หน้า: 1 ... 29 30 31 32 33 34 35 [36] 37 38 39 40 41 42 43 ... 49
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ซากุระสีเลือด  (อ่าน 217134 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
อ่านจบแล้ว 35 หน้า  โวย


ข้าต้องการเลือด  โวย
บันทึกการเข้า

สนใจท่ออุตสาหกรรม​ เลือก DragonFlex นะจ้ะ​จุ๊บๆ​
พรุ่งนี้ถ้าไปเดทกัน เกศมันอยากกินอะไร อยากไปเที่ยวไหน ก็ตามใจเกศมันหน่อยนะต้น  อู้ย..
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
ไม่ต้องรีบนะเจ้ปุก แค่มีหลาย ๆ คนรออ่าน เนอะเจ้ส้มเนอะ  กร๊าก
บันทึกการเข้า


ช่ายยย   กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour

ป้ายประกาศจับ สาวกตัวแม่ ของโอมชินริเกียว
แปะมาตั้งแต่ปี 1995 จนถึงทุกวันนี้ หลายคนเชื่อว่า
เหล่าสมาชิกเหล่านี้ ไม่ตาย ก็ออกนอกประเทศไปนานแล้ว



โอม ชินริเกียว เป็นชื่อลัทธิหนึ่งของญี่ปุ่น
ช่วงก่อนปีมิลเลเนียม ลัทธินี้เป็นลัทธิ ที่มีจำนวนของสมาชิกเพิ่มขึ้นไวที่สุด
ประมาณการว่า มีสมาชิกทั่วญี่ปุ่นถึงเกือบหมื่นคน และมีสาขายไปทั่วโลก
รวมกว่า สี่หมื่นคน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์แก๊ซซารินในปี 1995
จำนวนสมาชิกลดลงเรื่อยๆ และปัจจุบันเหลือไม่ถึงสองหมื่นคน

โอม แปลว่า จักรวาลมาจากภาษา สันสกฤต ส่วน ชินริเกียว แปลว่า ความจริงแท้
รวมกันแปลว่า ความจริงแท้ที่สุด เหล่าสาวกมีความเชื่อในเรื่องของการสิ้นสุดของโลก
และ หมกมุ่นในเรื่องของสงครามโลกครั้งที่สาม

สาเหตุหลักที่โอมชินริเกียว ได้รับความนิยมอย่างบ้าคลั่ง
น่าจะมีส่วนมาจาก นาย อาซาฮาระ โชโกะ ที่ทำการโปรโมตตัวเองสุดฤทธิ์
มีการไปพบผู้นำประเทศ และแคมเปญพบ องค์ดาไล ลามะก็ทำให้ความนิยมของเขาเพิ่มขึ้น
แต่สิ่งที่น่าจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จของโอม ชินริเกียว หรือ ชื่อใหม่ว่า อะเลฟ
น่าจะมาจาก สมาชิกตัวเป้งหลายๆคนของลัทธินรกนี้
ได้รวบรวมดาวเด่นจากมหาวิทยาลัยชื่อนำของญี่ปุ่น
ระดมกำลังสมองของเหล่าเอลิสต์เหล่านนี้ สรรหาวิธี ล่อลวง
คนญี่ปุ่นมากมาย ที่กำลังสับสนอยู่ในโลกที่มีการแข่งขันสูง
และกำลังโกรธแค้นโลกเป็นทุนเดิม มาเป็นแกนกำลังสำรองของโอม ชินริเกียว

ก่อนที่จะมีการใช้แก๊ส ซาริน
โอมชินริเกียว คิดค้น วิธีทำลายล้างโลกมาก่อนแล้ว
ใน ปี 1993 ได้คิดค้น แก๊ซวีเอ็กส์ ที่มีฤทธิ์ทำลายล้างระดับสูง
รวบถึง รวบรวม จรวดมิสไซล์กว่าร้อยลูก
ความโหดเหี้ยมของ โอม ชินริเกียว ไม่ใช่แค่เพื่อรุกรานคนนอก
แต่ คนใน ที่พยายามจะออกจากลัทธิ ก็โดนไม่ใช่น้อย

