หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 30
 
ผู้เขียน หัวข้อ: มหันตภัยในการติดเกมส์ (แตกหน่อ)  (อ่าน 144087 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้


มีอยู่นะครับ ลองหาด้วย "คำนั้น" ซิครับ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ตอนนี้ก็ยังอยู่ด้วยกันเหรอคะน้องบุ๋ม .. ลำบากแย่เลยนะเนี่ย..
เข้าใจความรู้สึกอ่ะ ..

เรื่องคนที่ติดเกมจนได้เรื่อง ก็ใกล้ตัวที่สุดน้องของแอ้เนี่ยแหละ ..
ส่วนเพื่อนๆ ไม่ค่อยมีอ่ะค่ะ เรียนแข่งกันซะมากกว่า..

(มีกระจู๋เสียเพื่อนให้วัดยูเอฟโอย่านชานเมืองมั้ยคะ จะไปเล่าบ้าง)



กร๊าก ตอบช้าไป ..โดนหมอแมวตัดหน้าซะแล้วต๋อย

ยังอยู่ด้วยกันค่ะ  แต่ต้องตื่นเช้าเพราะเผื่อเวลาให้มันอาบน้ำด้วยค่ะ สงสารตัวเองมาก  ฮือๆ~
ง่วงก็ง่วง แต่ก็เบื่อที่จะพูด   ทุกวันนี้ กลับห้องดึก เพราะทำโอทุกวัน  กลับไปกว่าจะได้นอน ตี2 ถ้าเอาผ้าไปซักก็ต้องรอ เกือบตี 3
ทรมานเพราะไม่ได้นอนเยอะอย่างเคย ตาแดงนิดๆแล้ว  ไม่เหนื่อย แต่ล้า  เพลีย และอยากนอนเป็นที่สุด

ขอตัวกลับก่อน  พรุ่งนี้จะมาเล่าเรื่องให้พาสเวิร์ดเกมส์กับแฟนในเกมสื ออดิชั่น มันร้ายยังไงบ้าง  ให้ฟังกัน

ฝันดีค่ะ จ๊วบ
บันทึกการเข้า
ฟังๆ เคยเป็นเด็กติดเกมเหมือนกัน ตอนนี้ไม่ถึงกับติดแต่ยังเล่นครับ แต่โลกนี้มีอะไรน่าทำตั้งเยอะแยะมากกว่าเกมก็เลยเพลาๆไป

เกมที่ติดอยู่ตอนนี้ก็เกม civilization ละครับ  แต่มันก็มีประโยชน์เพราะทำให้มีเรื่องคุยกับพี่ที่สำนักงาน  คอเกมวางแผนเหมือนกัน  วันก่อนส่งสปายไป เงินในคลังเป็นหมื่นเหลือหลักร้อยเลย ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

โล่ง
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนไม่เล่นเกม ไม่เล่นเลยล่ะ
ความอดทนต่ำ ทนเล่นนานๆ ไม่ได้

เรื่องคนเล่นเกมเนี่ย จะห้ามกันมันยากนะ
ผมเนี่ย สู้รบกับพี่ชายมาหลายรอบแล้ว
ด้วยการทำให้ไม่สามารถเล่นเกมได้
ไม่ว่าเป็นการตั้ง pass word login จะเข้าเครื่อง
ซึ่งเมื่อก่อนนั้นยังเป็น win98
มัยยังไม่มีหน้า login เหมือน xp ปัจจุบัน
ผมเลยเขียนโปรแกรมๆ เล็กๆ ขึ้นมาในการ login เข้าใช้เครื่อง
รวมถึงการตั้งเวลาในการใช้เครื่องด้วย ถ้าเกินเที่ยงคืนจะ shutdown เครื่องเอง

โปรแกรมทำงานดีครับ มันคุมเครื่องคอมพิมเตอร์ได้
แต่มันคุมอารมณ์ของคนไม่ได้

ผมกับพี่ชายจึงมักมีปากเสียงกับเรื่องนี้กันบ่อยๆ
ที่ร้ายแรงที่สุดคือ พี่ชายพังคอมผม
มันเล่นไม่ได้เพราะโปรแกรมที่ว่า
เขาเลยขว้างเมาส์ พังคีย์บอร์ด กระชากสายจนเครื่องล้ม
พร้อมกับกระทืบผมอีก 1 ที  เอือม

