หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8
 
ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนรัก...หักเหลี่ยมโหด  (อ่าน 26583 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
เคยมีประสบการณ์ ที่ถูกเพื่อนทำร้ายจิตใจ
หักหลัง ทรยศ ประทุษร้าย แทงข้างหลังกันบ้างไหมอ่ะ
มาเล่าให้ฟังก่อนหน่อยสิ รู้สึกช่วงนี้ ตั้งแต่จู๋
ทำนองดุดันอยู่เรื่อยเลยแฮะตู  กร๊าก

แปะไว้ก่อนนะ เดี๋ยวมาเล่าบ้าง
มีประสบการณ์ทำนองนี้เยอะเลย เยอะจนชา
บันทึกการเข้า
หักเหลี่ยมเรื่องอะไรก็ได้ใช่ไหมคะ  กรี๊ดดดดด




//พี่ปุกอินมาจากกระจู๋โลกชมพูเหรอคะ  กร๊าก
บันทึกการเข้า

Las Noches Rubicundior
แปะเลย มาตามอ่าน
บันทึกการเข้า

ไม่ใช่อินจากโลกสีชมพูสิ
แต่จะหนีออกมาจากโลกสีชมพูมากกว่า  กร๊าก
แบบว่าหวานมาก ยิ่งอ่านของป๋าณตนะ  ชิ

ปล เรื่องอะไรก็ได้ ที่ถูกเพื่อนทำให้เสียใจ
เช่น เพื่อนรักเอารูปไปตัดต่อลงหนังสือผี เป็นต้น
บันทึกการเข้า
มีค่ะ

มันแค้นๆๆๆๆๆ

เพราะอรเป็นคนที่รักเพื่อนมาก เจอแบบนี้ ยากจะอภัยค่ะ
บันทึกการเข้า

oRn
ไม่ใช่อินจากโลกสีชมพูสิ
แต่จะหนีออกมาจากโลกสีชมพูมากกว่า  กร๊าก
แบบว่าหวานมาก ยิ่งอ่านของป๋าณตนะ  ชิ

ปล เรื่องอะไรก็ได้ ที่ถูกเพื่อนทำให้เสียใจ
เช่น เพื่อนรักเอารูปไปตัดต่อลงหนังสือผี เป็นต้น

เอ๊ะ  กร๊าก
บันทึกการเข้า
ถ้าจะว่าไปก็ไม่อยากขุดเอาเรื่องเก่าๆ มาคิดมาเล่าสักเท่าไหร่
แต่เรื่องประเภทนี้ก็เกิดขึ้นเป็นประจำอยู่แล้ว  ผมเล่าแต่เรื่องใหม่ๆ แล้วกัน

______________________________________________

มีเพื่อนอยู่ 2 คน ที่ค่อนข้างสนิทกัน  มักจะไปนั่งดื่มด้วยกันเป็นประจำแทบทุกวัน
เรียกได้ว่าสัปดาห์หนึ่งต้องเจอกัน 5-6 วัน เลยทีเดียว
เวลาไปเที่ยวไหนก็จะไปด้วยกัน โทร.ตามชวนกันตลอดทุกครั้ง

แต่เมื่อไม่นานมานี้ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไป  เปลี่ยนไปโดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอะไร
เวลาออกไปเที่ยว เราเริ่มไม่ได้รับเชิญ  ไม่มีการโทรชวนเหมือนก่อนที่เคยทำ
มันอาจเป็นเรื่องธรรมดาของใครหลายๆ คน
แต่เคยโดนแบบนี้มาก่อนเมื่อตอน ม.ปลาย มันสะกิดใจมาก
เหมือนเราโดน anti อะไรสักอย่าง

สักวันคงได้เปิดใจคุยกัน  ไหว้
บันทึกการเข้า


อยู่มหาลัย มีเมทคนเดียวในชีวิต พูดได้ว่า เลือกเมทผิด คิดจนตัวตาย

ไม่มีอะไรมากเรื่องของผู้หญิง ขี้เม้าท์ทั่วไป แต่ดันเลยเถิด เม้าท์ แต่งเรื่องจนตูโดนเกลียดไม่รู้ตัว

มารู้เรื่อง ก็ตอนมีกลุ่มคนมาสารภาพว่าขอโทษ ที่เข้าใจตูผิด...เพราะรูปลักษณ์ภายนอกของตู มันให้ กับเรื่องที่แต่งขึ้นมา

จากนั้นมา ตูก็ไม่เคยไว้ใจชาวบ้านอีกเลย นอนข้างกัน ยังแทงกันได้ นับประสาอะไรกับคนอื่น  อืมมมมห์

...................................

