หน้า: 1 2 [3]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: วินาทีแห่งชีวิต  (อ่าน 12100 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
อ่านไป ก็สยองไป


ของตัวเอง นี่เคยแต่หอบจนหายใจไม่ออกค่ะ
คือว่าเป็นภูมิแพ้ แล้วก็หอบด้วยเป็นบางครั้ง
วันนั้นไม่รู้ไปโดนอะไรมา
หอบมาก หายใจไม่ออก
ยาพ่นก็ไม่ได้เอาไปด้วย
มันอยากหายใจ แต่มันหายใจไม่ได้น่ะ พยายามสูดลมหายใจ แต่ก็ไม่เป็นผล
อารมณ์นั้นแบบว่าทรมานสุดๆ
มันแน่นไปหมด ตาลาย แล้วก็มืดไปหมด เดินไม่ไหว
ดีที่พี่ๆ ที่ไปด้วยเป็นพยาบาล
ช่วยกันจนดีขึ้นมาได้

ถ้าอยู่คนเดียว ตูตายแหงมๆ คิดแล้วก็สยอง ตายแบบทรมานด้วยสิ
ที่สำคัญ ควรพกยาพ่นไว้ตลอด ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรตอนไหน เฮ้อ.........
บันทึกการเข้า

เคยครับ
 ไอ้มืดหมี แต่หลังจากที่รู้ว่าการร้องไห้ทำให้เสี่ยงต่อการโดนฟ้อง ผมก็เลิกร้องไห้
เพราะหมอร้องไห้ ไปถามใครเค้าก็หาว่าเราทำพลาด
ถ้าไม่พลาดหมอจะร้องไห้ทำไม  ไอ้มืดหมี

หลังๆก็ไม่ร้อง เพราะยึดหลักว่า
ช่วยเต็มที่แล้ว ผมไม่มีอะไรให้เสียใจแล้ว
ถ้าคนไข้ตายจากเหตุอื่นที่ไม่เกี่ยวกับผม ผมก็ไม่รู้จะร้องไห้ทำไม  (แต่ก่อนSensitiveเกิน ร้องไห้บ่อย) คนที่ควรร้องไห้ควรจะเป็นคนที่เป็นสาเหตุ
ถ้าผมร้องไห้ แล้วคนไข้ที่นั่งรอตรวจอยู่จะว่าไง  ไอ้มืดหมี



มันเหมือนเป็นเรื่องของ กำลังใจนิดนึงใช่มั้ยคะหมอแมว
เพราะน้องชายเคยป่วย แล้วเราถามว่าทำไมไม่ร้องเลย
น้องบอกว่า ถ้าน้องร้อง คนอื่นก็คงรู้สึกแย่กันไปหมด
แต่ถ้าน้องยิ้ม ทุกคนก็จะยิ้มให้น้องคืน มันดีกว่าเยอะ

(เท้าความ อนุญาติให้ข้ามได้ เพราะเรื่องค่อนข้างยาว)




เพราะตอนมัธยม เราอยู่ ม.6 น้องอยู่ ม.3
น้องชายมารับที่หน้าโรงเรียน ( เบญจมราชาลัย )
หลังจากไปแข่ง บาส กับเพื่อนที่ สวนกุหลาบ

น้องก็โทรมาบอกว่าถึงหน้าโรงเรียนแล้วนะ
เราก็บอกว่า นั่งรอแป๊ปนึงนะ
ขอเล่นบาส 10 นาที
น้องเลยบอกว่า งั้นไปรอตรง อู่รถเมล์นะ ( สาย 42 จะอยู่ข้างวัดสุทัศน์ เยื้องๆ รร.)

เราก็เล่นบาสไป เล่นเสร็จกลับมาดูมือถือ
มีเบอร์ miss call จากแม่ 20 กว่าครั้ง และมีของน้อง 1 ครั้ง เป็นครั้งแรกสุด
(เปิดสั่น แล้ววางไว้เพราะไปเล่นบาส)

ตกใจ รีบโทรหาแม่ แม่ร้องไห้แล้วบอกว่า น้องโดนรุมตี
มีคนพาส่งโรงพยาบาลแล้ว ให้ไปหาน้องด่วนที่สุด

เชื่อมั้ยว่า ไม่เกิน 15 นาทีจากน้องชายโทรมาจริงๆนะ
ร้องไห้ตรงนั้นเลย
ก่อนจะขึ้นแท๊กซี่ไปโรงพยาบาล วิ่งไปดูตรงที่น้องโดนตี

หน้าอู่รถเมล์ สาย 42 เจอกองเลือดเยอะมาก
เหมือนในละครเลย ภาพน้องตัดไปตัดมา ในหัว

ขึ้นรถไปหาน้องที่โรงพยาบาลหัวเฉียว
ตอนเจอน้อง น้องไม่ได้หลับ แต่มองเราไม่เห็นแล้ว
หน้าปูดบวม ตาปิดทั้งสองข้าง ส่วนปากเห็นได้ว่าผิดรูป
มีรอยฉีกจากเบ้าตา เลือดเต็มกกหู
แล้วก็แผลตามตัว