สรุปคอมเสียครับ ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด เมาส์กับคีย์บอร์ดด้วย

ถ้าผมปล่อยให้เขาเล่นต่อไปเรื่อยๆ มันคงไม่เกิดอะไร
แต่เขาไม่เลิกเล่นนี่ พ่อแม่ฝากผมช่วยดูเขา ผมก็พยายามจะให้เขาเลิก
แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย
นอกจากจะทำให้ผมหมดศรัทธาในตัวพี่ผมเอง

แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วกับเหตุการณ์ดังกล่าว
แต่ทัศนคติต่อตัวพี่ชายในสายตาผม ทุกวันนี้มันยังไม่ลบออกไปเลย

กลายเป็นว่าตอนนี้ผมเป็นฝ่ายเฉยชากับเขาแทน เพราะร้านเกมที่เขาทำอยู่ทุกวันนี้
เขาต้องพึงพาผมในการที่จะดูแลเรื่องเครื่องเรื่องระบบ


นึกเรื่องเก่าๆ แล้วมันปรี๊ด
ตอนโดนกระทืบนั่นอยากจะสวนกลับเหลือเกิน
แต่ไม่กล้า กลัวเรื่องมันยาว กลัวแม่จะร้องไห้

 ไหว้
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
มาตามอ่านดู เล่นๆ น่ะครับ ได้ข้อมูลเรื่องเกมออนไลน์ ดี
ถ้าให้ดียิ่งขึ้น น่ามีข้อดีของมันบ้างนะครับ เช่น หมอแมวได้เรื่องแผนที่ การวางแผน
แต่ว่ามันเป็นกระจู๋ พูดถึงเกมออนไลน์แบบสีดำ นี่เนอะ (มหันตภัยในการติดเกมส์)
 ผมว่า(เจื๋อก) เราทุกคนน่ะ "ติด" อะไรก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ แต่มันมีดียังไงถึง "ติด" มันกันนัก

 แต่ก่อนเล่นเกมออนไลน์เพราะอยากรู้เล่น อยู่ 1 ปี กว่า ปัจจุบันเลิกเล่นแล้ว
อิ่มตัวกับมันมาก คิดว่าที่ติดเกมส์ออนไลน์น่ะ จริงๆ เพราะติดเพื่อนออนไลน์มากกว่า

ปัญหามาจากคน ไม่ได้มาจากเกมหรอก เกมเป็นโลกที่คนหวังและสนุกกับมัน แต่การยึดติดนี่อยู่ที่คุณภาพของคน
 ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

ไม่ว่าคุณจะรอบรู้ เก่งกาจ กล้าหาญ เท่าไหร่ ก็ไม่มีค่าอะไร ถ้าไม่มีใครรักคุณ
ของเดือนนี่จะถือว่าเป็นมหันตภัยแบบอ่อนๆ ป่าวหว่า

ตอนช่วงม.ปลาย ติดโอเทลโล่ล่ะ
เล่นแบบเอาเป็นเอาตาย เล่นเก่งด้วย
คือตอนเล่นเน็ตก็ไม่มีอะไรให้เล่นด้วยมั้ง (ไม่เหมือนตอนนี้)
ก็เลยเปิดแต่เว็บเล่นโอเทลโล่
ตอนม.5 เคยหนีแม่มากรุงเทพแล้วแม่จับได้ พาไปอยู่บ้านนอกในเชียงรายเดือนกว่า
จำได้ว่าทุรนทุรายมาก ไม่ได้เล่นเน็ต

ม.ปลาย ช่วงม.6 นี่ ค่อนข้างหนักเลย
นอนตีหนึ่งตีสอง แล้วบางทีไปเรียนไม่ไหวก็โดดคาบเช้า
ศุกร์เสาร์อาทิตย์โดดเรียนพิเศษก็บ่อย ทั้งๆ ที่ม.4 ม.5 ตั้งใจเรียนมาก
บางทีไปเรียนก็หลับในห้อง ยังดีเกรดไม่ตกเพราะเพื่อนช่วยไว้เยอะ
และโชคดีที่สอบติดทุนเลยไม่ได้เครียดอะไรเรื่องเอนทรานซ์

