หน้า: 1 2 3 [4] 5
 
ผู้เขียน หัวข้อ: การค้นหาตัวตนในกราฟิกแบไทยไทย  (อ่าน 32511 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
อ่านแล้วก็งงๆ กำลังปั่นงานไฟแล่บ สมองล้ามากๆ

ผมว่าลักษณะไทยนี่มันเกี่ยวข้องกับมุกภายในเยอะมากเลยนะครับ
เรื่องโกอินเตอร์นี่ไม่น่าจะเกี่ยวกันนัก

เพราะมันเป็นลักษณะไทยไงครับ ต่างชาติก็เลยไม่เก็ต
เหมือนๆว่าเราจะทำต้มยำกุ้ง
หรือ เราจะทำอาหารหน้าตาเหมือนต้มยำกุ้ง แต่รสชาติไม่แซ่บ ไม่ถึง
เพื่อที่เชฟฝรั่ง ญี่ปุ่นเขาจะได้กินได้อร่อย

อะไรประมาณนี้น่ะครับ
งงมั้ยล่ะ
กร๊าก

บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
กราฟิกไทยมันจะต้องมีกาลเทศะมาประกอบกันด้วยน่ะครับ (ที่ชาติอื่นเค้าไม่ค่อยมี) เช่น
- ของที่เกี่ยวกับหมวดศาสนา หรือหมวดพระมหากษัทย์ หรือหมวดชาติ (บางอัน)
  จะเอาไปใช้ในงานกราฟิกต้องระวังอาจติดคุกได้ หรืออาจถูกประนามจากสังคม หรือผิดจริยธรรม
  เช่นเอาลายไทยไปทำลายรองเท้าฟองน้ำ ซึ่งลายไทยเป็นสัญลักษณ์มาจากพุทธศิลป์ทั้งสิ้น
  เอาสัญลักษณ์ประจำพระองค์ หรือพระบรมฉายาลักษณ์ ไปประกอบโฆษณาหรือเอาไปทำเล่นไม่ได้ทั้งสิ้น
  (ไม่เหมือนอังกฤษเอาภาพ Queen มาทำภาพล้อเยอะเยะ)
  หรือเอาธงชาติไปใส่ชื่อก็ไม่ได้  งง เป็นต้น
  เพราะเนื่องจากความรู้สึกคนไทยของเหล่านี้เป็นของสูง ที่เทิดทูน อย่างยิ่ง
  ศิลปของหมวดศาสนา และพระมหากษัตริย์ จึงวิจิตร ระยิบระยับ ปราณีตอย่างมาก เพราะถือว่าว่าต้องถวายแต่สิ่งที่ดีที่สุด จึงจะได้บุญ
  หรือควรค่าตอบแทนในสิ่งที่รักที่สุด
  ศิลปเหล่านั้นอาจจะมาจากชาติอื่น แต่เมื่อมาถึงมือคนไทย มักจะทำให้มันละเอียด ปราณีตขึ้นไปอีก (อาจเรียกว่าสไตล์ มากมาก ตรงข้ามกับสไดล์น้อยน้อย)
  ชึ่งก็มีการปรับมาจนถึงจุดอิ่มตัว (หรือสูงสุด) จนมีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างน้อย หรือถึงจุดหยุดนิ่งในยุคปัจจุบัน
  มีสีสันอันเป็นเอกลักษณ์แน่นอน ตัวหนังสือก็มีเอกลักษณ์ชัดเจน ส่วนใหญ่เป็นตัวหนังสือมีหัว และตัวหนังสือแบบอาลักษณ์
- ส่วนหมวดประชาชน ที่เป็นภูมิปัญญาชาวบ้าน (ไอที่เรียกกันว่า VeryThai หรือ ไทไทย หรือ ไท้ไทย) มันก็จะเเป็นอะไรที่มีความ
  สนุกสนาน ฮาฮา เมาเมา ปาร์ตี้ ผสม มัวมัว มั่วมั่ว ผสมผสาน สีสัดจัดจ้าน (จนถึงสีสะท้อนแสง) ไม่ยึดติด
  รับทุกสิ่งมาแล้วปรับเข้ากับตัวเองได้หมด ซึ่งมันก็มาจากนิสัยคนไทยด้วย เช่นดอกไม้กับรถถังที่ฝรั่งยังงง
  หรือแต่งงานในพันธมิตร (เจ้าตัวบอกไปฮาฮา (อ่ะล้อเล่นหน่อยนะ)) นี่ละนิสัยคนไทย "เอาฮา" เอกลักษณ์ของไทย
  และก็ปรับไปตามยุคสมัย ตามเหตุการ์ณบ้านเมือง
  รูปแบบและเอกลักษณ์จะเปลี่ยนไปค่อนข้างไว และเรื่องของกาละเทศะก็จะไม่ค่อยต้องคำนึงมาก
  ซึ่งกราฟิกไทยเวลาเราจะเอาไปใช้ก็ต้องคำนึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วยครับ
และจากการแบ่งเป็นหมวดอย่างนี้ทำให้กราฟิกไทย มีหลายอารมณ์ (ตามหมวด) ที่มีความแตกต่างโดยชัดเจน
ไม่ได่มีแบบอารมณเดียว แบบนิ่งๆปล่อยสเปสแบบเซนของญี่ปุ่น เป็นต้น
และไม่ได้บอกว่าหมวดไหนดีกว่ากัน แต่ต้องประกอบกันไปอย่างนี้ละครับเพื่อความหลากหลาย


