หน้า: 1 ... 23 24 25 26 27 28 29 [30]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: มหันตภัยในการติดเกมส์ (แตกหน่อ)  (อ่าน 129570 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ลิงค์ pantip เข้าไม่ได้แล้ว อดอ่าน..  ฮือๆ~



แต่ค่อนข้างมั่นใจนะว่าตัวเองติดเกมพอสมควรเลย  กร๊าก
บันทึกการเข้า

อันบัน ♥
ยาวอีกแล้ว ฮือๆ~ ขออภัยอย่างแรงค่ะ ไหว้

เขาว่ามนุษย์เราแต่ละคนมีสันดานการใช้ความรุนแรงฝังอยู่อยู่แล้วค่ะ
ซึ่งบางครั้งจะออกมาตามโอกาสที่ไม่ได้มีถี่ ๆ เช่น เมื่อบันดาลโทสะ เมื่อจนตรอก
สิ่งที่จะทำให้คนคนหนึ่งไม่ทำในสิ่งที่ทำร้ายผู้อื่น ก็คือสติยับยั้ง ซึ่งอาจมีหลายปัจจัยเช่น ความสามารถในการแยกแยะถูกผิด ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความเมตตากรุณา หรือความรู้สึกรับผิดชอบต่อสังคม
แต่ถ้าเวลาเผลอ หรือไม่ทันคิด หรือยั้งมือยั้งใจไม่ทัน มันก็มีพลาดกันทั้งนั้นค่ะ

จากที่กลับไปอ่านข่าวอีกรอบ เห็นว่าครอบครัวแตกแยกด้วย
นอกจากนี้พ่อยังชอบใช้ความรุนแรง

การเห็นการใช้ความรุนแรงเป็นประจำนี่มีส่วนในการปลูกฝังและกระตุ้นในทางจิตวิทยาสูงค่ะ
เพราะเป็นสิ่งที่ต้องพบเจอทุก ๆ วัน และเห็นอยู่ซ้ำ ๆ
สำหรับเด็กเล็กอาจจะทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ผิด ๆ ได้ คือปลูกฝังให้คิดว่าสิ่งที่เห็นมันถูก มันควร หรือสามารถกระทำได้โดยไม่มีใครตำหนิ
แต่สำหรับเด็กโต มันทำให้รู้สึกชาชินกับความรุนแรงโดยไม่รู้ตัวค่ะ ประมาณว่าซึมซับน่ะ

การเล่นเกมเองก็เหมือนกัน มีส่วนกระตุ้นมาก ๆ ค่ะ

ถ้าจะให้พูดแบบคิดเองเออเองแล้ว รู้สึกว่า เด็กคนนี้อาจจะมีพื้นฐานความยับยั้งชั่งใจหรือความเห็นใจคนอื่นต่ำอยู่แล้ว
เพราะในเมื่อครอบครัวแตกแยก ก็คาดเดาได้ว่าการปลูกฝังหรือการดูแลคงไม่ได้ใกล้ชิดเท่าไหร่
ทำให้ไม่ค่อยได้อบรมบ่มนิสัยให้รู้จักแยกแยะควรไม่ควร วิจารณญาณจึงต่ำ
ประกอบกับความรุนแรงในครอบครัวที่ประสบ และปัญหาครอบครัวรุมเร้า
เมื่อเล่นเกมไปนาน ๆ ก็ถูกกระตุ้นเป็นระยะ ๆ จนทำให้ด้านมืดของตนเผยออกมา

คือเกมไม่ใช่ปัจจัยที่"ก่อ" ค่ะ แต่มัน "ดึง" เอาส่วนไม่ดีของมนุษย์ออกมาได้

จะบอกว่าเคยตัวกับการทำผิด หรือก่ออาชญากรรมโดยไม่ได้รับโทษก็คงได้
หรือไม่ก็เป็นเพราะในเกมเขาสามารถเป็น Hero ได้ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวร้าย

แล้วพอสติหลุด (จนตรอก พ่อแม่พึ่งพาไม่ได้ ครอบครัวมีปัญหา ชีวิตเหมือนเจอทางตัน) ก็เลยทำให้ตาชั่งพังไป
เกิดลืมตัว นึกว่าก่ออาชญากรรมแบบนี้คือทางออกที่ควร โดยที่ไม่ทันคิดถึงผลร้ายที่อาจตามมา

....
....
....
ซึ่งดูจากรายการทางทีวีว่าเด็กม.6คนนี้เป็นเด็กเรียบร้อยทั้งที่โรงเรียนแล้วก็ที่บ้าน(ซึ่งผมคิดว่าน่าจะเก็บกดน่ะ ฮี่ๆ)
......
......
......
แต่ถ้าจะโทษเกมส์เฉยๆนี่ไม่เกี่ยวนะว่าไหมครับ

