คือมองในสองแง่นะ
แง่มุมนึง พนักงานผิดตรงที่ไปว่าเค้าให้ได้ยิน (คงจะไม่ผิด หากจะนินทากันเองในหมู่เพื่อนฝูง)
อีกแง่นึง เจ้าของกระทู้ผิด ตรงที่ไปพูด+ทำหน้าทำตาใส่
ลองด฿ตามอีโมแล้วกัน
ดิชั้น- ขอโทษนะคะ ที่นั่งเสริมนี่ขอใช้ได้ไหมคะ เราตัวเตี้ย มองเห็นลำบากอ่ะค่ะ
พนักงานชาย - อ๋อ ใช้ไม่ได้ครับ เบาะนี้ใช้กับเด็กเท่านั้นครับ
ดิชั้น- เหรอคะ เราต้องนั่งบนขาตัวเองเวลาดูหนังทุกทีเลย
พนักงานชาย - อืม.....เดี๋ยวนะครับ
พนักงานหญิงที่ยืนอยู่ตรงประตูโรงหนังพอดี - ไม่ได้ค่ะ
เบาะนี้จัดไว้ให้เด็กค่ะ
เราก็พูดพร้อมหัวเราะว่า - :42:ผู้ใหญ่ตัวเตี้ยก็ใช้ไม่ได้เนอะ :42:แล้วเราก็ยิ้ม
พร้อมกับเดินเข้าโรงหนัง
บอกว่าไม่ได้ๆ ยังมาทำหน้าเป็นถามอีก ปัญญาอ่อน (ไม่มีอีโม เพราะคงไม่เห็นหน้า)
วิจารณ์ในมุมมองอีกด้านนะครับ
เจ้าของกระทู้นั้นไม่พอใจที่ว่าลับหลัง และน่าจะไม่พอใจคำว่าปัญญาอ่อน ... ซึ่งที่จริงเค้าจะว่าอะไรลับหลังมันก็เรื่องของเค้า (คนที่ดูถูกพนักงาน โดยอ้างคำว่าService mind ผมว่าดูถูกคนนะ เพราะService mind มันก็คือช่วงการบริการนั้น ไม่ได้แปลว่าพอกลับไปที่บ้านหรืออยู่ส่วนตัวแล้วลูกค้าจะเป็นพระเจ้านี่หว่า) เพียงแต่รายนี้พลาดที่พูดดังไป
อีกคำที่ว่า ปัญญาอ่อน ... ในมุมนึงดูแรง แต่อีกมุมนึง เป็นคำติดปากธรรมดาหรือเปล่า
ในมุมกลับกัน
อ่านจาก Context แล้ว
จขกท. ขอครั้งแรก พนักงานชายได้ปฏิเสธไปแล้วครั้งนึง / จขกท.บอกเหตุผลอีกครั้ง พนักงานชายลังเล / พนักงานหญิงที่อยู่ใกล้ๆจึงได้ปฏิเสธอีกครั้ง .... เจ้าของกระทู้เลยทำหน้ายิ้มแล้วตอบไปว่า "
ผู้ใหญ่ตัวเตี้ยก็นั่งไม่ได้เนอะ"
(อย่าลืมว่าจากเหตุการณ์ที่เล่ามา พนักงานหญิงน่าจะเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรกสุด)
ลองดูจากรูปประโยคดีๆนะครับ ขอ-ไม่ให้ / ขออีก-ไม่ให้ ... พูดใส่แบบยิ้มๆแล้วหันหลังเดินไป
บ้านผมเรียกว่าประชดครับ ....
เจ้าของกระทู้อาจจะไม่ได้คิดอะไร แต่หลายคนเขาคิดอย่างนั้นได้
ก็ทำนองเดียวกับคำว่าปัญญาอ่อน หลายคนพูดลอยๆได้เป็นคำติดปากในเวลาอารมณ์ไม่ดี
อาจจะไม่ได้ตั้งใจว่าปัญญาอ่อนจริงๆก็ได้
และเจ้าของกระทู้ได้เลือกแล้วที่จะไม่"เปิดใจ" ดังนั้นผมว่าเจ้าของกระทู้น่าเกลียดนิดนึงที่เอาเรื่องแบบนี้มาพูด
ในกรณีนี้ หากผมเป็นผู้จัดการ ก็คงรีบเคลียร์ตั้งแต่ต้น
ผู้จัดการแมว : ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่งครับ แล้วผมจะจัดการลงโทษให้พนักงานคนดังกล่าวไปทำงานในส่วนอื่นครับ นอกจากนี้จะอบรมด้วยตนเองเลยครับ
หลังจากนั้น
ผู้จัดการแมว : เฮ้ย ย้ายๆ เดือนหน้าคุณไปทำงานที่ห้องขายตั๋วนะ แล้วย้ายนายเอที่ห้องขายตั๋วมาทำแทน ... เดี๋ยวมีเอโดนร้องเรียนอีกก็ค่อยสลับอีกที
ผู้จัดการแมว : ทีหลังอดทนไว้ จำไว้ว่าอย่าไปว่าอะไรลูกค้า เดี๋ยวซวยกันหมด
พนักงาน : แล้วจะทำยังไงล่ะคะ
ผู้จัดการแมว : ทีหลังถ้ามีมากวนแบบนี้อีก ให้พูดเสียงดังๆฟังชัดๆเลยว่า "ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงนะคะ เบาะนี้ทางโรงหนังจัดไว้เพื่อให้เด็กเล็กใช้โดยเฉพาะ หากให้คุณใช้แล้วอาจจะทำให้เด็กที่จะมาดูหนังไม่ได้ดูหนังเลย ... ต้องขออภัยจริงๆค่ะ" เอาดังๆประจานให้ลูกค้าคนอื่นรู้กันไปเลย ... อย่าลืมฉีกยิ้มเยอะๆด้วยล่ะ
ปล. อ่านมาถึงตรงนี้ไม่ใช่ว่าด่าจขกท.นั้นอย่างเดียวนะ จริงๆมันก็น่าจะผิดทั้งคู่นั่นแหละ
เพิ่มเติม
ตรงส่วนที่ส้มพูดมาผมเห็นเพิ่มเติมนิดนึงคือ คนที่เกิดเรื่องเป็นพนักงานซึ่งเค้าไม่มีสิทธิไปอนุญาตอะไร ...
แต่ถ้ามองจากมุมมองของเจ้าของกิจการหรือ Manager ... ตรงจุดนี้คือส่วนที่ผู้จัดการต้องไปแก้ไขหรือประชุมลูกน้องเพื่อจัดการไปในแนวทางเดียวกัน
สมมุติว่ามีการร้องเรียนบ่อยๆว่าพนักงานไม่ให้เบาะรองนั่ง ... คนที่จะโดนคือผู้จัดการนะ ผมว่า
แต่กรณีนี้เป็นเรื่องการพูดจาไม่ดีซึ่งเกี่ยวเนื่องกับปัญหาเบาะนั่ง ... คนที่จะโดนคือผู้จัดการ+พนักงานที่ไปว่าเค้า