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ต.ค. 2008, 19:47 น. โดย Cre8man » บันทึกการเข้า
อืม
แสดงว่าคนไทยเป็นคนฮาใช่ไหมครับ
ฮาแบบไทยๆ นี่แหละ ที่เรียกเว้รี่ไทย
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ครั้งนึง นานมากแล้ว ผมเคยเขียนการ์ตูนลายเส้นแบบไทยๆ แล้วเพื่อนผมมันก็ลองอ่านดู
เพื่อนผมบอกว่า  เฮ้ย ลายเส้นหยั่งกะหนังสือขายหัวเราะเลยว่ะ

ผมก็ เฮ้ย มึงนี่ ไม่รู้จักคำว่าแนวเอาซะเล้ย มันเหมือนตรงไหนเนี่ย มึงดูดีๆเซ่ 555
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
ตอนนี้กำลังทำ "เตซิส" เรื่อง "เล่าเรื่องราวของประเทศไทยในมุมมองของนักออกแบบ"

เรื่องนี้ก็คิดว่าจะทำมาตั้งกะปีที่แล้วครับ เพราะได้เห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ขัดหูขัดตาในประเทศไทย

แต่ปัญหาคือ "ความเห็นของนักออกแบบ" นี่สิ

พอไปถามนักออกแบบหลายๆสาขา หลายๆอายุ ความเห็นเริ่มตีกัน

ก็ค่อยยังชั่วที่เริ่มมองเห็นภาครวมแล้ว

ถ้า "เตซิส" แสดงแล้วจะมาชวยกันไปดู ( ถ้าผ่านนะ - -" )

--------  ทีซิส เตซิส เดอะซิส Thesis ----------
บันทึกการเข้า
คณะอะไรเหรอครับ?
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
คณศิลปกรรมศาสตร์ ม.กรุงเทพครับ

เพื่อนร่วมsection ก็มี โม่ ผม แล้วก็ไอ้ชื่น นี่แหละครับ ที่อยู่ในบอร์ดนี้
บันทึกการเข้า

"...ถ้าสายตาเราชินกับในที่มืดแล้ว คงยากที่จะเพ่งมองโลกภายนอกได้..."
เอ้า ถ้าได้หลายความเห็นยิ่งดี
เวลาเอาไอ้ที่หลากๆ มาเกลาเป็นความเห็นตัวเอง
นั่นแหละครับ ได้แนวแล้วก็ลุยไปเลย
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ขอลองพูดอะไรหน่อยนะครับ