อืม ถ้าเด็กเป็นเด็กเรียบร้อยจริง มีพฤติกรรมดีมาตลอดจริง ก็คิดว่าเป็นไปได้ค่ะที่เป็นเด็กเก็บกด
และที่คิดไปจี้ไปปล้นนั่นก็อาจจะเป็นความคิดชั่ววูบก็ได้ แต่บังเอิญเหยื่อขัดขืนจนเกิดผลร้ายในที่สุด

ถ้าเป็นการแทงโดยเจตนา หรือวางแผนฆ่าไว้ก่อน เราอาจจะออกมาร้องลั่นค่ะว่าโทษเกมได้ไง เด็กมันสันดานฆาตกรอยู่ก่อนแล้วต่างหาก.... เด็กโกหก โทษมั่ว ฯลฯ  แต่กรณีนี้เป็นการแทงถูกในระหว่างชุลมุน จึงคิดว่าข้ออ้างเรื่องเกมนั้นมีมูลความจริงค่ะ เพราะแรงกระตุ้นที่ได้รับมาอาจทำให้ปล้นจริง ส่วนเรื่องฆ่านั้นมันเป็นอุบัติเหตุ

การโทษเกม"เท่านั้น" มันต้องเป็นการคิดที่ผิดอยู่แล้วล่ะค่ะ เพราะกรณีนี้ดูยังไงก็เกิดจากหลายปัจจับประกอบกัน

จินตนาการดูแล้วรู้สึกว่า ถ้าปัจจัยที่เร้าให้เขาก่ออาชญากรรมนี้ ขาดหายไปเพียงปัจจัยเดียว คือมีไม่ครบองค์ประชุม เด็กก็อาจจะไม่ได้ก่อเรื่องขึ้นก็ได้
เช่น ถ้าพ่อไม่เป็นคนชอบใช้ความรุนแรง
ถ้าครอบครัวไม่แตกแยก
ถ้าผู้ปกครองดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด
ถ้าไม่ได้ได้เงินแค่ 100 บาท
ถ้าไม่ได้เล่นเกมนี้ หรือ ถ้าเล่นเกมนี้แต่มีผู้ชี้แนะอย่างเหมาะสม
ฯลฯ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18 ต.ค. 2008, 19:54 น. โดย จ่าแพนด้า » บันทึกการเข้า
จริงครับเห็นด้วยที่ว่าความรุนแรงอยู่ในตัวเราทุกคนแต่มันก็มีประโยชน์เวลาที่เราเข้าตาจนต้องเอาตัวรอดตามสัญชาตญาณ.....แต่ที่เด็กคนนั้นทำเค้าอาจจะแค่แยกแยะโลกความเป็นจริงกับในเกมส์ไม่ออกเลยเอาความรุนแรงไปลงในชีวิตจริงแทนเกมส์ ฮือๆ~
บันทึกการเข้า
ถ้ากระจู๋ (มหันตภัยในการติดเกมส์ (นอกเรื่อง))อยู่ในบอร์ดเว็บเกม แล้วผมเข้าไปตอบ ผมจะพิมพ์ว่า
"ของยังงี้มันก็เกี่ยวกับคนอ่ะครับ บางคนเขามีสำนึกที่ดี รู้ว่าอะไรถูกอะไรไม่ควร และที่สำคัญผมมั่นใจว่าพวกเราส่วนมากแบ่งเวลากันเป็นหมดแล้วอ่ะครับ"

ถ้ากระจู๋ (มหันตภัยในการติดเกมส์ (เม้นต์กันหน่อยค่า))อยู่ในบอร์ดเด็กดี แล้วผมเข้าไปตอบ ผมจะพิมพ์ว่า
"มันเกินไปล่ะมั้งครับ ผมเองก็โตแล้วยังไม่มีปัญหาขนาดนี้เลย ปัญหายังงี้คงต้องมองที่ตัวคนแล้วล่ะมั้งครับ"

ถ้ากระจู๋ (มหันตภัยในการติดเกมส์ (แตกหน่อ))อยู่ในบอร์ดฟoนต์ แล้วผมเข้าไปตอบ ผมจะพิมพ์ว่า
"ผมติดเกมมานานแล้วครับ

จำได้ว่าเล่นครั้งแรกตอน 5 ขวบ เล่นเกมอะไรไม่รู้ใน DOS ครับ (น่าจะพวก prince of persia มั้งครับถ้าจำไม่ผิด) แล้วก็ติดงอมแงม เล่นจนแม่บ่นแม่ดุ แล้วหลังจากนั้นก็ห่างหายไปพักหนึ่ง จนพี่ในหมู่บ้านเอาเกมมาลง ผมก็ปั่นจักรยานไปบ้านพี่เขาทุกวัน สาบานได้ว่าทุกครั้งที่พี่เขาเปิดลำโพง (มันจะมีเสียงดังตุบ) ผมก็จะไปนั่งพร้อมที่เก้าอี้หน้าโต๊ะคอมเรียบร้อยแล้ว

