เคยครับ
แต่หลังจากที่รู้ว่าการร้องไห้ทำให้เสี่ยงต่อการโดนฟ้อง ผมก็เลิกร้องไห้
เพราะหมอร้องไห้ ไปถามใครเค้าก็หาว่าเราทำพลาด
ถ้าไม่พลาดหมอจะร้องไห้ทำไม
หลังๆก็ไม่ร้อง เพราะยึดหลักว่า
ช่วยเต็มที่แล้ว ผมไม่มีอะไรให้เสียใจแล้ว
ถ้าคนไข้ตายจากเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับผม ผมก็ไม่รู้จะร้องไห้ทำไม (แต่ก่อนSensitiveเกิน ร้องไห้บ่อย) คนที่ควรร้องไห้ควรจะเป็นคนที่เป็นสาเหตุ
ถ้าผมร้องไห้ แล้วคนไข้ที่นั่งรอตรวจอยู่จะว่าไง มันเหมือนเป็นเรื่องของ กำลังใจนิดนึงใช่มั้ยคะหมอแมว
เพราะน้องชายเคยป่วย แล้วเราถามว่าทำไมไม่ร้องเลย
น้องบอกว่า ถ้าน้องร้อง คนอื่นก็คงรู้สึกแย่กันไปหมด
แต่ถ้าน้องยิ้ม ทุกคนก็จะยิ้มให้น้องคืน มันดีกว่าเยอะ
(เท้าความ อนุญาติให้ข้ามได้ เพราะเรื่องค่อนข้างยาว)เพราะตอนมัธยม เราอยู่ ม.6 น้องอยู่ ม.3
น้องชายมารับที่หน้าโรงเรียน ( เบญจมราชาลัย )
หลังจากไปแข่ง บาส กับเพื่อนที่ สวนกุหลาบ
น้องก็โทรมาบอกว่าถึงหน้าโรงเรียนแล้วนะ
เราก็บอกว่า นั่งรอแป๊ปนึงนะ
ขอเล่นบาส 10 นาที
น้องเลยบอกว่า งั้นไปรอตรง อู่รถเมล์นะ ( สาย 42 จะอยู่ข้างวัดสุทัศน์ เยื้องๆ รร.)
เราก็เล่นบาสไป เล่นเสร็จกลับมาดูมือถือ
มีเบอร์ miss call จากแม่ 20 กว่าครั้ง และมีของน้อง 1 ครั้ง เป็นครั้งแรกสุด
(เปิดสั่น แล้ววางไว้เพราะไปเล่นบาส)
ตกใจ รีบโทรหาแม่ แม่ร้องไห้แล้วบอกว่า น้องโดนรุมตี
มีคนพาส่งโรงพยาบาลแล้ว ให้ไปหาน้องด่วนที่สุด
เชื่อมั้ยว่า ไม่เกิน 15 นาทีจากน้องชายโทรมาจริงๆนะ
ร้องไห้ตรงนั้นเลย
ก่อนจะขึ้นแท๊กซี่ไปโรงพยาบาล วิ่งไปดูตรงที่น้องโดนตี
หน้าอู่รถเมล์ สาย 42 เจอกองเลือดเยอะมาก
เหมือนในละครเลย ภาพน้องตัดไปตัดมา ในหัว
ขึ้นรถไปหาน้องที่โรงพยาบาลหัวเฉียว
ตอนเจอน้อง น้องไม่ได้หลับ แต่มองเราไม่เห็นแล้ว
หน้าปูดบวม ตาปิดทั้งสองข้าง ส่วนปากเห็นได้ว่าผิดรูป
มีรอยฉีกจากเบ้าตา เลือดเต็มกกหู
แล้วก็แผลตามตัว
ร้อง โฮ ทันทีที่เห็นสภาพน้อง ไม่กล้าจับตัวน้องเลย
กลัวน้องเจ็บ ได้แต่ถอดรองเท้าที่เหลืออยู่อีกข้างให้
แล้วถามน้องว่าเจ็บมากมั้ย เจ็บตรงไหน
(ตอนพิมพ์ เนี่ยเชื่อมั้ยว่า จะร้องไห้ทุกทีที่นึกถึง)
น้องไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่บีบมือเราเบาๆ
เราก็เฝ้าพูดกะน้องกลัวน้องหลับ ขอโทษน้องต่างๆนานา
รู้สึกผิดที่สุด ที่ไม่รีบออกมาหาน้อง
( น้องนอนรอเข้าห้อง x-ray )
ป๊ากับม๊า มาทันก่อนทาง รพ. พาน้องไปทำแผล
ได้เห็นสภาพเหมือนกัน
น้อง กระดูกเบ้าตาแตก
กระดูกโหนกแก้มแตก
เบ้าตาฉีก
กรามเบี้ยว
คางแตก
คือหน้าเละเลยตอนเย็บออกมา
วันแรก เย็บปิดแผลก่อน
ยังไม่ได้ทำอะไรกะกราม
หลังจากนั้น3วันหมอเข้ามาผูกลวด
ที่ฟัน คืออ้าปากไม่ได้ ตลอดสองเดือนเต็มๆ
กินอาหารปั่น แบบโจ้กปั่น แล้วให้น้องดูด
สงสารน้องมากๆ
วันแรกที่น้องออกจากห้องผ่าตัดมา
ป๊ากะม๊าน้ำตาซึม แต่เราร้องไห้
ป๊าเลยเรียกไปคุยว่า เราต้องอย่าร้องไห้
ถ้าเราเป็นพี่แล้วเราร้องไห้ต่อหน้าน้อง
น้องจะคิดว่าเป็นหนัก เดี๋ยวน้องใจเสีย
ก็เลยเดินเข้ามา สะฮื้น ฮึกๆ ไปนั่งข้างเตียงน้อง
น้องเขียนกระดาษว่า
" หยุดร้องได้แล้ว เค้าไม่เจ็บแล้ว"อ่านเสร็จเลย โฮ อีกรอบ น้องเขียน ยิกยักๆ
" จ้อนร้องไห้น่าเกลียด พอเหอะ " เลยขำทั้งน้ำตา
น้องร้องไห้ให้เห็นครั้งเดียวตอน ม๊านั่งตัดเล็บให้น้องแล้วร้องไห้
น้องร้องตาม เลยร้องกันทั้งบ้าน
ผ่านมา 5-6 ปีแล้ว
เค้ารักตัวเองนะ
ขนาดแค่นี้ ไม่ถึง เฉียดตาย เราที่เป็นแค่พี่สาว ยังเกือบตาย
แล้วถ้าคนที่เป็น พ่อเป็นแม่ล่ะ
ใจหาย จนเจ็บอก มันเป็นเรื่องจริง
นึกภาพไม่ออกเลย
ถ้าวันนึงเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ มันจะเป็นยังไง....