" ความเป็นไทยคืออะไร " ผมเชื่อว่าเราหลายๆคนก็คงเคยได้ยินคำถามนี้กันบ่อยๆ
ตำตอบก็จะเป็นประมาน ลายกนก  อักษรไทย ลายไทย ผ้าไหม
ผมว่าคำตอบทั้งหลายเหล่านี้ก็ไม่ผิด

แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าความเป็นไทยไม่ได้มีแค่เพียงเปลือกนอกเหล่านั้น
ถ้าเราจะมองความเป็นไทยนั้นควรจะมองที่ "แก่น" ด้วย

แก่นของความเป็นไทยคืออะไรผมก็ไม่รู้หรอกนะ
แต่ผมคิดว่าแก่นนั้นคือ วิธีการดำเนินชีวิต คือ เรากินอะไร เรานอนยังไง เรามีความคิดอย่างไร
แล้วบริบททั้งหลายเหล่านั้นแหละจะเป็นตัวที่สร้างเปลือกทั้งหลายที่เราเห็นกัน

เป็นที่แน่นอนว่าแก่นของความเป็นไทยในสมัยนี้กับสมัยอยุธยานั้นต่างกัน (แต่ก็ยังคงมีจุดร่วมบางอย่าง)
ในสมัยก่อนนั้นเราอาจจะเป็นชาติที่ความเป็นชาตินิยมสูง แต่ในสมัยนี้อาจถูกลืมเลือนไป
ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างเช่น การรุกล้ำเข้ามาของต่างชาติ การที่โลกทั้งใบแคบลง ค่านิยมต่างๆที่เข้ามาใหม่
จนอาจทำให้คนไทยสมัยนี้เหมือนตุ๊กตาตัดแปะ คือ หยิบของคนอื่นมาอย่างละนิดละหน่อย อะไรที่เห็นว่าดีก็เอามาใช้
(โดยไม่รู้ว่ามันดีหรือไม่ดีต่อบริบทของสังคมไทย)

แต่ที่ผมพูดคือไม่ได้บอกว่าการหยิบยืมนั้นๆเป็นสิ่งไม่ดี มันจำเป็นด้วยหรือที่เราจะต้องมีแก่นของความเป็นไทยแท้ๆ
หยิบยืมสิ่งดีๆของคนอื่นมามันก็ไม่ใช่ความผิดซักหน่อย ผมกลับเห็นว่ามันเป็นสิ่งดีที่เราพยายามพัฒนาสังคมของเราซะอีก

แต่ก็อีกนั้นแหละการที่ผมจะพูดว่าอะไรดีไม่ดี อะไรมีคุณธรรม ไม่มีคุณธรรม นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่า
ผมได้ผลประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อมจากสิ่งๆนั้น (ยกตัวอย่างกรรมการฟุตบอลเป่าจุดโทษ
ให้ทีม ก. ทีม ข. ที่เสียจุดโทษนั้นก็ต้องเห็นว่ามันไม่ดี แต่ทีม ก. ก็เห็นว่าเป็นสิ่งดี ตัวอย่างที่ยกนั้น
อาจจะทำให้พอเข้าใจได้บ้าง แต่พอมาในสังคมจริงๆแล้วมันจะมีอะไรมากกว่านี้ )

จากที่อ่านมาคงจะดูเหมือนว่าความดี หรือ คุณธรรมนั้นช่างเลือนลางเสียเหลือเกิน
งั้นเราจะใช้อะไรตัดสินดีล่ะ อันนี้ผมเชื่อว่าเราเป็นคนเหมือนๆกัน อยู่ประเทศเดียวกัน
รับข่าวสารคล้ายๆกัน มันคงจะมีจุดร่วมบางอย่างที่ทำให้เราเห็นความดีและความยุติธรรมอันเดียวกัน
แล้วก็ต้องถามอีกอย่างด้วยละว่า "คุณเลือกที่จะยืนอยู่จุดไหน"
 