อีกเรื่อง

ตูมีเพื่อนสนิทผูชายคนนึง สนิทกันมาก ไปไหนไปด้วยกัน อ่านหนังสือ กินข้าว นอนด้วยกันบ้างบางครั้ง แต่ไม่มีเรื่องชู้สาวมาเกี่ยวข้อง

วันนึงมันมีแฟน ตูก็เฉยๆ และเข้าใจ  .. แต่ที่ไม่เข้าใจคือ ตูโดนกลุ่มแฟนมันมาไซโค ว่าให้เลิกยุ่ง

อย่ามาแทรกกลางระหว่างแฟนคนอื่นได้มั้ย และอื่นๆ ที่สารพัดจะโดนแขวะ  ง่ะ

คือว่า ตูไม่ได้เป็นมือที่สามนะ และตูก็เป็นเพื่อนกันอยู่ก่อน ตูผิดอะไรเนี่ย (ตั้งแต่มันมีแฟน ก็ไม่ค่อยได้เจออยู่แล้ว แต่ตูก็ไม่อะไร ไม่งอน)

สุดท้าย ตูก็เลยต้องเลิกคบเพื่อนคนนั้นไป อย่าง งงๆ  แต่ตอนนี้รู้สึกเสียใจมาก ว่าตูจำเป็นต้องทำขนาดนั้นเหรอวะ

ที่สำคัญ ตอนนี้ มันก็เลิกกัน งงง...  แล้วไง ตูก็ไม่ได้ติดต่อเพื่อนคนนั้นอีกเลย  ฮือๆ~


\\ ผู้หญิงกับผู้ชาย เป็นเพื่อนสนิทกันไม่ได้เหรอวะ ก็แค่ไปยืนฉี่ข้างๆกันไม่ได้เท่านั้นเอง
บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
ก็น้องส้มน่ารักน่ะสิคะ .. เลยมีคนระแวงกันไปเรื่อย..
แอ้มีแต่เพื่อนผู้ชาย ถ้าแฟนเขายังไม่เห็นหน้าแอ้ก็จะระแวงอย่างหนัก ทันทีที่เจอตัวเป็นๆ จะเกิดอาการวางใจทันที..  กร๊าก


เรื่องเพื่อนทำให้เสียใจนี่.. เยอะค่ะ..
เอาไว้จะมาเล่า ขอกลับไปคิดก่อนว่าจะเล่าเรื่องไหนดี.. ช่วงนี้กำลังมีประเด็นเลยด้วย..  อืมมมมห์
บันทึกการเข้า


พี่แอ้ อย่าพูดเป็นลางสิคะ  ฮือๆ~

ตอนนี้ส้มมีเพื่อนสนิทผู้ชายเหลืออีกแค่ 2 ตัว

ที่ยังพอจิกหัวกันกินข้าว ซื้อของ ดูหนัง สนิทใจถึงขั้นไปนอนต่างจังหวัดกันสองคน โดยไม่มีเรื่องชู้สาวกันได้

ซึ่งตอนนี้ มันยังไม่มีแฟน ถ้ามันมีแฟนส้มต้องเสียเพื่อนไปอีกเหรอวะเนี่ย (แฟนส้ม มันไม่เห็นจะบ่นอะไรเลย)


โธ่ ... ไอ้โจ้ ไอ้โพล่าร์  มีแฟนทั้งที ขออย่าให้เค้ามาหึงกูเล๊ยย สาธุ.. ไม่งั้นกูจะไปจิกใคร๊ เที่ยวนอนค้างต่างจังหวัด  ฮือๆ~

บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
ใช่ๆ เห็นด้วยกับพี่แอ้ค่ะ  ว่าพี่ส้มน่ารัก เกินห้ามหึงไปไม่ได้      กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า
แอร๊ย กระทู้โดนใจ