ผมเล่น megaman X4 เล่น Power Rangers เล่นทุกเกมที่ตอนนั้นพี่เขามี เล่นจนพี่เขาเบื่อจนเลิก ผมก็ยังไม่เลิกดึงดันจะเล่นต่อ กลับมาฝันถึงโลกในเกมอย่างบ้าคลั่ง จำได้ว่าครั้งหนึ่งนอนไม่หลับเพราะฝันว่า X ฆ่า Sigma ไม่ได้ทำยังไงก็ไม่ตาย

ผมเล่นเกมบ้านพี่เขามาเรื่อย ๆ จนน้องข้างบ้านซื้อ play 1 มาเล่น ผมก็เปลี่ยนจากไปสิงบ้านพี่เป็นสิงบ้านน้องแทน เล่นหมดทุกเกม ไม่หลับไม่นอน พ่อแม่ต้องหาทางซื้อเพลย์ให้เพื่อให้ผมยอมกลับมาบ้าน กลับมาผมก็เล่นเกมเพลย์ในบ้านต่อไม่ลืมหูลืมตา จะมีบางช่วงที่ออกไปปั่นจักรยานเล่นกับเพื่อนบ้าง (ต้องยอมรับว่าเพื่อนหลาย ๆ คนของผมมีส่วนทำให้ผมไม่เป็นบ้าไปเพราะเกม เพราะพวกมันไม่เล่นเกม และมักจะไม่ต้องการเล่นกับผม ทำให้ผมต้องปิดเกมไปเล่นกับพวกมันบ้าง) จนกระทั่งที่โรงเรียนมีของฮิตตัวใหม่ นั่นคือเคาเตอร์ สุดยอดเกมที่ตอนนี้แม้แต่พวกเพื่อน ๆ ผมที่ไม่ค่อยเล่นเกมก็ยังบ้าคลั่งไปเล่นกับพวกผมด้วย ขอเงินแม่ยืมเงินพ่อมาเล่นทีละห้าหกชั่วโมง กลับบ้านเย็นค่ำอ้างว่าอยู่บ้านคนโน้นบ้างแหละ ไปนั่งเล่นที่ตลาดมั่งแหละ

จนวันนึงจำได้แม่นเลย ผมนั่งเล่น ๆ อยู่ แม่ก็เปิดประตูเข้ามาในร้าน มองหน้าผมเหมือนรู้เลยว่าผมมาอยู่ตรงนี้ ทั้ง ๆ ที่ผมเพิ่งบอกไปว่าอยู่เซเว่น ผมเสียวสันหลังวาบไปทั้งตัว แม่มองผมนิ่ง ๆ แล้วก็เปิดประตูออกจากร้านไป ผมร้องไห้วิ่งตามแม่กลับบ้าน โดนดุอยู่เป็นชั่วโมง

แล้ววันต่อมาก็เสียบเพลย์นั่งเล่นต่อ

ผมเล่นเกมมาเรื่อย ๆ จนมาอยู่กรุงเทพก็ยังไม่หยุดเล่น ช่วงหนึ่งได้เพลย์สองมาก็บ้ามันแต่เพลย์สอง เล่นแต่วินนิ่ง จีทีเอ ไฟนอล เล่นจนพ่อต้องจัดคอร์สเรียนพิเศษให้ผมเอาหัวออกจากบ้านบ้าง แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้นหรอกครับ กลับมาผมก็เล่นเกมเหมือนเดิม ทะเลาะกะคนทั้งบ้านแย่งเอาทีวีมาเล่นเกม พ่อซื้อเครื่องเล็กมาไว้ข้างบนผมก็แบกเครื่องไปนั่งเล่นชั้นบน เล่นจนพี่เข้าห้องนอนก็ไม่เลิก พี่บ่นให้ดับไฟก็ปิดไฟเล่นมันมืด ๆ พ่อบอกเสียงดังก็ไปซื้อหูฟังมาเสียบเล่นต่อ

กะว่าชีวิตนี้ของผมมันคงหนีไม่พ้นเทคเคน วินนิ่ง ไฟนอล ฯลฯ แล้ว


แต่ถ้าถามว่าผมเอาตัวเองออกมาจากมันยังไง

ผมเองก็ไม่รู้แน่นัก แต่ผมคิดว่าน่าจะเกิดมาจากหลาย ๆ อย่าง ทั้งอดีตแฟน (ที่ตอนคบกันโคตรจะไม่ยอมให้ผมเล่นเกม) ทั้งเพื่อน (ที่บางคนมันก็ไม่เล่นเกม ชวนผมเล่นบาสเล่นบอล เล่นดนตรีจนเฮละโลไปตั้งวงกะมัน) ทั้งพ่อแม่ (ที่เวลาบ่นมักจะทำเป็นไม่ได้ยิน แต่พอจะเล่นก็มีฟีดแบ็กดังสะท้อนเข้าหัวทุกที)

แต่จุดที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่าอยู่ที่ตัวเองนะ
บันทึกการเข้า
โอวว น่าสนใจมากครับ

ตอนนี้ผมว่าผมก็ติดฟอนต์เหมือนกันครับ ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
หน้า: 1 ... 23 24 25 26 27 28 29 [30]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!