พี่อยู่กรีซมาจะครบ 5 ปีแล้วจ้า
จากที่ได้เคยคุยกับเพื่อนๆ เขาบอกว่ายังไม่มีกฎหมายรับรองงานบริการด้านนี้
ไม่ต้องไปจดทะเบียนและทำใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะเหมือนอย่างประเทศไทย
นอกจากว่า ถ้าเราจะเปิดเป็นกิจการในรูปบริษัทหรือธุรกิจส่วนตัวอะไรก็ตาม
เราก็ต้องไปจดขึ้นทะเบียน แล้วเขาก็ให้หมายเลขมา แล้วระบุว่าธุรกิจที่เราทำเกี่ยวกับอะไร
แล้วก็ยังต้องทำเรื่องเสียภาษี ทำประกันสุขภาพ ในแต่ละปีเขาจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจดู มาประเมินผล
แล้วก็มีเงินสนับสนุนนิดหน่อยจากรัฐบาล ถึงกระนั้นเราก็ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปีให้เขาด้วย
อย่างที่บอกว่าพี่และเพื่อนยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น คือลองตลาดด้วยเหมือนกัน
ถ้ามันเวิร์คในระดับที่น่าพอใจ ก็คงต้องก้าวอีกขั้น คือทำให้ทุกอย่างถูกต้อง ถูกระเบียบ
(เท่ากับว่าตอนนี้พี่จัดตั้งแบบไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ภาษีก็ไม่จ่ายด้วยแหละ อิอิ)
และพวกพี่กะลังมองว่าเราควรทำประกันให้ลูกค้า เผื่อเกิดอุบัติเหตุ แต่อันนี้เรื่องใหญ่
เพราะต้องใช้เงินจำนวนมาก ตอนนี้อาศัยว่าจะนวดใครก็ต้องสัมภาษณ์ ทำประวัติ ตรวจสุขภาพนิดหน่อย
กรณีไหนมันเสี่ยงก็ไม่ทำดีกว่า ต้องใช้ความระมัดระวังเหมือนกัน
ส่วนเรื่องที่ว่างานนวดนี้ออกจะถูกมองเป็นเรื่องการขายบริการทางเพศ แน่นอนอยู่แล้วค่ะ
ไม่ว่าทั้งไทยและเทศ มีความคิดด้านนี้หมด มันก็เลยต้องขึ้นอยู่กับการพรีเซ้นต์ของเรา
และการเลือกลูกค้า ส่วนใหญ่เพื่อนพี่จะดูแลตรงนี้เพราะเป็นคนกรีกง่ายกว่าอยู่แล้วเรื่องภาษา
ส่วนพี่นี่จะเป็นจุดขายให้เขา เพราะเป็นผู้หญิงไทย เราก็เน้นบริการไปมาลาไหว้ แต่งตัวไทยๆ
ใช้กิริยามารยาทแบบไทย ถ้ามาใช้บริการแล้วเราก็อยากให้เขาประทับใจ อยากจะเน้นอะไรที่มันไทยๆ
แต่คงไม่ได้ 100% และส่วนใหญ่ลูกค้าอยากจะให้ผู้หญิงเป็นคนนวดให้ ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นจุดขายได้เหมือนกัน
แต่เราก็ต้องระวังรักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี อืม....พี่ยังคงต้องเจอพวกเสือสิงห์กระทิงแรดในอนาคตแน่นอน
ตอนนี้เพื่อนพี่เขาโปรโมททางเว็บไซต์ อย่างเดียว อ้อ..แล้วมีส่วนนึงที่ใช้เพื่อนบอกต่อ
ก้อมีทั้งนวดไทย สวีดิช ฮอตสโตน ลองเข้าไปดูที่เว็บนะคะ
http://www.therapist-gr.com เว็บยังไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
ยังต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมเร็วๆนี้
เรื่องความขัดแย้งระหว่างเพื่อน เชื่อว่ามันคงต้องมีบ้าง เห็นด้วยที่น้องตูนแนะนำนะคะ ขอบคุณมากเลย
พี่ก็คิดไว้ก่อนแล้วเหมือนกัน แต่บุคลิกพี่นี่คือยอมเสี่ยงเรื่องเพื่อนซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยจะซีเรียสมากนัก
บางทีมันขึ้นอยู่กับสถานการณ์ บอกไม่ถูกเหมือนกัน คือพี่ไม่ค่อยกลัวซะแล้วสิ
พี่ไม่ได้จดข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร อาศัยสัญชาติญาณอย่างเดียว ใช้ดูหน้า คุยกันตรงๆ
ถ้าดูแล้วรู้สึกว่ามันคุยกันถูกคอ ก็พอใจ แล้วก็วัดใจกันไปเลย และมีอีกเรื่องนึงที่พี่อธิบายไม่ชัดเจน
คือ จริงๆพี่จะเริ่มทำจากที่บ้านตัวเองก่อน แต่ว่าตอนนี้ยังไม่เรียบร้อย
ส่วนบ้านเพื่อนเขาลงทุนจัดห้อง ตกแต่ง ซื้ออุปกรณ์ซะเรียบร้อย ก็เลยตกลงกันว่า งั้นพี่ไปทำที่บ้านเพื่อนละกัน
เท่ากับพี่ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย (เป็นฟรีแลนซ์ว่างั้นก็ได้) ถ้าพี่มีลูกค้า รายได้ของพี่ต้องแบ่งเขา 50/50 ยกเว้น ติ๊ป
แต่ถ้าเพื่อนพี่มีลูกค้า เขาก็ได้ไปเต็มๆ ไม่ต้องแบ่ง พี่รู้สึกโอเคตรงนี้นะ เพราะพี่ไปอาศัยสถานที่และอุปกรณ์ของเขา
ส่วนเรื่องการมีส่วนร่วม เขายินดีรับฟังไอเดียร์และความคิดเห็นของพี่เต็มที่
และอีกอย่างเพราะเขาอายุมากกว่า มีประสบการณ์มากกว่า พี่เลยไม่ต้องไปเสนออะไรมาก (ฮิฮิ ดีไหมเนี่ย)
ก็ยังหรอกค่ะ ยังต้องปรับเปลี่ยนอะไรอีกมาก รวมทั้งในอนาคต อาจจะมีการร่วมลงทุน ขยับขยาย เมื่อถึงเวลานั้นค่อยว่ากันอีกที
แหม่...ร่ายมาซะยาว คือประเด็นสำคัญพี่อยากได้พนักงานเพิ่มนะ เลยต้องเล่าให้หมด
ให้เห็นความเสี่ยงชัดๆ แล้วน้องตูนจะมาช่วยพี่ไหมล่ะ มาตามสายเคเบิ้ลก่อนละกัน
ค่าเครื่องบินพี่ยังไม่มีอ่ะ มีแต่บ้านให้อยู่ น้ำให้อาบ ส่วนอาหารต้องช่วยทำนะจ๊ะ
พี่ไม่ใช่แม่บ้านที่ดีสักเท่าไหร่ (อิอิอิ) ทำอาหารไม่ค่อยเป็น
อ่าาา...Freelance Trader มันเป็นยังไงเหรอคะ เกี่ยวข้องกับการส่งออกหรือเปล่า