพิกลนะ  ฮิ้ววว
เพียงแต่พ่อกับแม่จะบอกว่า เค้าภูมิใจในตัวเรา ภูมิใจในวิธีคิด วิธีเลือกในชีวิตของเรา

แต่ก็นั่นแหละ แต่ละบ้าน แต่ละชีวิตมันไม่เหมือนกัน คำตอบก็คงลอกกันไม่ได้หรอก ...ใช่มั้ย?

บันทึกการเข้า

เราแก้ไขอดีตไม่ได้ แต่เราทำปัจจุบันให้ดีได้
ของผมตอนนี้เส้นตายอยู่ที่ หลังเมษายน
ไม่แน่
จะลองเลือกทาง 1 ก่อนแล้วดูก่อนก็เป็นข้อ 2


จริงๆกะฟอนต์คุยเรื่องเต็มๆเลยก็ได้เนอะ

- ผมไม่ได้เรียนมหาลัย จบม.6 แล้วมาช่วยงาน อาสาสมัครที่วัด // จริงๆที่วัดจะอนุญาตเฉพาะคนจบ ป.ตรี
- กะว่ามาช่วยสักพักแล้วออกไปเรียนต่อ
- ผมเป็นคนบุกเบิกทำ animation flash ในวัด แล้วงานก็ hot มากๆ จนได้รับอนุญาตให้อยู่ได้เป็นกรณีพิเศษ
- หัวหน้าคนที่ช่วยเรื่องให้ผมอยู่ได้ติดภารกิจพิเศษ ไปอยู่ที่อื่น
- หัวหน้าคนใหม่ ไม่ชอบขี้หน้าผม เอาเปรียบในการทำงาน
- โดนหัวหน้าฟ้องกับต้นสังกัดใหญ่เอาเรื่องผม
- บัดซบ เลยโดดงานไปทำงานกับที่อื่น
- ย้ายหน่วยงาน รอพิจารณาว่าจะเอายังไงดี
- ทางผู้ใหญ่ในวัด+ที่บ้าน ให้บวช+เรียนสายพุทธศาสตรบัณฑิต
- ไม่ได้ซีเรียสเรื่องบวช แต่เซ้งเรื่องเรียน เพราะผมมันสาย เด็กนิเทศ ทำงานด้านนี้มาตลอด จะให้ไปเรียนสายพุทธศาสตร์ -..-
- จริงๆมีสาย พุทธศาสตร์การเผยแผ่ ก็คือ พุทธศาสตร์+นิเทศ แต่ผมมองว่าถ้าอยากให้เรียนจริงๆไปเรียนข้างนอกก่อนแล้วมาบวชดีกว่า
- เล็งไว้ ม.กรุงเทพ หรือ ม.อะไรก็ได้ที่มันมีเกี่ยวกับถ่ายรูป
- กะจะทำงานกับที่วัดไปด้วย+เรียนไปด้วย // ตอนนี้ก็ทำงานอยู่ที่วัดอยู่แล้ว
- อยากถ่ายรูป + ช่วยงานวัดไปด้วย ไม่ได้บวชไม่เป็นไร
- ถ้าไม่ได้เรียน ก็จะทำงานด้านถ่ายรูป+ช่วยงานวัดอยู่ดี
- ถ้าเรียนจบป.ตรี ก็จะมาบวชช่วยงานอยู่ดี แต่ที่บ้านดันงี่เง่า ไม่เข้าใจ
- เป็นอาสาสมัครอยู่ที่วัด ที่บ้านปลื้มมาก เพราะไม่ต้องเปลืองเงินเลี้ยงดู // ผมเกลียดพ่อ+แม่(เลี้ยง)มากไม่ติดว่าบาป ก็ด่าไปแล้ว
- ไม่มีเงิน ไม่มีกล้อง
- อยากถ่ายรูปจริงๆ แต่กังวลเรื่องฝีมือ และอุปกรณ์ เพราะฝีมือก็งูๆปลาๆ+ทุนไม่มี

ประมาณนี้มั่งครับ

โอว ปั่นกันกระจุย มีคนตัดหน้าคุณตั้ง 15 คนแน่ะ

โอ้วววว  โวย


สมมติถ้าผมเป็นชาร์ป และชาร์ปคือคนที่โตมาแบบ ผมนะครับ
ผมจะ(นี่คือการสมมตินะๆ ยิ้มน่ารัก)
ผมจะเรียน คือยังไงผมก็จะเรียน
แล้วถ้าเรียนแล้วไม่มีคนส่งเสีย
ผมก็ยังจะเรียน นั่นแหละ ผมจะหาตังค์เอง
และ ถ้า ม.กรุงเทพมันแพงไป ผมก็จะมองไป ม. อื่นๆ
กรองออกเป็นชั้นๆไป ในความเป็นได้
และ หมุดที่ตอกไว้คือ ผมจะเรียน
- ก็ได้ช่วยวัด
- ก็ได้เรียน
- แต่ดูเหมือนดึงดัน ดื้อๆ แปลกๆ