ก่อนที่จะออกประเด็นไปมากกว่านี้ผมของพูดสรุปว่า
"ความเป็นไทยอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เราสวมใส่ แต่ต้องถามว่าเราใช้ชีวิตอย่างไร"

ปล.เหนื่อยโม้มันไปหน่อย




ชอบความเห็นคุณจัง  เจ๋ง น่าอ่านมากคะ :P
ขอแจมด้วยคนนะ.... พอดีกำลังทำงานให้ลูกค้าเสร็จ เกี่ยวกับความเป็นไทย อารมณ์ยังติดพัน ขอสักนิดนะคะ 555 หวังว่าคงพอจะมีประโยชน์กับเจ้าของกระทู้บางสักนิดนะคะ

เรื่อง ความเป็นไทย คงไม่พูด เพราะต่างคนต่างคิด ต่างจิต ต่างใจ หลากหลายความเห็น คนไทยแต่ละคนก็มองความเป็นไทยต่างกัน ฝรั่งก็มองเราเป็นไทยในแบบเค้ามอง ฯลฯ เหมือนที่หลายๆ คนตอบไป

ขอเข้าเรื่องให้ตรงคำถามเลยนะคะ คือวัตถุประสงค์ที่จะสร้างงานที่มีความเป็นไทยออกมา... หากเป็นคงานลูกค้าซึ่งก็ต้องเข้าใจกันว่ามันเป็นธุรกิจเค้าจ้างเราทำ ลูกค้าดีหน่อยก็ ให้เรามีโอกาสนำเสนอในความคิดเราได้มากหน่อย ลูกค้าแย่ๆ ก็เหมือนจิตนาการมาให้หมด แค่จ้างหยิบมือเรามา วาดๆเขียนไป ซึ่งตรงนี้ต้องตีโจทย์ให้ได้ว่า สิ่งที่เราจะทำ มันเสนอให้ผู้บริโภคกลุ่มใด และควรนำเสนอความเป็นไทยในมุมมองไหน เพราะว่าความเป็นไทย มันมีมากมายเหมือที่ คุณ "แสนชื่น"ได้บอกไป วิถีความเป็นไทย ดำเนินชีวิตแบบไทย จิตใจไมตรีแบบไทย บร๊า บรา บรา ฯลฯ

แต่ยังไงพื้นฐานที่ทุกคนจะพูดถึงไทย คือลายไทยทั้งหลาย ซึ่งมีหลากหลาย รูปแบบ หลายยุค สมัย หลายระดับชั้น ดูอย่างลายไทยชั้นสูงก็ ตามผลงานต่างๆของราชวงค์ (ดูจากงานที่เพิ่งผ่านมาก็จะเห็นว่า ทีวีเค้าก็ไปซูมให้เราเห็นลวดลายไทยชั้นสูงของราชวงค์) ทำให้เราได้เห็นลายไทยที่บางคนอาจยังไม่เคยเห็น หรือลายไทยที่ใช้กันทั่วไป ลายกนกต่างๆ ก็มีเยอะ

ยิ่งพิมพ์ยาวยิ่งมั่ว.... สรุปค่ะ ตีโจทย์ลูกค้าว่า(ให้ตีไปที่ลูกค้าของลูกค้า ไม่ใช้ลูกค้าที่จ้างเรา) ว่าเค้าเป็นกลุ่มประเภทไหนที่จะมีความสนใจ หรืออะไรก็ตามกับสิ่งที่เราจะทำ  ยกตัวอย่างเช่น โลโก้ของหลิน เค้าจะขายของที่เป็นไทย ให้ฝรั่ง... พื้นฐานฝรั่งก็มองไทยเป็น ไท๊ย ไทย ลวดลายไทย อะไรพวกนั้นเพราะเป็นสิ่งที่เค้า จับต้องบ่อยๆ เห็นบ่อยๆตามสื่อต่างๆ นั่นคือสิ่งที่ง่ายที่สุดที่่จะทำให้เค้าเห็นโลโก้ของลูกค้าแล้ว คิดได้ทันทีว่าเป็นอะไร ซึ่งโลโก้เป็นส่วนสำคัญที่จะต้องเห็นปุ๊บรู้ปั๊บ ง่ายที่สุด

