หน้า: [1] 2
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เสียดาย  (อ่าน 6877 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
บางครั้งผมกลับบ้านที่ไทยไป นัดพบกับเพื่อนฝูงที่ไม่ได้เจอกันนาน บางคนที่เคยคบหากันอย่างสนิทสนมกลับรู้สึกตะขิดตะขวงใจที่จะคุยด้วย
เพราะบางครั้งการที่สนิทสนมกันมากจนเกินไปก็ทำให้ความเกรงใจนั้นลดลง ...(บางคนบอกว่าความน่าตื่นเต้นก็ลดลงด้วย ฮ่าๆ) ทำให้รู้สึกแปลกๆ ในบางที

แต่วันนี้มีเรื่องนึงอยากจะเล่าให้ฟังครับ
เพื่อนผมคนนึงเจอกันตั้งแต่ ม ปลาย เราอยู่คนละห้อง ไม่เคยคุยกัน + ไม่ชอบขี้หน้ากัน
เราเรียนคณะเดียวกัน มหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่ยังคงแทบจะไม่คุยกัน

ผมจบออกมา ได้ทุนเรียนต่อ เริ่มหางานอดิเรกทำ นั่นคือการถ่ายรูป และเล่นเว็บบอร์ดแห่งหนึ่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์กัน

และแล้ว วันที่ทำให้คนสองคนที่แทบจะไม่เคยคุยกันกลับกลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาจนถึงทุกวันนี้ก็มาถึง (ผ่านไปเจ็ดปีแล้วสิเนี่ย)
บรรยากาศที่สนุกสนานแม้แสงไฟในร้านจะขมุกขมัว ทำให้ความตึงเครียดของการจับคนที่ไม่รู้จักกันเลยมานั่งร่วมโต๊ะกันอยู่ในที่เดียวกัน คนที่รู้จักกันก็คุยกันสนุกสนานสุดๆ 

แต่คนที่ไม่รู้จักกันมาก่อนนี่สิ นั่งเก็กกันขาสั่น ไม่มีใครอยากจะทลายกำแพงน้ำแข็ง บางคนพยายามจะเริ่มชวนคุย ใช้ล๊อกอินอะไรคะ ถ่ายภาพมานานยังคะ จบ ... หมดเรื่องคุย กร่อย

(ผมไปสาย เลยไม่ค่อยกร่อย)

แต่พอไปถึง กลับต้องตกตะลึง นั่งอยู่กลางวง หนึ่งในกลุ่มคนที่เราจะมาเจอในวันนี้
เพื่อนผมเอง คนที่ไม่เคยคุยกัน (+ไม่ค่อยชอบขี้หน้ากัน)

เราเริ่มคุยกัน และพบว่าเราทั้งคู่สนใจในเรื่องคล้ายๆ กัน และนับจากวันนั้น จนถึงวันนี้
ผมกับเขาคนนั้น ก็เป็นเพื่อนทีสนิทกันอย่างที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นได้ ...และผมเชื่อว่าเราจะเป็นเพื่อนกันต่อไปอีกนานแสนนาน

 
เรื่องนี้ทำให้ทำให้รู้สึกว่าคนบางคนที่ไม่ค่อยได้คุยกัน พอมีโอกาสได้คุยกลับคุยกันสนุกกว่า จนบางครั้งทำให้เสียดายเวลาว่าตอนที่อยู่ด้วยกันน่าจะเข้ามาคุยกันให้มากกว่านี้ เพราะคงจะได้พบเพื่อนที่รู้ใจไวกว่าเดิม ...

มิตรภาพ บางทีก็มาช้าเสียเหลือเกิน ...

เคยมีใครเป็นอย่างผมบ้างไหมครับ?  ลันล้า
บันทึกการเข้า

My handsomeness is toxic to all chics.. :P
ยังนึกไม่ออกนะครับ ขอนึกก่อนแล้วกัน
บันทึกการเข้า

เคยครับ

ตอนที่ผมจบม.3 แล้วมาเรียนต่อที่กทม.
เพื่อนคนหนึ่งที่ก็สนิท นั่นแหละ แต่สนิทน้อยกว่าอีกคน
ปกติจะพูดจากวนตีนแซวแรงๆ กันบ่อย

ได้กลับบ้านนอกไปหามัน
ความรู้สึกที่ได้จากแววตาของมัน
มันเกินกว่าท่าทางดีใจที่เจอผมซะอีก

ก็นั่นแหละ หลังจากนั้นทุกครั้งที่กลับบ้านนอก
ก็มักจะไปหามันอยู่บ่อยๆ
สนิทมากกว่าเดิมตอนยังเรียนด้วยกันซะอีก

บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
มีครับ

ตีกัน 3 ครั้งตอนม.4  1 ครั้งตอนม.5

ตอนนี้ดีกันแล้ว  กร๊าก ตอนไหนก็ไม่รู้
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
เพื่อนบางคนเรียนจบมานานมาก
แต่พอมาเจอกันอีกทีก็ไม่ต้องพูดอะไรมากมายครับ
ภาพตัวเองกับเพื่อนตอนหัวเกรียนๆ
หนีโรงเรียน ปีนเขาด้วยกันตอนอยู่โรงเรียน
มันฉาบทับภาพปัจจุบันอย่างแนบเนียน