พอปี 1 มาก็ลำพองใจอีก คิดว่าม.6 รอดมาได้
ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรนอกจากของทุนในตอนปี 1 ก็เพราะอยากเล่นเกมนี่แหละ
(ตอนนั้นถูกทาบทามเป็นหลีดก็ไม่ยอมเป็นเพราะมันซ้อมดึก เดี๋ยวไม่ได้เล่นเกม แล้วก็ไปอ้างว่ากลัวเสียเรียน กร๊าก)

แล้วก็รอดออกมาได้เพราะเหตุผลบางอย่าง
และก็สำนึกเรื่องเรียนด้วยแหละ และเจออะไรที่น่าทำมากกว่า
เจอเว็บฟอนต์อะไรแบบเนี้ย ก็เพลาๆ ออกมา
ตอนนี้ถ้าไปเล่นโอเทลโล่ก็พอจำหลักการได้อยู่แต่ไม่เก่งเท่าเดิมแล้ว

ถามว่าเล่นโอเทลโล่ตอนนั้นมีข้อดีมั้ย มันก็มีนะ
เดือนเจอหลายๆ คนที่ดีๆ จากในนั้น
และตัวเกมมันก็สนุกน่ะ สนุกกว่าที่คิด
แต่ที่เสียใจก็คือเราทุ่มเทไปกับมันจนเกินไป จนเสียเรียน เสียโอกาส

ถ้าไม่มีโอเทลโล่ ไม่มีฟอนต์ เดือนว่าตัวเองคงจะเนิร์ดกว่านี้มากๆ
น่าจะเรียนเก่งกว่านี้แต่โคตรเนิร์ด อะไรทำนองนี้ล่ะ


ป.ล. ปังย่าก็เคยเล่นและชอบเล่นนะ แต่ไม่ถึงกับติดแฮะ
ส่วนออดิชั่น ไม่ชอบง่ะ
ตอนนี้ไม่พยายามเอาตัวเองไปเล่นเกมส์ออนไลน์เพราะกลัวติดนี่แหละ
แต่ปิดเทอมนี้ก็เล่นปังย่าบ้างนะ เล่นคลายเครียดไรงี้

//ตัดหน้า 2
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ส่วนตัวแล้วผมเป็นคนไม่เล่นเกม ไม่เล่นเลยล่ะ
ความอดทนต่ำ ทนเล่นนานๆ ไม่ได้

 หมีโหด~/
บันทึกการเข้า
พี่น้องคู่นี้เล่นกันแรงจัง

เป็นผมผมก็หมดศรัทธาครับ 
ถ้าเป็นผมคงต้องลองคุยๆเรื่องการพาเข้าไปบำบัดอาการติดเกมได้ละครับ  ถึงขนาดทิ้งอนาคตเพื่อสิ่งที่เป็นอิเล็กตรอนกระโดดไปมาแบบเกมนี่ผมว่าไม่ไหวแล้วหละ

กลับมาบ้าโลกจริงๆค่อยยังพอสบายใจหน่อย

คิดๆแล้วนึกถึงเรื่อง เดอะ แมทริกซ์เลย  แบบว่าคนติดเกมนี่เข้าไปอยู่ในโลกเกมใช่มั้ยครับ  พอออกมาก็เหมือนออกจากแมทริกซ์  แต่จริงๆแล้วไม่ใช่  โลกจริงๆมันก็เป็นเกมใหญ่ๆอีกเกมหนึ่ง  ต้องหลุดพ้นนิพพานจึงจะตื่นของจริง ไหว้