คือว่าดามีความหลังฝังใจสมัยม.ต้น






โรงเรียนมัธยมของดาเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับมัธยมที่เด่นอยู่เจ้าเดียว
แต่ว่าโรงเรียนประถมจะมีอยู่สองโรงเรียนที่เป็นคู่แข่งกัน คือโรงเรียนอนุบาลกำแพงเพชร กะวัดคูยาง
ไม่รู้ทำไม เด็กวัดคูยางจะต้องมาหาว่าเด็กอนุบาลเนี่ยคุณหนูอย่างงั้นอย่างงี้
ซึ่งเด็กอนุบาลก็ไม่รู้ว่าวัดคูยางมีข้อเสียอะไร แต่ไม่ถูกกันไว้ก่อน

พอเข้ามาอยู่โรงเรียนมัธยมร่วมกัน แต่ละห้องก็มักจะแบ่งออกเป็น
กลุ่มเด็กอนุบาล กลุ่มเด็กวัดคูยาง และอีกกลุ่มเป็นหลายๆโรงเรียนรวมกัน
ดาอยู่กลุ่มเด็กอนุบาล ตั้งใจเรียนมาก เห็นคะแนนเป็นที่หนึ่ง จารย์ใช้อะไรทำหมด
แล้วก็ซี้กันมาก เพราะว่าอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่ประถม เบอร์โทรคือไม่ต้องถามอะ จำได้ขึ้นใจ

พอขึ้นม.2 เพื่อนชวนเล่นกีฬาสี ดาก็เลือกลงบาส ซึ่งมันต้องซ้อมเย็น ก็เลยกลับกับเพื่อนวัดคูยางบ้าง
แล้วก็สนิทกับเพื่อนวัดคูยางมากขึ้น เลิกเรียนก็กลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
ซ้อนมอไซค์เพื่อนวัดคูยางมาซ้อมบาสที่โรงเรียน แต่ก็ยังคบอยู่ทั้งสองกลุ่มนะ ไม่ได้รู้สึกอะไร
จนมาวันนึง รู้สึกแปลกๆ มีเพื่อนวัดคูยางอีกคนถูกอัปเปหิออกมาจากกลุ่ม ย้ายไปกลุ่มโน้นกลุ่มนี้
แล้วสุดท้ายมาเข้ากลุ่มอนุบาลของดา ซึ่งช่วงนั้นดารู้สึกถึงความหน่อมแน้มของเพื่อนอนุบาล
ก็เลยไปฮาร์ดคอร์กับเพื่อนที่เล่นบาสด้วยกัน ก็ห่างกันไปนิดหน่อย แต่ไม่ได้คิดว่าเลิกสนิทอะไรกัน

**
จ๊นนนน มาวันนึง จำได้ว่าเลิกเรียนเนตรนารีเร็วกว่าปกติ ดาก็เดินหาเพื่อนกลุ่มอนุบาล
แต่รู้สึกตะหงิดๆอะไรก็ไม่รู้ เพื่อนมันชวนดาไปนั่งเล่นหมากฮอสกับพวกเล่นบาส แล้วก็ขอตัวไปซื้อขนม

แล้วมันก็หายไปเลย

ดาก็เดินตามหาทั่วโรงเรียนขนาดห้าสิบกว่าไร่ เดินไปคนเดียวด้วย

จนไปเจอเพื่อนกลุ่มนั้นนั่งกินเค้กวันเกิดเพื่อนวัดคูยางที่เข้ามาในกลุ่มอยู่หลังตึก

อารมณ์เหมือนอกหักเลย อะไรเนี่ย ทำไมต้องหลอกเราให้ออกไปข้างนอกด้วย ผิดหวังสุดๆ

ดาก็เลยเดินกลับมาที่โต๊ะหมากฮอส จะร้องไห้อะ แต่ก็ไม่ได้บอกอะไรเพื่อน นั่งนิ่งๆ
เพื่อนมันคงเห็นผิดสังเกตเลยถาม คุยไปคุยมา ได้ความว่า เพื่อนที่สนิทกันมาตั้งแต่ประถมอะ
โทรไปคุยกับเพื่อนบาส บอกว่า"ฝากดาด้วยนะ" ซึ่งเพื่อนบาสก็เพิ่งเข้าใจว่าฝากดาด้วยนะเนี่ย
มันหมายความว่าจะไปกินเลี้ยงวันเกิดกัน โดยไม่ได้ให้ดาไป ฝากเพื่อนบาสให้ดูดาด้วย