แต่ถ้าผมเลือกผมเลือกเท่านี้นะ
ปัจจัยอื่นผมไม่ค่อยเอามาคิดเลย(นี่อาจจะเป็นจุดไม่ดีเท่าไหร่)
เวลาผมคิดอะไร ผมเอาที่หมาย วางไว้แล้วลงมือกระทำในสิ่งนั้น
ให้ไปถึง แต่นี่เป็นผมนะ โตมาแบบผม โดนเลี้ยงมาแบบผม
สภาพแวดล้อมเราต่างกัน มุมคิดก็จะแผกกันไป

ส่วนข้อกังวล
- อยากถ่ายรูปจริงๆ แต่กังวลเรื่องฝีมือ
และอุปกรณ์ เพราะฝีมือก็งูๆปลาๆ+ทุนไม่มี

ผมไม่มีคำแนะนำอะไรมากหรอก
เพราะผมผ่านการกังวลมาเยอะไปหมด
สุดท้ายก็ได้แต่กังวล โดยไม่ได้ทำอะไร
ฉะนั้น เมื่อผ่านจุดวิตกกังวลมาได้แล้ว
ผมเลยลงมือทำอย่างรอบคอบก่อน
เมื่อกังวลอีกก็ คิดว่า เราทำดีที่สุด ที่สุด ที่สุด
ให้ได้ก่อน ถ้ายังเป็นกังวลอีก ก็ค่อยหาทางแก้ไข
อนาคตไม่เคยมีใครมองเห็น แต่อดีตสามารถทำนายอนาคตได้บ้าง

ต้องลองครับ


บันทึกการเข้า

ขอบคุณมากครับผมเดี๋ยวกลับจากเชียงใหม่ จะมาคุยต่อครับ
ขอบคุณมากๆครับ
บันทึกการเข้า

รับงานถ่ายภาพ
www.rpash.com
โอว.. ด้วยความอายุเยอะ อยากช่วยตอบ แต่คิดว่าคงตอบไม่ได้เรื่องแน่เลย..

สำหรับตัวแอ้เองเจอปัญหาทางเลือกด้านอาชีพ ตอนนั้นมันดูใหญ่โตมากเลย และหลังจากผ่านจุดนั้นมา
สิบกว่าปี มันก็ใหญ่จริงแหละ ต้องคิดให้ดีๆ นะคะ พ่อไม่ชอบอาชีพที่แอ้ทำอยู่ตอนนี้เลย แถมทั้งทางเลือกของพ่อ
และทางเลือกของตัวเอง ดันเป็นงานเฉพาะทางทั้งคู่ ไม่สามารถ เรียนไปก่อนแล้วไปเปลี่ยนอาชีพเอาทีหลังได้
หลังจากเครียดมาตลอด (ประมาณ 3 ปีก่อนตัดสินใจ) แล้วในนาทีสุดท้ายก็เลือกตามใจตัวเองค่ะ
ทุกวันนี้ยังพยายามทำอาชีพที่เราเลือกให้ได้ดี ให้พ่อเห็น (ส่วนแม่เขาตามใจอยู่แล้ว)
ก็ยอมรับว่ายังลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ แต่มั่นใจมากๆ ว่าดีกว่าทำในสิ่งที่เราไม่ถนัด ซึ่งคงไม่รอดแน่ๆ..

ถ้ามั่นใจว่าสิ่งที่เลือกเป็นสิ่งดี ไม่ว่าจะเป็นข้อไหน คิดให้ดี แล้วก็ตัดสินใจทำให้เต็มที่ค่ะ
เอาใจช่วยนะคะ  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า

อ่านของชาร์ปตอนแรกผมเลือกข้อสองนะ แต่พอดูปัจจัยโดยรวมกลับเอนเอียงไปข้อหนึ่งแฮะ
คงจะเป็นเพราะผมคิดไปอีกขั้นนึงด้วยหน่ะ  อ๊าง~
บันทึกการเข้า


ข้อหนึ่งที่ว่ายอมอยุ่กับหมีก่อนใช่มั้ยครับ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
หน้า: 1 2 3 [4]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!