อย่างในปีที่เกิดเหตุการณ์รถไฟใต้ดิน
นายคิโยชิ คาริยะ อายุ 69 ปี เป็นพี่ชายของสาวกคนนึง
ที่หนีออกจากลัทธิ เพราะรู้สึกว่า โอมเริ่มทดลองสิ่งรุนแรง และรุกรานเกินรับไหว
พวกเหล่าสมาชิกโกรธแค้นมาก เพราะสาวกคนที่หนีไปอยู่ในระดับสูง
และอีกไม่กี่วัน แกสซาริน ก็จะถูกใช้ในรถไฟใต้ดิน
ทุกคนหวาดกลัวว่า ความลับนี้จะรั่วไหลอยู่สาธารณชน
จึงได้ทำการ ลักพาตัวนายคิโยชิ จากถนนเมืองโตเกียว และส่งไปทรมานอย่างโหดเหี้ยม
ที่บ้านพักของสาวกคนนึง ใกล้ๆภูเขาไฟฟูจิ
พวกโอม ชินริเกียว ทำการโด๊ปยา และใช้รังสีไมโครเวฟฉายเข้าร่างกายคุณลุงผุ้น่าสงสาร
จนได้รับความทรมานจนถึงชีวิต และนำศพไปทิ้งที่แม่น้ำคาวะกุจิ
ก่อนที่คาริยะจะถูกลักพาตัว เขาได้รับโทรศัพท์ข่มขู่
สอบถามเกี่ยวกับน้องสาวของเขาที่หลบหนี
เขารู้กลายๆแล้วว่า จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับเขาแน่ๆ
เขาเลยทิ้งโน๊ตไว้ว่า
ถ้าเขาหายตัวไป แสดงว่า พวกโอมชินริเกียวนั่นแหละ เป็นคนทำ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 05 มิ.ย. 2009, 21:26 น. โดย ☼lnwปุก☼ » บันทึกการเข้า
 โวย ไ้ด้อารมณ์สาวกเพื่อนมากๆเลย +1
บันทึกการเข้า

等着
จากภาพด้านบนนะ

คนแรกชื่อนาย ฮิราตะ มาโกะโตะ
สูงประมาณร้อยแปดสิบสาม อายุ สี่สิบหกปี
ลักษณะเด่นชัดคือ ฟันเก และมีใฝบริเวณลำคอข้างซ้าย

เจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่า นายฮิราตะ มาโกะโตะ
มีส่วนเกี่ยวข้อง กับการสังหารเจ้าหน้าที่รัฐ
และเป็นแกนนำของลัทธิโอมชินริเกียวอีกด้วย

คนกลางมีชื่อว่า คัทสึยะ ทาคาฮาชิ
สูงราว ร้อยเจ็ดสิบสาม
ลักษณะเด่นชัดคือ หัวโต บางครั้งใส่แว่นตา

เขาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารหมู่บนรถไฟใต้ดิน

คนสุดท้ายเป็นฆาตกรหญิงที่โด่งดังที่สุดในญี่ปุ่น
เธอมีใบหน้าเรียบๆ คล้ายอีเจ๊จากแผ่นดินใหญ่
แต่จิตใจเหี้ยมโหด

ชื่อ คิกุจิ นาโอโกะ
ทางตำรวจมั่นใจว่า สาวใหญ่วัยสี่สิบหกปีผู้มีใฝเม็ดใหญ่บนใบหน้าคนนี้
เป็นผู้ปล่อยแกสซาริน บนรถไฟใตดินแน่นอน

เดี๋ยวเรามาต่อกันถึงเบื้องลึก บนคดีผู้ก่อการร้าย
ที่น่าหวาดกลัวที่สุดในประเทศญี่ปุ่น
บันทึกการเข้า
 โวย+
บันทึกการเข้า