แบบว่าวันนั้นอะโคตรนอยเลย แล้วก็เลิกอยู่กลุ่มเด็กอนุบาล เลิกนั่งเป็นกลุ่มหน้าห้อง
แล้วก็เลิกไปโรงเรียนแต่เช้าเพื่อไปเมาท์กับเพื่อน
แล้วก็ได้ความหลังฝังใจเกี่ยวกับคำว่า "ฝาก...ด้วยนะ" ได้ยินแล้วจะรู้สึกนอยด์ๆยังไงก็ไม่รู้

ประมาณม.3 สมุดจดเบอร์โทรศัพท์แบบเป็นแม่เหล็กกำลังฮิต ก็ซื้อมาจดเบอร์เพื่อนกัน
แล้วก็โดนตอกย้ำด้วยคำว่า เบอร์บ้านดาเบอร์ไรเหรอ ถ้าเป็นคนอื่นถามจะไม่ว่าอะไรเลย
แต่นี่เป็นเพื่อนที่เคยสนิทกันมากๆๆๆๆมาถาม โฮกกกกก เศร้า นอยด์

ปล. มาเฉลยทีหลังว่าทำไมถึงโดนแบน
เพื่อนในกลุ่มอนุบาล(ฺB)บอกว่า ตอนที่ A เดินไปเข้าห้องน้ำกับ B
ดาเดินมาจากไหนก็ไม่รู้ แล้วก็ชวน B บอกว่า ปวดฉี่อะ ไปเป็นเพื่อนหน่อย
แล้ว B ก็ไปเข้าห้องน้ำกับดา ทิ้ง A ไว้ A เลยเคือง (ย้อนกลับไปอ่านเหตุการณ์**)
B บอกว่ามันไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียว ที่ดาโผล่มาแล้วมาชวนเพื่อนไปจาก A
ซึ่ง เอ่อ ถ้าดาเป็น A ดาก็คงเคืองเหมือนกันแหละมั้ง แต่โฮกกกกกก ตูไม่ได้ทำอะไรซะหน่อย แค่หาเพื่อนไปฉี่ ง่ะ
บันทึกการเข้า
เคยมีเพื่อนสนิทที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่อยู่คนละโรงเรียนกัน  ไปเที่ยวต่างประเทศด้วยกัน ก็ไปมาแล้ว คือสนิทกันมาก ๆ ตัวติดกันอย่างกะปาท่องโก๋ สมมติว่าชื่อ น. ละกัน

เหตุเกิด เมื่อสองปีที่แล้ว...
ถึงแม้น. จะไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่มันก็มาหาบ่อย ๆ นะ ช่วงตอนหลังเลิกเรียนน่ะ
มาคุย เล่นกัน เพื่อนแกะคนไหน ๆ มันก็รู้จักเกือบหมด เพราะมาบ่อย

จนวันหนึ่ง
มันมีทอม ชอบมายุ่ง ๆ ด้วย แกะก็เลยไปเล่าให้น. มันฟังเองแหละ ว่าไอ้นี่ ๆๆ ชอบมายุ่งกะเรา (และมีเรื่องกันเล็กน้อย)
แต่พ่อแม่ก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไร ไม่มีใครรู้เรื่องเลย ยกเว้นเพื่อนในกลุ่ม
และน. เนี้ยแหละ รู้กันอยู่นิดแค่นี้  ย้ำกันไปนับครั้งได้รอบที่ร้อยล้าน ว่าอย่าพูดเรื่องนี้ให้ใครเด็ดขาด

ประมาณอีกไม่กี่วันต่อมา มีเมล์จาก พี่ที่เคยไปทริปท่องเที่ยวด้วยกันเมื่อประมาณปีก่อนหน้านั้นบอกว่า
น้องน. บอกว่า เราไปคบกะทอมอะ จริงหรอ 55