จะสรุปได้ไหมว่าเพราะเราไม่มีกำแพงในวัยเด็ก
พอเพื่อนมันเข้ามาอยู่ในนี้แล้ว เจอกันอีกทีเลยต่อติดทันที
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
กรณีของแอนอาจจะเป็นไปได้นะครับ  อ๊าง~
บันทึกการเข้า

My handsomeness is toxic to all chics.. :P
"เสียดาย" เป็นชื่อหนังไทย ของท่านมุ้ย
บริษัทละโว้ภาพยนตร์ เป็นของพ่อท่านนานมาแล้ว  *
นี่ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง เพื่อน เพื่อนสนิท ช้างเพื่อนแก้ว หนังบอมเบย์ โอย ไกลเกิน ๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13 ก.ค. 2008, 16:06 น. โดย กำนม. };oO= » บันทึกการเข้า

อยู่บ้านไร่ ไร้เน็ต พี่จะกางมอสกิโต้เน็ต เลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง เดินตามสายรุ้ง ทิ้งเมืองกรุงไว้กับเธอ ..
มีเสียดาย2ด้วยนะครับ
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
เพื่อนสมัยเรียนผมน้อยแฮะ  กร๊าก

แต่มีเพื่อนที่พอจะเหลือรอดอยู่มาแค่ไม่กี่คนที่ทนคบกัน ได้อยู่

มีเพื่อนคนนึง ตอนนั้นเกลียดขี้หน้ากันมาก แ้ล้วเพราะสาเหตุส่วนมากจะเป็นเรื่อง นินทาธิปไตย กันซะมากกว่า
จนมีเรื่องให้ได้ฟาดปากกัน
ก็เลยตกลงไป ชกกันหลังเลิกเรียนในโรงอาหาร คนมาเชียร์เต็มเลยครับ แล้วก็ฟาดปากกันเรียบร้อย
ปากแตกกันคนละแผล

หลังจากนั้น ก็เป็นเพื่อนที่คุยกันกินเหล้ากันสนุกสนาน  กร๊าก

ตอนนี้ไม่ค่อยได้ติดต่อกันเลยครับ เพราะอยู๋ไหนแล้วก็ไม่รู้

แต่รู้สึกดีที่ได้ฟาดปากกันวันนั้น ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีกัมในวันนี้  อ๊าง~
บันทึกการเข้า
ผมน้อยแฮะ  กร๊าก

อืม..
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
 อู้ย..


ตอนนั้นผมเยอะเว้ย

มันหายๆไปตามอายุ  ใช่ซี้~
บันทึกการเข้า
เหมือนเป็นกระทู้โรงเรียนลูกผู้ชายรึเปล่าคะ ไม่มีสาวๆ เข้ามาเลย..  อ๊าง~

ไม่ค่อยมีเรื่องเสียดายๆ ในชีวิตของแอ้ มากเท่าไหร่..
ก็คงมีเรื่องเดียวที่ไม่เคยเป็นคนที่ดีพอในเวลาที่เหมาะสม

ส่วนเรื่องเพื่อน จะไม่เจอนานแค่ไหนก็ต่อกันติดเสมอค่ะ
ทุกวันนี้เพื่อนเป็นปัจจัยสำคัญอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้โลกของแอ้หมุนต่อไป
บันทึกการเข้า

แต่รู้สึกดีที่ได้ฟาดปากกันวันนั้น ไม่เช่นนั้นก็คงไม่มีกัมในวันนี้  อ๊าง~
เกย์ออก ปากฟาดปากกันจนมีวันนี้ หยี







































 ไหว้
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
"เสียดาย" เป็นชื่อหนังไทย ของท่านมุ้ย
บริษัทละโว้ภาพยนตร์ เป็นของพ่อท่านนานมาแล้ว  *
นี่ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่อง เพื่อน เพื่อนสนิท ช้างเพื่อนแก้ว หนังบอมเบย์ โอย ไกลเกิน ๆ

ทำเอากวางอยากดูหนังเรื่องนี้ขึ้นมาเลยอ่ะ

ไปหาในเน็ตเจอแต่เสียดาย 2

เอาวะดีกว่าไม่มีให้ดู -*-"
บันทึกการเข้า

มีเพื่อนคนนึง ตอนนั้นเกลียดขี้หน้ากันมาก แ้ล้วเพราะสาเหตุส่วนมากจะเป็นเรื่อง นินทาธิปไตย กันซะมากกว่า
จนมีเรื่องให้ได้ฟาดปากกัน
ก็เลยตกลงไป ชกกันหลังเลิกเรียนในโรงอาหาร คนมาเชียร์เต็มเลยครับ แล้วก็ฟาดปากกันเรียบร้อย
ปากแตกกันคนละแผล กระชากผมหลุดออกมาคนละกระจุก สองกระจุก

ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
หน้า: [1] 2
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!