ของเดือนนี่จะถือว่าเป็นมหันตภัยแบบอ่อนๆ ป่าวหว่า

ตอนช่วงม.ปลาย ติดโอเทลโล่ล่ะ
เล่นแบบเอาเป็นเอาตาย เล่นเก่งด้วย
คือตอนเล่นเน็ตก็ไม่มีอะไรให้เล่นด้วยมั้ง (ไม่เหมือนตอนนี้)
ก็เลยเปิดแต่เว็บเล่นโอเทลโล่
ตอนม.5 เคยหนีแม่มากรุงเทพแล้วแม่จับได้ พาไปอยู่บ้านนอกในเชียงรายเดือนกว่า
จำได้ว่าทุรนทุรายมาก ไม่ได้เล่นเน็ต

ม.ปลาย ช่วงม.6 นี่ ค่อนข้างหนักเลย
นอนตีหนึ่งตีสอง แล้วบางทีไปเรียนไม่ไหวก็โดดคาบเช้า
ศุกร์เสาร์อาทิตย์โดดเรียนพิเศษก็บ่อย ทั้งๆ ที่ม.4 ม.5 ตั้งใจเรียนมาก
บางทีไปเรียนก็หลับในห้อง ยังดีเกรดไม่ตกเพราะเพื่อนช่วยไว้เยอะ
และโชคดีที่สอบติดทุนเลยไม่ได้เครียดอะไรเรื่องเอนทรานซ์

พอปี 1 มาก็ลำพองใจอีก คิดว่าม.6 รอดมาได้
ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรนอกจากของทุนในตอนปี 1 ก็เพราะอยากเล่นเกมนี่แหละ
(ตอนนั้นถูกทาบทามเป็นหลีดก็ไม่ยอมเป็นเพราะมันซ้อมดึก เดี๋ยวไม่ได้เล่นเกม แล้วก็ไปอ้างว่ากลัวเสียเรียน กร๊าก)

แล้วก็รอดออกมาได้เพราะเหตุผลบางอย่าง
และก็สำนึกเรื่องเรียนด้วยแหละ และเจออะไรที่น่าทำมากกว่า
เจอเว็บฟอนต์อะไรแบบเนี้ย ก็เพลาๆ ออกมา
ตอนนี้ถ้าไปเล่นโอเทลโล่ก็พอจำหลักการได้อยู่แต่ไม่เก่งเท่าเดิมแล้ว

ถามว่าเล่นโอเทลโล่ตอนนั้นมีข้อดีมั้ย มันก็มีนะ
เดือนเจอหลายๆ คนที่ดีๆ จากในนั้น
และตัวเกมมันก็สนุกน่ะ สนุกกว่าที่คิด
แต่ที่เสียใจก็คือเราทุ่มเทไปกับมันจนเกินไป จนเสียเรียน เสียโอกาส

ถ้าไม่มีโอเทลโล่ ไม่มีฟอนต์ เดือนว่าตัวเองคงจะเนิร์ดกว่านี้มากๆ
น่าจะเรียนเก่งกว่านี้แต่โคตรเนิร์ด อะไรทำนองนี้ล่ะ


ป.ล. ปังย่าก็เคยเล่นและชอบเล่นนะ แต่ไม่ถึงกับติดแฮะ
ส่วนออดิชั่น ไม่ชอบง่ะ
ตอนนี้ไม่พยายามเอาตัวเองไปเล่นเกมส์ออนไลน์เพราะกลัวติดนี่แหละ
แต่ปิดเทอมนี้ก็เล่นปังย่าบ้างนะ เล่นคลายเครียดไรงี้

//ตัดหน้า 2

เดือนได้รับการทาบทามเป็นหลีด  คนทาบทามนี่สายตาเฉียบแหลมมาก (แจ๋ว แจ๋ว)
บันทึกการเข้า

โล่ง
ตอนนั้นอดีตรุ่งโรจน์เว้ย
ไม่ได้อ้วนดำเหมือนตอนนี้ โวย
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
+ ให้นะเดือน  เจ๋ง
ได้ข้อคิดที่ต่าง และดู เป็นผู้ใหญ่ขึ้น เพราะจากที่เล่า น่ะ แปลว่าเข้าใจผู้อื่นมาขึ้นแล้ว จึงมองตัวเองออก
บันทึกการเข้า