ตอนนั้นแกะโคตร งงเลย มันไปเอามาจากไหนวะคะ
แต่ไม่ได้ตอบเมล์พี่เขา เพราะไม่รู้จะบอกยังไง เขาคงไม่เชื่อแล้ว
และแกะคิดว่าแม่แกะก็คงรู้เหมือนกันแหละ  แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
แค่นั้นแหละ รู้สึกเกลียด คุณน. นี่มาทันทีทันใดเลย

ไปโรงเรียนก็บอกเพื่อนให้แบน น. มันซะ
แล้วก็ไม่คุยกันอีกเลย จะทำความเข้าใจอะไร ๆ ก็ไม่เอาแล้ว
โกรธมาก ๆ แต่ก็ยังมีเหตุให้เจอหน้ากันบ่อย ๆ เพราะครอบครัวรู้จักกัน
น. มันมาคุยดี ๆ ด้วย แกะก็ไม่สนละ มันทำเหมือนกับว่า ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
คำขอโทษไม่เคยมีเลย แถมซ้ำยังตีหน้าซื่อ คอยแต่ถามว่าทอมนั่นมันเป็นไงแล้วบ้าง
ทั้ง ๆ ที่เรื่องมันก็จบแล้วในส่วนของไอ่ทอม เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็ไม่คุยกันเรื่องนี้แล้ว มันจบแล้ว

ภายหลังมันก็ไม่มาหาที่รร. อีกเลย

แกะรู้สึกรักเพื่อนในกลุ่มนั้นขึ้นอีกเป็นกองเลย เพราะมันรักษาคำพูด
ถึงแม้ว่าบางครั้งจะทะเลาะกัน แต่ก็ไม่ได้จะเอาความลับใครไปประกาศที่ไหน

จริง ๆ เรื่องมันโตกว่านี้มาก แต่เล่าไม่ได้ เพราะมีผลกระทบมาถึงปัจจุบัน  ไหว้




บันทึกการเข้า

And true love is the rule, and you're nobody's fool.
The ship's coming to the light and it was love at first sight...:D
อ่านแล้วรู้สึกว่า บางครั้ง การที่สนิทกับใครมากๆ
แล้วเรื่องเล็กชิบหาย เช่น ไปกินข้าวไม่ชวน
ไปฉี่แล้วลืมทิ้งไว้ กลายเป็นเรื่อง Go so Big
ได้สบายๆเลยเนาะ  กร๊าก ทั้งที่วิธีแก้ ก็แค่เปิดอกคุยกัน ง่ายจะตาย
แต่ทำยากชิหาย

ของปุกมีเรื่องที่เกิดจากเพื่อนทำร้ายจิตใจแบบเกินให้อภัยเยอะเลยล่ะ
เนื่องจากเป็นคนรักคนยาก แต่รักแล้วรักเลย มันก็เลย เลยเถิด

เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยเข้าเอแบคใหม่ๆ

รุ่นปุก เป็นเอแบคเท่โคตร คือ เป็นปีเดียว ที่เรียนที่ทองหล่อ  อืมมมมห์
ถ้าไม่ได้เรียนรุ่นนั้น หรือ ใกล้ๆปีนั้น บอกเรียนเอแบคทองหล่อ
จะงงกันไปเป็นแถบ ด้วยความที่อาคารเซ็นต์คราเบียล ตรงทองหล่อ25
มันเล็กติ๊ดเดียว การลงวิชาที่สาขานั้น จึงเป็นกลุ่มก้อน ผิดแปลก
จากเด็กเอแบครุ่นหลังๆ ที่ยิ่งปีสูงขึ้น ความสัมพันธ์ยิ่งห่างกัน
เพราะแต่ละคน มักสนใจ แต่ความสะดวกของตัวเองเป็นหลัก