ร้อง โฮ ทันทีที่เห็นสภาพน้อง ไม่กล้าจับตัวน้องเลย
กลัวน้องเจ็บ ได้แต่ถอดรองเท้าที่เหลืออยู่อีกข้างให้

แล้วถามน้องว่าเจ็บมากมั้ย เจ็บตรงไหน
(ตอนพิมพ์ เนี่ยเชื่อมั้ยว่า จะร้องไห้ทุกทีที่นึกถึง)
น้องไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่บีบมือเราเบาๆ

เราก็เฝ้าพูดกะน้องกลัวน้องหลับ ขอโทษน้องต่างๆนานา
รู้สึกผิดที่สุด ที่ไม่รีบออกมาหาน้อง
( น้องนอนรอเข้าห้อง x-ray )
ป๊ากับม๊า มาทันก่อนทาง รพ. พาน้องไปทำแผล
ได้เห็นสภาพเหมือนกัน

น้อง กระดูกเบ้าตาแตก
กระดูกโหนกแก้มแตก
เบ้าตาฉีก
กรามเบี้ยว
คางแตก

คือหน้าเละเลยตอนเย็บออกมา
วันแรก เย็บปิดแผลก่อน
ยังไม่ได้ทำอะไรกะกราม

หลังจากนั้น3วันหมอเข้ามาผูกลวด
ที่ฟัน คืออ้าปากไม่ได้ ตลอดสองเดือนเต็มๆ
กินอาหารปั่น แบบโจ้กปั่น แล้วให้น้องดูด
สงสารน้องมากๆ

วันแรกที่น้องออกจากห้องผ่าตัดมา
ป๊ากะม๊าน้ำตาซึม แต่เราร้องไห้
ป๊าเลยเรียกไปคุยว่า เราต้องอย่าร้องไห้
ถ้าเราเป็นพี่แล้วเราร้องไห้ต่อหน้าน้อง
น้องจะคิดว่าเป็นหนัก เดี๋ยวน้องใจเสีย

ก็เลยเดินเข้ามา สะฮื้น ฮึกๆ ไปนั่งข้างเตียงน้อง
น้องเขียนกระดาษว่า " หยุดร้องได้แล้ว เค้าไม่เจ็บแล้ว"
อ่านเสร็จเลย โฮ อีกรอบ น้องเขียน ยิกยักๆ
" จ้อนร้องไห้น่าเกลียด พอเหอะ " เลยขำทั้งน้ำตา

น้องร้องไห้ให้เห็นครั้งเดียวตอน ม๊านั่งตัดเล็บให้น้องแล้วร้องไห้
น้องร้องตาม เลยร้องกันทั้งบ้าน





ผ่านมา 5-6 ปีแล้ว
เค้ารักตัวเองนะ  ปลื้ม
ขนาดแค่นี้ ไม่ถึง เฉียดตาย เราที่เป็นแค่พี่สาว ยังเกือบตาย
แล้วถ้าคนที่เป็น พ่อเป็นแม่ล่ะ
ใจหาย จนเจ็บอก มันเป็นเรื่องจริง
นึกภาพไม่ออกเลย

ถ้าวันนึงเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้ มันจะเป็นยังไง....


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16 ก.ย. 2008, 23:07 น. โดย ปอน ปอน » บันทึกการเข้า

**  stop judgin ME before getting to know ME !! **ปอน ปอน
สองพี่น้องน่ารักจัง ดูแลกันและกันตลอดไปนะคะ ..  ยิ้มน่ารัก

(หน้าเหมือนกันมากเลย..)
บันทึกการเข้า

ไม่เหมือนพี่น้องบ้านเรา ไม่ค่อยจะดูแลกันเท่าไหร่ ออกจะตัวมันตัวเผือก -*-"





ดูแลกันดี ๆ เด้อ รักกัน ๆ  ลันล้า
บันทึกการเข้า
น้องชายมีแฟนยังคะ  หมีโหด~
บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
น้องชายมีแฟนยังคะ  หมีโหด~

แฟนน้องชาย แก่กว่าพี่สาวอีก  คริคริ
สเปกสาวเค้าแบบนั้นอ่ะ
บันทึกการเข้า

**  stop judgin ME before getting to know ME !! **ปอน ปอน
โอ่ย อ่านแล้วจะร้องด้วย
น้ำตาปริ่มแล้ว  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

แฟนน้องชาย แก่กว่าพี่สาวอีก  คริคริ
สเปกสาวเค้าแบบนั้นอ่ะ
โอ่ย อ่านแล้วจะร้องด้วย
น้ำตาปริ่มแล้ว  ฮือๆ~
ผู้ชายไม่ไร้เท่าใบพุทราหรอกหลานเอ๊ย  หมีโหด~
บันทึกการเข้า