สนใจท่ออุตสาหกรรม​ เลือก DragonFlex นะจ้ะ​จุ๊บๆ​
เค้าทำแล้วได้อะไรเหรอ เจ้

มันเป็ฯความสะใจหมู่หรืออย่างไร คัดแต่ดาวเด่นของมหาวิทยาลัย แล้วไหงพวกนี้ถึงไปเข้ากลุ่มได้

มันแปลกๆ มั้ยอ่ะเจ้ ไม่เข้าใจ  ไม่ล่ะ
บันทึกการเข้า

หนังเย็บมือ Homemade www.facebook.com/oxhour
เหล่าสาวกมีความเชื่อในเรื่องของการสิ้นสุดของโลก
และ หมกมุ่นในเรื่องของสงครามโลกครั้งที่สาม

....
.....
......
สมาชิกตัวเป้งหลายๆคนของลัทธินรกนี้
ได้รวบรวมดาวเด่นจากมหาวิทยาลัยชื่อนำของญี่ปุ่น
ระดมกำลังสมองของเหล่าเอลิสต์เหล่านนี้ สรรหาวิธี ล่อลวง
คนญี่ปุ่นมากมาย ที่กำลังสับสนอยู่ในโลกที่มีการแข่งขันสูง
และกำลังโกรธแค้นโลกเป็นทุนเดิม มาเป็นแกนกำลังสำรองของโอม ชินริเกียว


พวกนี้มีความเชื่อว่า
เราต้องทำลายล้าง เพื่อ ความอยู่รอด
และหมกมุ่นในความคิดที่ว่า
โลกมีการสิ้นสุด และมันเหล่านี้เอง
ที่จะหยิบยื่นความสิ้นสุดให้กับโลก

ไอ้เจ้าสำนักนี่ บ้าโยคะ และ ศาสนาฮินดูสุดๆ
แต่ดัดแปลง หลักศาสนา เข้าสู่ ความคิดบ้าคลั่งของมันเอง
และเผยแพร่สู่โลก

นึกถึงเพื่อนใน เทวนตี้เซนจูรี่บอยเลย
ทั้งใช้ยา หว่านล้อม ทุ่มเงิน ทำทุกอย่าง
นัยยะในการ์ตูน กับ ความจริงของโอมนี่ใกล้เคียงกันมากเลยนะ
เกิดมาในเวลาใกล้ๆกันอีกต่างหาก


พรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังว่า
มันเกิดอะไรขึ้นบนรถไฟใต้ดิน
บันทึกการเข้า
แสดงว่าคนญี่ปุ่นที่คิดแบบนี้มีเยอะนะเนี่ย  โวย
บันทึกการเข้า

สนใจท่ออุตสาหกรรม​ เลือก DragonFlex นะจ้ะ​จุ๊บๆ​
คนที่อยู่ในโลกมืด และเก็บกดสุดๆมีเยอะนะ
แต่สุดท้ายก็ปอดแหก

เห็นได้จาก

สมาชิกมากมาย ก่อนเกิดเหตุการณ์ปล่อยแก๊ซ
และหลังจากนั้น สมาชิกหายไปเกือบยี่สิบเท่า
ทำให้รู้ได้ว่า พวกเขาเหล่านี้ แค่อยากปลดปล่อยอารมณ์ออกมาเฉยๆ
พอสุดท้าย ความรุนแรงได้เกิดขึ้นจริงแล้ว
ก็หนีหายไปหมด กลัวจะสูญเสียจุดยืนทางสังคม
บันทึกการเข้า
  อ๊าง สุดยอดครับ +
บันทึกการเข้า