รุ่นนั้น ก็มีเพื่อนกันอยูสิบกว่าคน นิสัยโอเคทังนั้นเลย
มาจากอินเตอร์มั่ง มาจากเซ็นต์โยบ้าง มาจากอังกฤษบ้าง
ตูเป็นเด็กจากโรงเรียนรัฐคนเดียวในกลุ่มเลย
ทีนี้ ไปไหนมาไหนก็เป็นกลุ่มเป็นก้อน เทอมแรกที่เรียน
สนุกมาก จะมาเริ่มลำบาก ก็ตอนคิดเลือกเพื่อนสนิทผิดนี่ล่ะ
เราเลือกคบเกด เพราะคิดว่า เรานั่งด้วยกันตลอด คุยกันสนุกดี
ปากจัด กัดแรง ดูเหมือนเป็นคนตรงไปตรงมาคล้ายกัน

แรกๆก็ดีนะ เกดแอบรัก เพื่อนมันคนนึง ที่เรียนอังกฤษมาด้วยกัน
แต่เค้าไม่สนมันหรอก เค้ากิ๊กๆมันแป๊บเดียว แล้วก็ทิ้งมันไป
เราก็ไม่เข้าใจนะ ว่าเกดไปชอบไอ้หมอนั่นได้ไง
งานอดิเรก ก็ไอ้เด็กเวรพวกนี้คือ ไปนั่งอยู่ฮาร์ดร็อคสยาม
วิจารณ์การแต่งตัว ของคนที่เดินผ่านไปผ่านมาอย่างเสียหาย
ลาวมั่งล่ะ เสี่ยวมั่งล่ะ บ้านนอกมั่งล่ะ ทั้งๆที่ตัวเอง ใส่ของแพงสุดๆ
แต่ดูเหมือนมาจากโบ๊เบ๊ หลงตัวเองว่าเท่เสียเต็มประดา  ไม่ล่ะ

แต่ด้วยความรักเกดแบบโง่งม ก็ต้องบ้าซื้อรองเท้าตามมันไปด้วย
ทั้งๆที่ตัวเองก็ชอบอยู่ไม่มากหรอกนะ แต่กลัวมันไม่คบ ถ้าแต่งตัวไม่ดี
ซื้อรองเท้าที คู่ละ 5000 บาทอัพ (7ปีที่แล้ว) เสื้อผ้า หน้าผม ต้องครบ
ชุดต้องล้ำ นำสมัย ถึงจะเจ็บตีน แต่เพื่อความเท่ในสายตาเกด ต้องทน
เพื่อเกด เราทำได้

หลุยส์ก็ไม่ชอบเลย ก็ต้องซื้อ เป็นเด็กเอแบคยุคนั้นไม่หิ้วแบรนด์
ถือว่าเสี่ยว  ฮือๆ~ ไม่รู้ทนใช้ชีวิตแบบนั้นได้ไงตั้งหลายเดือน
ไม่อยากให้เกดรู้สึกไม่ดี ที่เดินกับเรา แล้วอายคนอื่น
ตอนนั้นก็ไม่ได้ขาวแบบนี้ ผิวคล้ำแดด จากการเรียนโรงเรียนสว.2 มา
เดินกลางแจ้งทุกวัน เหนื่อยใจมาก ร้องไห้ทุกวัน อยากเรียนเกษตร
คงเข้ากับชีวิตเราได้มากกว่า

บ้านเกดรวยมาก ทำโรงไม้ อยู่แถวๆ บางม้า เรียกอะไรนะ เกือบๆ มีนบุรี
จำไม่ได้ รู้แต่ไกลจากลาดพร้าวมากเลย สมัยทางด่วน ถนนตัดใหม่ยังไม่เสร็จดี
เกดขับเบนซ์คันสวยเลยล่ะ แต่มันก็ขี้เกียจ ต้องให้เราขับรถจากมหาลัย ไปส่งบ้านตลอด
ทำตัวเป็นเบ๊เดินได้ เหนื่อยสุดยอด แต่ก็มีความสุข ความรักที่เกิดจากการให้
เรามีมานานแล้ว เหมือนโรคจิต ให้คนหลอกใช้ ไอ้ฟาย

ไปส่งบ้านมันอาทิตย์ละสองสามวัน แต่ถ้ารถเราจอดไกลๆ
ให้มันขับจากที่จอดรถมัน ไปที่จอดรถเรา มันไม่ไป
มันบอกขี้เกียจอ้อม ทั้งๆที่ใช้เวลาแค่ไม่เกินสามนาที  เศร้า
แต่เราก็ทนได้ ไม่เป็นไรเกด กูเดินเองก็ได้

