ส่วนใหญ่ถ้าอยู่ในฐานะลูกค้า ก็จะพยายามเอาใจเขามาใส่ใจเราเต็มที่
พูดจาอ่อนหวานขานเพราะ แต่ถ้าเมื่อไหร่เจอพนักงานบริการที่ไม่มีใจอยากบริการเอาซะเลย!
ก็จะปรี๊ดแตก และเมื่อถึงเวลานั้นแล้ว ช้างก็ตัวเท่าหมูแน่นอน
เคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆ เจ้าของกระทู้เรื่องหนึ่งคือ สั่งโทรศัพท์มือถือรุ่นหนึ่ง
ไว้กับร้านขายโทรศัพท์ชื่อดัง ที่มีสามถึงสี่สาขาในจังหวัดสุราษฎร์ฯ แต่สาขาที่ไปสั่งนั้นเป็นสาขาบนห้าง
จ่ายมัดจำไว้เรียบร้อย ถึงวันนัดโทรไปถาม ยังไม่มา ผลัดไปอีกสองสามวัน รอไปเรื่อย จนถึงวันนัดโทรไปถาม
ก็ยังไม่มา บอกพนักงานให้ติดต่อกลับด้วยเมื่อเครื่องมาถึง รอไปอีกสองวัน เอ๊ะ..สองอาทิตย์กว่าแล้วนะเฟ้ย
โทรไป..คราวนี้ได้เรื่องเลย พอถามปุ๊บ ตอบด้วยน้ำเสียงกระชากๆ (นิดๆ) ว่ายังไม่มา เราก็เลยบอกว่านานมากแล้วนะคะ
ไม่ทราบว่าจะมาเมื่อไหร่ ทำนองเนี้ย.. เค้าก็เดี๋ยวนะคะ ถามให้ก่อน แล้วได้ยินกะหูเลยว่า นินทาได้ยินไกลๆ ว่า
"โทรมาถามอยู่ได้ บอกว่าไม่มาๆ ไม่รู้เรื่องหรือไง อยากได้นักก็ไปซื้อที่อื่นเลยดิ" พร้อมทั้งประโยคต่อมาที่จี๊ดใจคือ
"อยากเอาแรงแล้ว" ท่านผู้ชมคะ....ไอพุ่ง เดือดดสุดสุด
พอพนักงานคนนั้นมารับสายปุ๊บ พอเค้าพูดจบ "บลาๆๆๆ" เราก็ใส่เลย ว่าที่พูดน่ะได้ยินนะคะ ไม่ทราบว่าจงใจให้ได้ยินหรือเปล่า
ถ้าจงใจก็ประสบความสำเร็จแล้วค่ะ เพราะได้ยินเต็มสองหูเลย ฯลฯ เค้าก็ "อึ้งแดก" แล้วก็ "ขอโทษค่ะ" ประมาณสองสามครั้ง
จากนั้นก็ส่งให้ผู้จัดการสาขาคุย ผู้จัดการก็ขอโทษตามระเบียบ เรารับฟังแต่จบไม่ได้ครับพี่น้อง อดใจไม่ไหวจริงๆ
เลยโทรหาเพื่อนเพื่อให้เพื่อนสืบหาเบอร์ของเจ้าของร้าน จากเพื่อนที่เป็นเอเยนต์ขายโทรศัพท์อีกทีนึง
ปฏิบัติการเริ่มขึ้นเมื่อได้เบอร์เจ้าของร้าน นางมารโทรไปทันที แนะนำตัวเสร็จสรรพ เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
เจ้าของร้านก็ขอโทษขอโพย บอกว่าเป็นพนักงานใหม่ ยังไม่พ้นทดลองงานเลย แล้วจะตักเตือนให้ เราก็โอเครับฟัง
ผ่านจากนั้นมาสามเดือน กลับไปร้านนั้นอีกครั้งที่สาขาใหญ่ เพื่อพาแม่ไปซื้อโทรศัพท์ ถามหาเจ้าของร้าน
เพื่อแนะนำตัว (เพราะเค้าบอกว่าถ้ามาซื้อโทรศัพท์ฯคราวหน้าจะลดราคาให้เป็นพิเศษ) เจ้าของร้านแจ้งว่า พนักงานคนนั้นออกไปแล้ว
พร้อมทั้งบัตรเติมเงินที่หายไปอีกปึกนึง ตอนเช็คสต๊อก แต่เค้าทำประกันความเสียหายจากพนักงานไว้ เลยไม่เดือดร้อน จบข่าว!