ไม่ว่าคุณจะรอบรู้ เก่งกาจ กล้าหาญ เท่าไหร่ ก็ไม่มีค่าอะไร ถ้าไม่มีใครรักคุณ
ตอนนั้นอดีตรุ่งโรจน์เว้ย
ไม่ได้อ้วนดำเหมือนตอนนี้ โวย

อันนี้ชมจริงๆนะจ๊ะ ถ้าเดือนเป็นหลีดเราว่าดีจะตายไป  ไม่มีใครกล้าโดดแสตนด์เชียร์ ลันล้า
บันทึกการเข้า

โล่ง
ผมบ้าเกมนะ แต่ไม่ได้บ้าแบบชาวบ้าน

เล่นๆ ไปเรือ่ยๆ แล้วก็พยายามหาช่องโหว่ พยายามแกะโครงสร้างตอนเล่นตลอดเลย
บันทึกการเข้า

ชอบเล่นเกมส์แนววางแผนเหมือนหมอแมวครับ  นอกนั้นก็มีวินนิ่ง  ปลื้ม
บันทึกการเข้า
มรต่อตอนจบ (รึเปล่า) ตามที่รับปากไว้ค่ะ หมีโหด~

เอาละนะ


พอทำงานก็ต้องตื่นแต่เช้าเกือบทุกวัน ยกเว้นวันหยุด  พอมันได้ทำงานก็คิดว่าคงจะย้ายออกแยกกันอยู่
แต่มันบอกว่าจะแยกเพราะแฟนจะมาหา แต่มันไม่หาหอ ไม่ติดต่อ รอคนพาไปหา... จนถึงวันนี้

ปกติอยู่ด้วยกันก็ไม่มีปัญหาอะไรกันเลยนะคะ มันจะเป็นคนที่ดีมากๆคนนึงเลยถ้าตัดเรื่องเกมส์กับเรื่องผู้ชายของมันออกไป 

แต่ก็น่าเสียดายจริงๆ วันๆ ไม่เห็นชีวิตมีอะไร มีแต่เกมส์ เดี๋ยวนี้ มันไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟังแล้ว เพราะบอกมันว่า ไม่ต้องเล่า ไม่อยากฟัง      แต่มันไม่ได้เล่า แค่เปรยๆออกมาตอนอยู่สองคน  เฉยๆ หมีโหด~

มีปัญหา ขาดงานไป 2 วัน คิดจะลาออกไปกับแฟน(คนเก่าที่บอกว่าเลิกไปแล้ว) สิ้นเดือนเงินออก แฟนมาช่วยใช้ เงินหมด ขอแม่
ตอนนี้มีปัญหากันเพราะมันไม่รักษาคำพูด ไม่รักษากติกา มันเกือบจะได้ย้ายห้อง แต่มันไม่ย้าย เพราะไม่มีหอรองรับ แม่บอกไม่มีเงินก้อนมัดจำค่าหอให้ และบอกว่า "แม่ไม่อยากให้มันอยู่คนเดียวอยากให้มันอยู่กับบุ๋ม"  (แล้วบุ๋มล่ะ?)  และ ไม่อยากอยู่บ้านปู่ ที่อยุ่แถวบางเขน มันบอกว่า บ้านปู่เหมือนคุก (คุกที่มีแอร์ มีย่าทำกับข้าวอร่อยๆให้กิน มียูบีซี มีรถให้ขับ  ) แต่เหตุผลจริง ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ
มันเลือกที่จะอยู่อย่างไม่ค่อยสบาย แต่ได้เล่นเกมส์ 

พอเงินหมด แฟนกลับ ขอแม่ แม่ให้ ไปเจอแฟนกิ๊กกับสาวอีก เลิกอีก
โดนหักเงินเดือน บ่น เลยลดเล่นเกมส์ไปหน่อยนึง

ต่อมามีแฟนใหม่เป็นเด็กในเกมส์  ไปเล่นเกมส์ไปประชดแฟนเก่าในเกมส์ แฟนเก่าตามมาตบถึงกรุงเทพ และกลายเป็นแฟนกันอีกครั้ง

แม่มันชอบดูดวง เชื่อหมอดุ เชื่อพระ ทำพิธีแยกมันกับแฟน (แต่ไม่ห้ามเล่นเกมส์) หมดเงินไปหลายพัน แต่ก็มิได้นำพา   หมีโหด~