พอเราไปบ้านมันบ่อยเข้า เราก็ไปสนิทกับน้องชายเกด
น้องมันอายุเก้าขวบ หน้าตาบ๊องแบ๊วน่ารักมาก
เด็กอินเตอร์หัวใหม่ ชอบคนฉลาดและเก่งๆ
พอน้องมันมาเล่นเกมกับเรา เกมนั่นเราไม่เคยเล่นหรอกนะ
เกดมันก็ชนะมาตลอดชีวิตแหละ แต่พอเราเล่นคุ้นมือสักสองสามเกม
เราก็ชนะรวด เด็กผู้ชาย มันก็บ้าคนเล่นเกมเก่งมาแต่ไหนแต่ไร
ไม่นาน ฮวงน้องของเกด ก็หลงรักเราแบบซูเปอร์ฮีโร่ นักเล่นเกมไปเสียงั้น

ฮวงให้เกดโทรตามเราแทบทุกวัน ถ้าเรามีเวลาเราก็ไปอยู่แล้ว
พ่อแม่เกดเราก็สนิท น้องชายมันแฺฮปปี้ ถ้าเกดรู้สึกดี ทำไมเราจะไม่ทำ
แต่ผลปรากฏว่า เกดอิจฉาเรา อิจฉามาก ที่น้องชายสุดรัก
ผู้เคยนิยมพี่สาวตัวเองเป็นฮีโร่มาตลอด เปลี่ยนใจมาชอบเรามากกว่า
ทั้งๆที่มันเป็นแค่เรื่องเกม เรื่องสนทนาทั่วไป ที่เราชอบอะไรที่ออก
ผู้ชายๆอยู่แล้ว เลยคุยกันรู้เรื่องมากกว่า พอเราไม่ไปหา
ฮวงก็ร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ เกดก็ยิ่งเกลียดเรามากขึ้นทุกวัน
โดยที่เราไม่รู้ตัวเลย

พอขึ้นเทอมสอง จากสนิทกันนะ วันแรกที่ลงวิชา English3 ด้วยกัน
เรานั่งอยู่แถวสอง พอเกดเดินมาเจอเรา ซึ่งเรากันที่ไว้ให้
มันก็เดินเลยไปเลย  ง่ะ ไม่นั่ง ไม่มอง ไม่คุย
คนสนิทๆกัน อยู่ๆทำเป็นเมินเฉย เราตกใจมาก
พอหมดวิชา เกดก็เดินหนีเราไปเลย ทิ้งให้เรางง อยู่คนเดียว
โทรไปก็กดสายทิ้งบ้าง เฮ้ยเดี๋ยวกูโทรกลับบ้าง
แต่ก็ไม่เคยติดต่อมา

ทำเฉยชาอยู่ เป็นเดือนๆ

เราร้องไห้เป็นบ้าเป็นบอ เพื่อนเรามีเยอะ
แต่เพื่อนสนิทเรามีแค่เกด เราไม่ชอบเผื่อใจให้หลายคน
ความคิดแบบนี้ทำให้เราเจ็บปางตาย เกดเลิกคบเรา
โดยที่เรายังไม่รู้เลย ว่ามึงทำแบบนี้ทำไมเกด

จนเราไปสนิทกับตาลแทน
ตาลเป็นคนสวยมาก เด่นโคตรๆ สูง 175 หุ่นนางแบบ
อัธยาศัยดี เด่นชนิดไปไหนคนต้องมอง
ตาลบอกเราว่า เกดมันอิจฉาที่เราไปสนิทกับฮวง
บอกหลังจากเราดรอปเรียนไปเทอมนึง เพราะเรียนไม่ได้
เราสับสนในชีวิตที่เปลี่ยนแปลงมากเกินไป
การถูกทอดทิ้งหนแรกในชีวิต และการเหมือนอยู่คนเดียวในโลก
แม่ไม่เข้าใจ เพื่อนไม่เข้าใจ ยังคิดอยู่ ถ้าตาลไม่ยื่นมือมาช่วยเหลือ
เราคงแย่กว่านี้

