สรุปว่า เป็นเพราะภาพนี้ถูกสร้างขึ้นมาให้มองได้ทั้ง 2 แบบ (ambiguous image) ครับ
ไม่แน่ใจว่าถ้าเก็บภาพแยกเป็นเฟรมๆ จะเห็นความผิดปกติรึเปล่า
เพราะถ้าสังเกตดูดีๆ ตรงขาจะมีแว้บๆเหมือนขาดๆหายๆเป็นระยะๆ
แต่เว็บที่อธิบายก็มีให้กดขยับทีละเฟรมได้ แต่ก็ไม่เห็นอะไรผิดปกตินะ = =;
ใช้คำอธิบายเดียวกับการมองรูปลูกบาศก์ทรงกลวง ที่เราจะเลือกมองด้านใดด้านหนึ่งเป็นด้านหน้าก็ได้
ตัวอย่างเช่นรูปนี้:
จากรูป A เราสามารถจะมองให้ด้านที่อยู่ต่ำกว่าอยู่ข้างหน้า (B)
หรือด้านที่อยู่สูงกว่าอยู่ข้างหน้า (C) ก็ได้
ซึ่งเกิดมาจากการที่เรติน่า (บริเวณรับแสง) ของลูกตาเรา มันมีลักษณะเป็นสองมิติ
แต่พอไปถึงสมองจะมีการประมวลผลจากตาทั้งสองข้าง บวกกับลักษณะเงา, contrast ฯลฯ
ทำให้เกิดเป็นภาพแบบ 3 มิติ (มีความลึก) ที่เรามองเห็นกันครับ
ทีนี้ ถ้าเกิดว่าภาพที่เราเห็น มันสามารถแปรผลได้ 2 แบบ (เช่นภาพหมุนๆอันนี้ หรือภาพลูกบาศก์)
ก็จะเกิดการตีกันเองในสมอง (perceptual rivalry) แล้วฝ่ายที่ชนะก็จะแสดงผลออกมาเป็นภาพที่เราเห็น
ที่เว็บที่อธิบายไว้ เขามีทำวิจัยไว้ด้วยครับว่า จากอาสาสมัครทั้งหมด 121 คน มีคนเห็นเป็น"ตามเข็ม" ซะ 80% และ "ทวนเข็ม" 20%
ซึ่งน่าจะเป็นเพราะภาพสามารถมองให้เห็นเป็นตามเข็มได้ง่ายกว่า (ถ้าจะมองเป็นทวนต้อง "มองจากฝ่าเท้าขึ้นไป")
อ้างอิง:
http://www.michaelbach.de/ot/sze_silhouette/index.htmlAll silhouettes are ambiguous. Our brain tries to reconstruct the third dimension (space) from the flat image in our eyes, adding information which is usually realistic, but not really there. And in the case of a silhouette, there are two equally likely interpretations, leading to perceptual rivalry.
Actually, as some of you commented, and I agree: they are not completely likely, because on left rotation the 3D arrangement is such that one looks from below – on sees the sole of the foot. That may explain the statistical preference for rightward motion.
เจ้าของเว็บชื่อ Michael Bach เป็นศาสตราจารย์อยู่ที่เยอรมนีครับ
รู้สึกว่าจะทำวิจัยเรื่องเกี่ยวกับการรับรู้ (Perception) ของมนุษย์
ในเว็บแกมีภาพลวงตาทำนองนี้เยอะมาก (น่าจะมีทุกอันที่ผมเคยเห็นมาเลย) พร้อมคำอธิบายด้วย
ถ้าใครสนใจก็ลองเข้าไปดูเล่นๆได้ครับ
link:
http://www.michaelbach.de/ot/