พี่ปุก +1ค่ะ เดี๋ยวกลับมาอ่าน

  อ๊าง สุดยอดครับ +

อีเบลล อีโมใหม่อีกแล้วว
บันทึกการเข้า

★ .・。゜ïzY ™ ﺕ ❤ Loveable ☂
 ` Mode : รักเธอ *
T&I
ณ วันที่ ยี่สิบมีนาคม ปีพศ สองพันห้าร้อยสามสิบแปด
มันก็เป็นวันยุ่งเหมือนเคย กลางกรุงโตเกียว
ที่รถไฟทุกสาย แน่นขนัด เหมือนปลากระป๋อง
ชายผู้หนึ่ง ถือหนังสือพิมพ์ กระเป๋าเอกสาร และร่มปลายแหลม
ช่างเป็นภาพที่ชินตาของคนหลายๆคน
แต่เมื่อชายผู้นี้ วางกองหนังสือพิมพ์ลงบนรถไฟ
และเปิดกระเป๋า เห็นแก๊สซารินหลอดโต
และฉีดสารพิษของมาจากปลายร่ม
โตเกียวในวันนั้น ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง



ชายผู้นั้นไม่ได้ทำเพียงผู้เดียว
แต่รถไฟอีกสี่ขบวน มีชายชั่วอีกสี่คน ทำเหมือนกับเขา 

ณ เวลาเดียวกัน

แก๊สซาริน เป็นสารเคมีไร้สี ไร้รส
แต่ถ้ามีใคร ได้เพียงสัมผัสมัน สูดดมมัน
ร่างกายจะมีความรู้สึกเหมือนกับติดเชื้อหวัด
เกิดอาการผิดปกติ กับทางเดินหายใจ
ถ้าได้รับมากหน่อย ก็ถึงกับชีวิต และเหตุการณ์ครั้งนั้น
มีผู้เสียชีวิตสิบสองคน บาดเจ็บสาหัสร่วมร้อย
และได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ปล่อยแก๊สนรกนั้น
กว่าห้าพันคน  โวย

ทางตำรวจเชื่อว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่านั้น
แต่หวาดกลัว ที่จะแจ้งความ เพราะนี้เป็นการรุกรานจากเหล่าผู้ก่อการร้ายที่
น่ากลัวที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น

ทางการเชื่อว่า
อาซาฮาระ โชโกะ ใช้วิธีล่อลวงสาวกด้วยการ
ใช้ยา LSD รวมถึง ถ้าสาวกคนไหน หน้าตาสวย หุ่นดีเป็นพิเศษ
จะต้องร่วมประเวณีกับเขา และตกลงในสัญญาว่า
จะไม่มีเพศสัมพันธ์กับใคร เพื่อเปิดหนทาง สู่นิพพานอันแท้จริง
นอกจากนั้น สาวกทั่วไป ยังถูกบังคับให้ดื่มกินเลือด
และน้ำอาบ ของโชโกะอีกด้วย

สุดท้าย โชโกะ ถูกโทษประหารชีวิต
แต่ก็อีกแปดปีหลังเหตุการณ์
และก่อนที่เค้าจะตาย
ทางการได้เปิดโปงถึงแผนชั่วของโอม ชินริเกียว
ทั้งบ้านพักลับใต้ภูเขาไฟฟูจิ การทดลองแกสพิษอีโบล่า
รวมถึง วีเอกส์ หัวจรวดมิสไซส์กว่าร้อยลูก
และยังมีแผนการร้ายที่จะถล่มรถไฟใต้ดินอีกหลายสาย

ปัจจุบัน โชโกะจากไปแล้ว
ด้วยโทษทัณฑ์ที่หลายคนคิดว่า น้อยไปกับการกระทำของเขา
แต่บาดแผลทางใจ ที่เค้าทิ้งไว้บนหัวใจของชาวญี่ปุ่น
ไม่มีวันที่จะจางหาย

ไม่มีวัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 06 มิ.ย. 2009, 12:42 น. โดย ☼lnwปุก☼ » บันทึกการเข้า
หน้า: 1 ... 29 30 31 32 33 34 35 [36] 37 38 39 40 41 42 43 ... 49
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!