มรต่อตอนจบ (รึเปล่า) ตามที่รับปากไว้ค่ะ

เอาละนะ
พอทำงานก็ต้องตื่นแต่เช้าเกือบทุกวัน ยกเว้นวันหยุด พอมันได้ทำงานก็คิดว่าคงจะย้ายออกแยกกันอยู่
แต่มันบอกว่าจะแยกเพราะแฟนจะมาหา แต่มันไม่หาหอ ไม่ติดต่อ รอคนพาไปหา... จนถึงวันนี้
ปกติอยู่ด้วยกันก็ไม่มีปัญหาอะไรกันเลยนะคะ มันจะเป็นคนที่ดีมากๆคนนึงเลยถ้าตัดเรื่องเกมส์กับเรื่องผู้ชายของมันออกไป
แต่ก็น่าเสียดายจริงๆ วันๆ ไม่เห็นชีวิตมีอะไร มีแต่เกมส์ เดี๋ยวนี้ มันไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังแล้ว เพราะบอกมันว่า ไม่ต้องเล่า ไม่อยากฟัง แต่มันไม่ได้เล่า แค่เปรยๆออกมาตอนอยู่สองคน เฉยๆ

มีปัญหา ขาดงานไป 2 วัน คิดจะลาออกไปกับแฟน(คนเก่าที่บอกว่าเลิกไปแล้ว) สิ้นเดือนเงินออก แฟนมาช่วยใช้ เงินหมด ขอแม่
ตอนนี้มีปัญหากันเพราะมันไม่รักษาคำพูด ไม่รักษากติกา มันเกือบจะได้ย้ายห้อง แต่มันไม่ย้าย เพราะไม่มีหอรองรับ แม่บอกไม่มีเงินก้อนมัดจำค่าหอให้ และบอกว่า "แม่ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียวอยากให้มันอยู่กับบุ๋ม" (แล้วบุ๋มล่ะ?) และ ไม่อยากอยู่บ้านปู่ ที่อยุ่แถวบางเขน มันบอกว่า บ้านปู่เหมือนคุก (คุกที่มีแอร์ มีย่าทำกับข้าวอร่อยๆให้กิน มียูบีซี มีรถให้ขับ ) แต่เหตุผลจริง ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ
มันเลือกที่จะอยู่อย่างไม่ค่อยสบาย แต่ได้เล่นเกมส์
พอเงินหมด แฟนกลับ ขอแม่ แม่ให้ ไปเจอแฟนกิ๊กกับสาวอีก เลิกอีก
โดนหักเงินเดือน บ่น เลยลดเล่นเกมส์ไปหน่อยนึง
ต่อมามีแฟนใหม่เป็นเด็กในเกมส์ ไปเล่นเกมส์ไปประชดแฟนเก่าในเกมส์ แฟนเก่าตามมาตบถึงกรุงเทพ และกลายเป็นแฟนกันอีกครั้ง
แม่มันชอบดูดวง เชื่อหมอดุ เชื่อพระ ทำพิธีแยกมันกับแฟน (แต่ไม่ห้ามเล่นเกมส์) หมดเงินไปหลายพัน แต่ก็มิได้นำพา
รู้สึกจะยาว สรุปเลยแล้วกัน
ตอนนี้มันก็ยังเล่นเกมส์ ทุกวัน
ความเกรียน แน่นอน เพิ่มขึ้นไปตามวันเวลา เหมือนโดนดูดไปในโลกของเกมส์เกือบหมด มีชีวิตอยู่ในโลกของความจริงแค่ตอนทำงาน กับตอนหลับ
เริ่มพูดไม่เพราะจนกลายเป็นนิสัยหลักไปแล้ว
ทำตัวงุงิเหมือนไม่ใช่คนอายุ 22 ที่เรียนจบป. ตรี แล้ว เลยซักนิด ทำตัวเหมือนเด็กอายุ 15 เพิ่งเคยมีแฟน ขี้งอน ขี้น้อยใจ และพูดไม่ชัด