ส่วนเรื่องสีก็อย่างที่ เห็นด้วยกับคุณแสนชื่ อีกแล้วค่ะ :)
สีเดียวก็สวยได้ แต่หลายๆคนชอบทำอะไรที่เป็นเป็นสีทอง ก็เราถูกปลูกฝั่งและเห็นวัฒนธรรมต่างๆ อะไรในความเป็นไทย เป็นแบบนี้ตลอด โดยเฉพาะ ความเป็นไทย มักจะไปโผล่ในวัดวาอาราม มานานแล้ว สีทองเป็นสีที่เปร่งประกาย สื่อถึงความอลังการณ์ของมัน ไม่ว่าจะเรื่องศาสนา วิธีของแต่ละยุคสมัย เลยทำให้คนติดกับสีนี้ จะทำสีอื่นก็คงไม่แปลก แต่คงไม่ชินตามากกว่า แต่ไม่แนะนำให้โลโก้มีสีหลายๆสี เลยคะ จดจำได้ยาก เอาสีน้อยๆ แต่ไล่เฉดสีก็ดีกว่านะค่ะ ดูมีชีวิตชีวากว่าเยอะ

ความคิดเห็นส่วนตัวนะค่ะ ผิดถูกประการใดขอ อภัยด้วยเจ้า....


ลิงค์ตัวอย่างงาน แบบไทยคะ่ เผื่อมีประโยชน์ในการออกแบบงานอื่นๆ
http://emitcreation.com/thaimelody/index2.php
http://emitcreation.com/thaimelody/



บันทึกการเข้า
โอ้ว งานสวยครับ ทำ "ไทย" ได้ไทยจ๋ามากๆ กรี๊ดดดดด
ขายความเป็นไทยให้ฝรั่งดู ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็นึกไม่ออกจริงๆ ครับว่าจะออกไปแนวไหน
มันอยู่ที่การตีความจริงๆ นั่นแหละ ว่าลูกค้าคิดแบบเดียวกับเราหรือเปล่า
ถ้าไม่ เราจะจูนกันลงตัวที่ตรงไหนดี

เหมือนถ้าให้พูดเรื่องโลกของเรา ออกมาเป็นงานดีไซน์อะไรสักอย่าง
วินาทีนี้แวบแรกก็คงคิดถึงพวกโลกร้อนอะไรแบบนี้แหละครับเป็นโจทย์แรก
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ดูร้อนแรงดีนะครับ

จริงๆผมว่างานไทยเรา ถ้าไม่นับเอาเรื่องของ ลายเส้นหรือรูปแบบที่เป้นไทยจ๋ามาเล่น
การเอาโทนอารมณ์ของสีมาเล่น ก็ไม่เลวนะ
อย่างในลิงค์แรก ผมชอบรูปแรกนะ ดูไทยๆแบบละมุนละม่อมด้วยสีและองค์ประกอบง่ายๆดี

เหมือนนั่งดูแม่พลอยนั่งร้อยมาลัยอยู่บนชานริมน้ำ ยังไงยังงั้น

ส่วนรูปหลังๆ ดูมันร้อนแรงมีพลัง + กับรูปแบบของลายไทย (อันนี้ผมขออนุญาตรู้สึกขัดๆนิดๆนะครับ ไหว้)
ทำให้งานดู ขลัง มีพลัง และจัดจ้าน ดูคึกคักขึงขัง แบบไทยๆดีนะครับ