  กร๊าก กร๊าก กร๊าก
บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
เพิ่งเห็นจู๋นี้
 ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
 อ๊าง~ ไอ้ส้ม
บันทึกการเข้า

เคยเห็นตอนตาเสียค่ะ

         ยายโทรมาบอกว่าตาอยู่โรงพยาบาล มีคนมาบอกให้ตามไป

แต่ปกติตาเข้าโรงพยาบาลบ่อยมาก เพราะเป็นโรคหอบเลยไม่ค่อยตกใจนัก

ขับรถกลับบ้านไปรับยาย โทรบอกแม่ให้เตรียมกระเป๋ามาเฝ้าตา

แต่ยายดูร้อนรนผิดปกติ  ซึ่งก็ไม่ได้เอะใจอะไร  แอบโมโหนิดๆ ด้วยว่าไรเนี่ย ทำหงุดหงิดไปได้

         พอไปถึงโรงพยาบาล  มัววนหาที่จอดรถ  เลยให้ยายขึ้นไปก่อน

พอตามขึ้นไป  เห็นยายยืนหน้าซีดคุยกับพยาบาลอยู่  แต่ก็ยังไม่สะดุดใจอะไรทั้งนั้น

เดินไปถามว่าตาอยู่ไหน  ยายไม่ตอบ  แต่เดินมาจับมือไว้แน่น...บีบ  แล้วบอกว่า

"ลูกทำใจดีๆนะ  ตาไม่มีแล้ว..."  ความรู้สึกตอนนั้นยังจำได้จนวันนี้

ตัวชาวาบ  ยืนนิ่งไปเลย ... เงียบ  ..มองหน้ายาย ...เงียบ  จนยายเขย่ามือ

ถึงเหมือนรู้สึกกลับมา  แล้วก็ปล่อยน้ำตาไหล  ร้องแบบพรากกกกกก  พรากกกกกกก

           จะเดินไปดูตา  แต่ยายไม่ให้ไป  เพราะกลัวเราเป็นลม  (ต้องบอกก่อนว่าผูกพันกับตายายมาก

เหมือนพ่อกับแม่อีกคู่หนึ่ง เพราะเลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด แทนพ่อแม่เลย  เรียกตาว่า "พ่อ" ด้วยซ้ำ)

เลยหยิบโทรศัพท์โทรหาแม่  เพราะต้องเอาตาออกจากโรงพยาบาลก่อนหกโมงเย็น ตอนนั้นก็ห้าโมงแล้ว

           ทันทีที่แม่รับ   รู้สึกพูดไม่ออก  กลั้นสะอื้นจนเสียงเป็นห้วงๆ แล้วถามว่าแม่อยู่ที่ไหน อยู่กับใคร

แม่บอกว่าอยู่กับป้า...(ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของแม่)  เลยบอกแม่ว่าให้รีบมา  แม่ก็ถามแต่ว่า ตาเป็นไงลูก ตาเป็นไงลูก

เราก็เลยต้องบอกว่า ตาเสียแล้ว... ซึ่งผิดพลาดมาก  มารู้ทีหลังว่าแม่ยืนรอป้าเค้ามารับอยู่คนเดียวริมถนน

พอฟังเราพูดปุ๊บ ทรุดฮวบลงไปนั่งบนถนนเลย  จากนั้นแม่ก็ตัดสายไปเลย  พูดไม่ออก

          วันที่ตาเสีย  ขึ้นรถแล้ววิทยุเปิดเพลง "รักเธอทั้งหมดของหัวใจ"  ของพอส  น้ำตาไหลพรากไม่ยอมหยุด

จากนั้นเพลงนี้ก็เป็นอีกเพลง  ที่ไม่อาจทนฟังได้  โดยน้ำตาไม่ไหล  กลับบ้านไปเอาผ้าห่มกับหมอนให้ตา

เอาผ้าแพรสีแดงที่รักที่สุด  ซึ่งเป็นของที่หอบหิ้วติดตัวตั้งแต่ไปเรียนปัตตานี  จนมากรุงเทพฯ จนหอบกลับบ้านอีกรอบ

ใช้มาเกือบสิบปี  ใส่ให้ตาไปด้วย  ตอนที่เอาตามาวัดเตรียมรดน้ำ  ก่อนสวด.. ไม่อยากเชื่อเลยว่าไปแล้ว

นอนหลับตาพริ้ม จนอยากเรียกว่า "พ่อๆ ตื่นเถอะ  กลับบ้านดีกว่า"

บันทึกการเข้า
 ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

http://www.head2toeshop.com เครื่องสำอาง อาหารเสริม
หน้า: 1 2 [3]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!