รู้สึกจะยาว สรุปเลยแล้วกัน 
ตอนนี้มันก็ยังเล่นเกมส์ ทุกวัน
ความเกรียน แน่นอน เพิ่มขึ้นไปตามวันเวลา เหมือนโดนดูดไปในโลกของเกมส์เกือบหมด มีชีวิตอยู่ในโลกของความจริงแค่ตอนทำงาน กับตอนหลับ
เริ่มพูดไม่เพราะจนกลายเป็นนิสัยหลักไปแล้ว
ทำตัวงุงิเหมือนไม่ใช่คนอายุ 22 ที่เรียนจบป. ตรี แล้ว เลยซักนิด  ทำตัวเหมือนเด็กอายุ 15 เพิ่งเคยมีแฟน ขี้งอน ขี้น้อยใจ และพูดไม่ชัด หมีโหด~
ถูกเด็กอายุไม่ถึง 15 จิกหัวเรียก ว่าอี..พูดมึงกูเป็นนิจ  ผัวเมียเป็นนิสัย  หยาบคายเป็นกิจาลักษณะ (หยาบแบบเกรียนๆ)
ไม่รู้ว่าอนาคตจะเอายังไงปล่อยให้มันเป็นไปตามเกมส์

สุดท้าย ถามว่า ทำไมบุ๋มถึงไม่ย้ายห้อง จะบ่นทำไม  ไปอยู่ที่อื่นซะก้สิ้นเรื่อง คำตอบคือ ขี้เกียจย้ายของ เสีบเวลา+เหนื่อย
และ แม่มันขอร้องว่าขอให้มันอยู่ด้วยไปก่อน  ฝากดูแลมันด้วย   หมีโหด~

สุดท้ายจริงๆ   รอให้ตัวเองเดือดร้อน จนมีเหตุผลพอ เพื่อที่จะได้ไม่รู้สึกผิด ค้างคาใจ บอกมันย้ายไปซะ  อย่างไม่แยแส

เพื่อนคนนี้ชื่อทรายด้วยแหละ สิบอกไห่ 555555555     



น่ากลัวโพด ๆ เลยอ้ะ!!!!  โวย
วงจรอุบาทว์ชัด ๆ

แม่เขาควรจะเด็ดขาดได้แล้ว
(ส่วนคุณบุ๋มนั้น จากที่เล่ามา รู้สึกว่าจะเด็ดขาดไปหลายหนแล้วแต่ไม่เกิดผล....)

เรื่องเล่นเกมแล้วทำให้ลักษณะนิสัยเปลี่ยนไปเนี่ย มีเรื่องจะเล่าเหมือนกันค่ะ แต่ยาวแน่ ๆ....




ของเดือนนี่จะถือว่าเป็นมหันตภัยแบบอ่อนๆ ป่าวหว่า

ตอนช่วงม.ปลาย ติดโอเทลโล่ล่ะ
เล่นแบบเอาเป็นเอาตาย เล่นเก่งด้วย
คือตอนเล่นเน็ตก็ไม่มีอะไรให้เล่นด้วยมั้ง (ไม่เหมือนตอนนี้)
ก็เลยเปิดแต่เว็บเล่นโอเทลโล่
ตอนม.5 เคยหนีแม่มากรุงเทพแล้วแม่จับได้ พาไปอยู่บ้านนอกในเชียงรายเดือนกว่า
จำได้ว่าทุรนทุรายมาก ไม่ได้เล่นเน็ต

ม.ปลาย ช่วงม.6 นี่ ค่อนข้างหนักเลย
นอนตีหนึ่งตีสอง แล้วบางทีไปเรียนไม่ไหวก็โดดคาบเช้า
ศุกร์เสาร์อาทิตย์โดดเรียนพิเศษก็บ่อย ทั้งๆ ที่ม.4 ม.5 ตั้งใจเรียนมาก

บางทีไปเรียนก็หลับในห้อง ยังดีเกรดไม่ตกเพราะเพื่อนช่วยไว้เยอะ
และโชคดีที่สอบติดทุนเลยไม่ได้เครียดอะไรเรื่องเอนทรานซ์