เหมือนนั่งดูนายจันทร์หนวดเขี้ยวใส่เสื้อยันต์ลงอาคมเตรียมไปออกรบบ แบบนั้นแหละ

แต่โดยรวมงานเจ๋งดีครับ สากลแบบไทยๆที่ฝรั่งน่าจะเข้าถึงได้ง่ายทีเดียว
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
โอ้ว งานสวยครับ ทำ "ไทย" ได้ไทยจ๋ามากๆ กรี๊ดดดดด
ขายความเป็นไทยให้ฝรั่งดู ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็นึกไม่ออกจริงๆ ครับว่าจะออกไปแนวไหน
มันอยู่ที่การตีความจริงๆ นั่นแหละ ว่าลูกค้าคิดแบบเดียวกับเราหรือเปล่า
ถ้าไม่ เราจะจูนกันลงตัวที่ตรงไหนดี

เหมือนถ้าให้พูดเรื่องโลกของเรา ออกมาเป็นงานดีไซน์อะไรสักอย่าง
วินาทีนี้แวบแรกก็คงคิดถึงพวกโลกร้อนอะไรแบบนี้แหละครับเป็นโจทย์แรก

นั่นแหละคะ คุณแอน การออกแบบงานมันไม่ได้อยู่ที่ตัวนักออกแบบเองเท่านั้น มันขึ้นอยู่กับหลายๆองค์ประกอบ สุดท้ายก็ต้องหยุดคำตอบที่ผู้ว่าจ้าง เราทำได้ดีที่สุดคือนำเสนออะไรให้ดีต่อการออกแบบที่สุด และให้ลูกค้าพึ่งพอใจ โดยอยู่บนบรรทัดฐานที่ไม่เอาใจลูกค้า จนผลิตงานออกแบบคุณภาพต่ำออกมา เพื่อเงิน มีไม่มากงานนักที่จะสามารถสร้างสรรค์งาน ที่ไม่ใช้โลกร้อน แต่เป็นแนวคิดใหม่ๆ โดยผ่านการยอมรับของผู้ว่าจ้าง คงต้องหวังให้ผู้ว่าจ้างในความคิดที่เปิดกว้างขึ้นเยอะๆคะ และนักออกแบบก็ออกแบบงานคุณภาพกัน มองกันไกลๆขึ้นเยอะๆ ก็จะทำให้เรามีงานที่หลากหลายมากขึ้น ทุกวันๆ สาธุ ฮ่าๆๆ (อิอิ)
บันทึกการเข้า
อา...ถ้าลองอ่านกาตูนเรื่อง เจ้สาวเจ้าตำหรับ น่าจะเชื่อมแนวคิดได้ ว่าพื้นฐานของญี่ปุ่น มาจากอะไรบ้าง แนวคิดนี้เอามาใช้กับบ้านเราได้แม้จะไม่หลากหลาย  โชตะ คิคุจิ ค่อนข้างถ่ายทอดมันออกมาได้ลึกซึ้ง +บิ้ว เว่อๆ ช้าไปใช่มั๊ย แต่อยากตอบหน่ะ
บันทึกการเข้า
ผมเคยมีโอกาสฝึกงานที่ Practical ครับ

ที่ต้องปรับโลโก้หอศิลป์นี่ไม่ใช่ว่าอยากปรับอะไรหรอกครับ
ผมคิดว่าไม่มีใครอยากปรับงานที่ชนะการประกวดมาหรอกครับ เข้าใจอารมณ์คนชนะเลิศนะ

- ปรับไม่ดีก็จะมีคำวิจารณ์ว่า ปรับทำไม ของเดิมดีกว่า
- ปรับมากก็ไม่ได้ โดนวิจารณ์ว่าไปปรับของเขาทำไม
- ปรับแล้วห่วยกว่าเดิมด็โดนอีก ว่าปรับยังไงให้แย่ลง
- บลา บลา

แต่ที่ต้องปรับเพราะผู้ว่าจ้างน่ะครับ มันปฏิเสธบ่ได้  ฮือๆ~

ผมก็เคยลองออกแบบตัว Type ข้างล่างครับ แต่ว่าไม่ได้ใช้  อืมมมมห์





แก้นิโหน่ย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 ก.พ. 2009, 22:31 น. โดย โม่ » บันทึกการเข้า

perfectionist
 กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด สวยย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 3 [4] 5
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!