ถูกเด็กอายุไม่ถึง 15 จิกหัวเรียก ว่าอี..พูดมึงกูเป็นนิจ ผัวเมียเป็นนิสัย หยาบคายเป็นกิจาลักษณะ (หยาบแบบเกรียนๆ)
ไม่รู้ว่าอนาคตจะเอายังไงปล่อยให้มันเป็นไปตามเกมส์
สุดท้าย ถามว่า ทำไมบุ๋มถึงไม่ย้ายห้อง จะบ่นทำไม ไปอยู่ที่อื่นซะก้สิ้นเรื่อง คำตอบคือ ขี้เกียจย้ายของ เสีบเวลา+เหนื่อย
และ แม่มันขอร้องว่าขอให้มันอยู่ด้วยไปก่อน ฝากดูแลมันด้วย

สุดท้ายจริงๆ รอให้ตัวเองเดือดร้อน จนมีเหตุผลพอ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกผิด ค้างคาใจ บอกมันย้ายไปซะ อย่างไม่แยแส
เพื่อนคนนี้ชื่อทรายด้วยแหละ สิบอกไห่ 555555555
น่ากลัวโพด ๆ เลยอ้ะ!!!!

วงจรอุบาทว์ชัด ๆ
แม่เขาควรจะเด็ดขาดได้แล้ว
(ส่วนคุณบุ๋มนั้น จากที่เล่ามา รู้สึกว่าจะเด็ดขาดไปหลายหนแล้วแต่ไม่เกิดผล....)
เรื่องเล่นเกมแล้วทำให้ลักษณะนิสัยเปลี่ยนไปเนี่ย มีเรื่องจะเล่าเหมือนกันค่ะ แต่ยาวแน่ ๆ....
ของเดือนนี่จะถือว่าเป็นมหันตภัยแบบอ่อนๆ ป่าวหว่า
ตอนช่วงม.ปลาย ติดโอเทลโล่ล่ะ
เล่นแบบเอาเป็นเอาตาย เล่นเก่งด้วย
คือตอนเล่นเน็ตก็ไม่มีอะไรให้เล่นด้วยมั้ง (ไม่เหมือนตอนนี้)
ก็เลยเปิดแต่เว็บเล่นโอเทลโล่
ตอนม.5 เคยหนีแม่มากรุงเทพแล้วแม่จับได้ พาไปอยู่บ้านนอกในเชียงรายเดือนกว่าจำได้ว่าทุรนทุรายมาก ไม่ได้เล่นเน็ต
ม.ปลาย ช่วงม.6 นี่ ค่อนข้างหนักเลย
นอนตีหนึ่งตีสอง แล้วบางทีไปเรียนไม่ไหวก็โดดคาบเช้า
ศุกร์เสาร์อาทิตย์โดดเรียนพิเศษก็บ่อย ทั้งๆ ที่ม.4 ม.5 ตั้งใจเรียนมาก บางทีไปเรียนก็หลับในห้อง ยังดีเกรดไม่ตกเพราะเพื่อนช่วยไว้เยอะ
และโชคดีที่สอบติดทุนเลยไม่ได้เครียดอะไรเรื่องเอนทรานซ์
พอปี 1 มาก็ลำพองใจอีก คิดว่าม.6 รอดมาได้
ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรนอกจากของทุนในตอนปี 1 ก็เพราะอยากเล่นเกมนี่แหละ
(ตอนนั้นถูกทาบทามเป็นหลีดก็ไม่ยอมเป็นเพราะมันซ้อมดึก เดี๋ยวไม่ได้เล่นเกม แล้วก็ไปอ้างว่ากลัวเสียเรียน

)
แล้วก็รอดออกมาได้เพราะเหตุผลบางอย่าง
และก็สำนึกเรื่องเรียนด้วยแหละ และเจออะไรที่น่าทำมากกว่า
เจอเว็บฟอนต์อะไรแบบเนี้ย ก็เพลาๆ ออกมา
ตอนนี้ถ้าไปเล่นโอเทลโล่ก็พอจำหลักการได้อยู่แต่ไม่เก่งเท่าเดิมแล้ว
ถามว่าเล่นโอเทลโล่ตอนนั้นมีข้อดีมั้ย มันก็มีนะ
เดือนเจอหลายๆ คนที่ดีๆ จากในนั้น
และตัวเกมมันก็สนุกน่ะ สนุกกว่าที่คิด
แต่ที่เสียใจก็คือเราทุ่มเทไปกับมันจนเกินไป จนเสียเรียน เสียโอกาสถ้าไม่มีโอเทลโล่ ไม่มีฟอนต์ เดือนว่าตัวเองคงจะเนิร์ดกว่านี้มากๆ
น่าจะเรียนเก่งกว่านี้แต่โคตรเนิร์ด อะไรทำนองนี้ล่ะ
ป.ล. ปังย่าก็เคยเล่นและชอบเล่นนะ แต่ไม่ถึงกับติดแฮะ
ส่วนออดิชั่น ไม่ชอบง่ะ
ตอนนี้ไม่พยายามเอาตัวเองไปเล่นเกมส์ออนไลน์เพราะกลัวติดนี่แหละ
แต่ปิดเทอมนี้ก็เล่นปังย่าบ้างนะ เล่นคลายเครียดไรงี้
//ตัดหน้า 2
โออย่างอึ้งเลยค่ะคุณเดือน
เป็นหนักขนาดนั้นยังกลับใจได้นี่ยอดคนนะเนี่ย
ขอปรบมือให้ดัง ๆ เลยอ้ะ