และช่วงคบกัน เกดก็พูดจาดูถูกเราต่างๆนาๆ
ดำมั่งล่ะ ลาวมั่งล่ะ เสี่ยวมั่งล่ะ สารพัดคำพูด
ทั้งๆที่เราขาวกว่ามันอีกนะ ไม่รู้ความคิดต่ำๆ ทำไมชอบออกมาจากปาก
พวกนักเรียนหัวนอกคอกพวกนี้ และไม่รู้อะไร ทำให้เราทนได้ขนาดนั้น

พอสุดท้ายผ่านไปสองปีกว่า มาเจอกันอีกที
ด้วยการบังคับของตาล เราก็กินข้าวกับเกด
แต่ขอโทษเราเปลี่ยนตัวเองแล้ว ความคิดเป็นของกู
การเลือกใช้สิ่งของเสื้อผ้าเป็นของกู ความมั่นใจในตัวเอง
กลับมาเต็มร้อย เรามั่นใจในเทสต์ของตัวเอง ถึงใครจะชอบไม่ชอบ
เราแต่งให้ตัวเองดู ไม่ได้สนใครเหมือนก่อน

เกดก็เริ่มแดกดันตามสันดานเดิม
"อ้าวอีปุก ไม่เจอกันนาน อ้วนเตี้ยเหมือนเดิมนะมึง  คริคริ"
พูดขำๆ หันยิ้มหาพวก ลืมไปว่ามีแค่ตาลกับเรา
ก็เลยรีบหันกลับมามองเรา

เราตอกกลับไปว่า
" กูว่ากูสูงกว่ามึงนะเกด โดยเฉพาะจิตใจ
อย่างมึงเนี่ย เอาเครนมายก ก็คงช่วยอะไรไม่ได้  (อิอิ)"

เกดตกใจมาก เราไม่เคยเถียงเกดเลย เป็นลูกไก่ในกำมือมาตลอด
มันเลยบอก " อะไรแค่พูดเล่นแค่นี้ ไม่เห็นต้องพูดแรงๆ "
เกดสวนมาด้วยความโมโห
เราก็ยิ้มหวานให้ แล้วพูดความในใจออกมากว่า
" อ๋อ มึงพูดเล่นเหรอเกด
แต่กูพูดจริง  ยิ้มน่ารัก "
แล้วพูดต่อไปว่า

" ถ้ามึงลงมาจากรองเท้าแสวร์โคตรพ่อโคตรแม่เท่ของมึงแล้วอ่ะนะ
กูกับมึงน่ะสูงเท่ากันแน่ น้ำหนักก็ไม่ห่างหรอก อย่าคิดไปเองให้มากนะ
แต่สิ่งที่ต่างกันคือ ระดับความเป็นคนน่ะ
มึงอยู่โลกของมึงเถอะ กูมีเพื่อนที่ดีเยอะแยะมากพอแล้ว
แถมได้ข่าวตอนนี้ ก็ไม่มีใครคบมึงนิเพราะสันดานเหี้ยๆของมึง
ปรับสะเถอะนะ ก่อนทั้งโลก จะเหลือมึงแค่ตัวคนเดียว กูสมเพชว่ะ"


พูดจบเกดกระแทกโต๊ะ ทำหน้าปั้นปึ่งเหมือนอึ่งอ่าง แล้วเดินหนีไป
ตาลทำหน้าเสียๆ แต่ก็เข้าใจว่าเราอึดอัดมานาน
และตาลก็รู้ว่าอยู่กับเราสบายใจกว่า เลยไม่ได้ตามเกดไป
แต่ชีวิตความเป็นเพื่อนระหว่างเรากับเกด มันเป็นเส้นขนานไปเสียแล้ว
ชาตินี้ถึงมีทางบรรจบกัน เราก็ไม่ขอเลือกมัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 01 ก.ค. 2008, 04:49 น. โดย กาปุกเอง » บันทึกการเข้า
 (แจ๋ว แจ๋ว) โอ้โฮน้องกาปุก
หักเหลี่ยมจริงๆ เอ..จะผิดไหมเนี่ย ถ้าอ่านแล้วรู้สึกประทับใจ
บันทึกการเข้า

Vanat
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!