พอปี 1 มาก็ลำพองใจอีก คิดว่าม.6 รอดมาได้
ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรนอกจากของทุนในตอนปี 1 ก็เพราะอยากเล่นเกมนี่แหละ
(ตอนนั้นถูกทาบทามเป็นหลีดก็ไม่ยอมเป็นเพราะมันซ้อมดึก เดี๋ยวไม่ได้เล่นเกม แล้วก็ไปอ้างว่ากลัวเสียเรียน กร๊าก)

แล้วก็รอดออกมาได้เพราะเหตุผลบางอย่าง
และก็สำนึกเรื่องเรียนด้วยแหละ และเจออะไรที่น่าทำมากกว่า
เจอเว็บฟอนต์อะไรแบบเนี้ย ก็เพลาๆ ออกมา
ตอนนี้ถ้าไปเล่นโอเทลโล่ก็พอจำหลักการได้อยู่แต่ไม่เก่งเท่าเดิมแล้ว

ถามว่าเล่นโอเทลโล่ตอนนั้นมีข้อดีมั้ย มันก็มีนะ
เดือนเจอหลายๆ คนที่ดีๆ จากในนั้น
และตัวเกมมันก็สนุกน่ะ สนุกกว่าที่คิด
แต่ที่เสียใจก็คือเราทุ่มเทไปกับมันจนเกินไป จนเสียเรียน เสียโอกาส

ถ้าไม่มีโอเทลโล่ ไม่มีฟอนต์ เดือนว่าตัวเองคงจะเนิร์ดกว่านี้มากๆ
น่าจะเรียนเก่งกว่านี้แต่โคตรเนิร์ด อะไรทำนองนี้ล่ะ


ป.ล. ปังย่าก็เคยเล่นและชอบเล่นนะ แต่ไม่ถึงกับติดแฮะ
ส่วนออดิชั่น ไม่ชอบง่ะ
ตอนนี้ไม่พยายามเอาตัวเองไปเล่นเกมส์ออนไลน์เพราะกลัวติดนี่แหละ
แต่ปิดเทอมนี้ก็เล่นปังย่าบ้างนะ เล่นคลายเครียดไรงี้

//ตัดหน้า 2


โออย่างอึ้งเลยค่ะคุณเดือน
เป็นหนักขนาดนั้นยังกลับใจได้นี่ยอดคนนะเนี่ย
ขอปรบมือให้ดัง ๆ เลยอ้ะ  (แจ๋ว แจ๋ว)

คิดว่าถ้าเล่นแบบพอดี ๆ ไม่เสียการเรียน ปัจจุบันนี้อาจจะยังเล่นอยู่หรือเปล่าคะ?
ส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้ายังเล่นอยู่อาจจะดีและสนุกสนานมากกว่านี้ก็ได้นะ
เพราะเกมกระดานแบบนั้นมันลับสมองอ่ะค่ะ แถมพอเล่นแบบออนไลน์แล้วยิ่งทำให้เจอคนมากหน้าหลายตาขึ้นด้วย
น่าจะเป็นประสบการณ์ที่ดีนะคะ




เรื่องเกมส์นี่ของผมอาจจะถือว่าโชคดีหน่อยนึง
เพราะแรกเริ่มที่เล่นเกมส์PCตั้งแต่3-4ขวบ โดนปลูกฝังให้เล่นเกมส์แนววางแผน
ทีนี้เจ้าเกมส์พวกนี้มันได้ภาษากับความรู้มาก
สมัยที่เล่นเกมส์ Civilization ก็ได้เรียนรู้ศัพท์ต่างๆกับความรู้ทั่วไปมากมาย
เล่นUnCharted water จนกระทั่งเขียนแผนที่ยุโรปได้ กร๊าก เขียนแบบลงเมืองท่าได้ตั้งแต่อยู่ม.2  กร๊าก
แล้วก็อีกหลายๆเกมส์ที่เล่นแล้วได้ความรู้
สิ่งที่แลกกันคือเวลาในช่วงวัยเด็ก ... ที่มีเพื่อและความรู้บางอย่างของคนวัยเดียวกันน้อย
แต่ให้ย้อนกลับไปใหม่ ผมก็ยังจะเล่นอยู่นะ เพราะตอนนี้ดูแล้ว ของผมน่ะคุ้ม   อืมมมมห์