คิดว่าถ้าเล่นแบบพอดี ๆ ไม่เสียการเรียน ปัจจุบันนี้อาจจะยังเล่นอยู่หรือเปล่าคะ?
ส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้ายังเล่นอยู่อาจจะดีและสนุกสนานมากกว่านี้ก็ได้นะ
เพราะเกมกระดานแบบนั้นมันลับสมองอ่ะค่ะ แถมพอเล่นแบบออนไลน์แล้วยิ่งทำให้เจอคนมากหน้าหลายตาขึ้นด้วย
น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ
เรื่องเกมส์นี่ของผมอาจจะถือว่าโชคดีหน่อยนึง
เพราะแรกเริ่มที่เล่นเกมส์PCตั้งแต่3-4ขวบ โดนปลูกฝังให้เล่นเกมส์แนววางแผน
ทีนี้เจ้าเกมส์พวกนี้มันได้ภาษากับความรู้มาก
สมัยที่เล่นเกมส์ Civilization ก็ได้เรียนรู้ศัพท์ต่างๆกับความรู้ทั่วไปมากมาย
เล่นUnCharted water จนกระทั่งเขียนแผนที่ยุโรปได้

เขียนแบบลงเมืองท่าได้ตั้งแต่อยู่ม.2
แล้วก็อีกหลายๆเกมส์ที่เล่นแล้วได้ความรู้
สิ่งที่แลกกันคือเวลาในช่วงวัยเด็ก ... ที่มีเพื่อและความรู้บางอย่างของคนวัยเดียวกันน้อย
แต่ให้ย้อนกลับไปใหม่ ผมก็ยังจะเล่นอยู่นะ เพราะตอนนี้ดูแล้ว ของผมน่ะคุ้ม
แล้วพอย้อนมองดีๆ
พ่อผมเองนั่นแหละที่น่าจะเป็นคนวางแผนไว้แต่เริ่มต้น ... เลือกสรรแต่ละเกมส์มา

เด็กวัยเดียวกันไม่เห็นมีใครเล่นเลย
แต่พอมองเด็กบางคนเดี๋ยวนี้ เล่นเกมส์ดูดเวลาเหมือนผม แต่ดูแล้วไม่ได้อะไรนอกจากความสนุกเลยนี่มัน

ขำประโยคนั้นค่ะ คุณพ่อคือผู้อยู่เบื้อหลังทั้งหมด ฮา....
ตอนม.ต้น คุณพ่อโมจิก็หาเกม Dunes มาให้เล่นเหมือนกันค่ะ....
แต่เล่นแล้วไม่รุ่ง เอิ๊ก ๆ ๆ กลายเป็นว่าน้องชายเล่นเก่งแทน T-T
กว่าจะเล่นจบเคลียร์ story mode นี่แทบรากเลือด
พูดถึงเกมที่เล่นตอนเด็ก ๆ พอมาตอนนี้ลองมองย้อนกลับไปดู รู้สึกว่าได้อะไร ๆ จากเกมเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องน้ำใจนักกีฬา รวมทั้งความสามัคคี
นี่ก็เพิ่งเขียนบล็อกไป 1 entry เรื่องเกมค่ะ
ถ้ายังไงขอเชิญชาว F0nt ไปร่วมรำลึกความหลังด้วยกันนะคะ
http://valentino.exteen.com/20080513/entry