แล้วพอย้อนมองดีๆ พ่อผมเองนั่นแหละที่น่าจะเป็นคนวางแผนไว้แต่เริ่มต้น ... เลือกสรรแต่ละเกมส์มา  โวย เด็กวัยเดียวกันไม่เห็นมีใครเล่นเลย

แต่พอมองเด็กบางคนเดี๋ยวนี้ เล่นเกมส์ดูดเวลาเหมือนผม แต่ดูแล้วไม่ได้อะไรนอกจากความสนุกเลยนี่มัน  ฮือๆ~



ขำประโยคนั้นค่ะ คุณพ่อคือผู้อยู่เบื้อหลังทั้งหมด ฮา....

ตอนม.ต้น คุณพ่อโมจิก็หาเกม Dunes มาให้เล่นเหมือนกันค่ะ....
แต่เล่นแล้วไม่รุ่ง เอิ๊ก ๆ ๆ กลายเป็นว่าน้องชายเล่นเก่งแทน T-T
กว่าจะเล่นจบเคลียร์ story mode นี่แทบรากเลือด

พูดถึงเกมที่เล่นตอนเด็ก ๆ พอมาตอนนี้ลองมองย้อนกลับไปดู รู้สึกว่าได้อะไร ๆ จากเกมเยอะเหมือนกัน โดยเฉพาะเรื่องน้ำใจนักกีฬา รวมทั้งความสามัคคี
นี่ก็เพิ่งเขียนบล็อกไป 1 entry เรื่องเกมค่ะ
ถ้ายังไงขอเชิญชาว F0nt ไปร่วมรำลึกความหลังด้วยกันนะคะ  ไหว้
http://valentino.exteen.com/20080513/entry
บันทึกการเข้า
เคยติดเกม แต่ไม่เสียการเรียนเพราะแม่เข็ญ

ไม่งั๊นโดดเรียนบ่อยครับ

ปกติผมจะไมี่เล่นเกมอยู่แล้ว แต่เพื่อนมันเล่นกันทั้งห้องเลยเออออกันได้ จะได้คุยกันได้

ตอนแรกก็ SF (เล่นเดทแมชได้ที่ 1 ตลอดเลย หุๆ) มาเลิกเล่นตอนโปรวิ่งระบาด เลยเอามั่ง แล้วรู้สึกส่าไม่สนุกไปเลย ถ้าโกง เลยเลิก

ถัดไปไม่นานคาบาลออก กระแสแรงมาก

อดใจไม่ไหวเลยเล่น เติมเอแคชไปร่วม 5000 ได้  ง่ะ

(แต่เก็บเงินเอง +แอบหารายได้พิเศษนิดๆจากการพนัน  (อิอิ))

พอเล่นถึงเลเวล 100 กันหมดกิลด์ ก็อิ่มตัว เบื่อขึ้นมาดื้อๆ เลยเลิก

ใกล้โควตาแล้วด้วย แม่บ่นทุกวันเลยหันมาอ่านหนังสือสอบ

เป็นช่วงที่ขยันที่สุดในชีวิต เพิ่งรู้ส่าวิชาคณิตมันสนุกอย่างนี้นี่เอง



เดี๋ยวนี้เพื่อนชวนเล่นลูน่าอีกละ(แอบเอามาลงโน๊ตบุ๊คให้ด้วย ง่ะ)

แต่กลัวอดใจไม่ไหวเดี๋ยวได้เสียเงินอีก ค่าเทอมแพง เลยตัดใจไม่เล่นครับ


ตอนนี้ "ติด" อะไรเหรอ ติดไอ่ Ikariam.org นี่อ่ะครับ  กร๊าก
บันทึกการเข้า

ชื่อ Earth ครับ เรียกเอิดก็ได้ | Earthchie's Blog
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8 9 10 ... 30
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!