บทที่ ๔ ใช้ชื่อ ประโยชน์จากการตั้งชื่อยังมีอีกครับ คือ การใช้ชื่อ
ตัวอย่างเลยแล้วกันสมมติให้เดือนเป็นเจ้ามือหวยและแชร์ แต่เผอิญขี้เกียจ จึงว่าจ้างให้หนุ่มเป็นเด็กเดินเก็บเงินให้
โดยต้องจ่ายค่าจ้างเป็น ๕๐ % ของค่าหวยที่เก็บได้ และค่าโอเลี้ยงดับกระหาย ๑๐๐ บาท
แต่ก่อนที่หนุ่มจะส่งเงินที่เก็บได้ให้เดือนนั้น เจอะนายแอนที่เรียกค่าคุ้มครอง ๑๐ บาท
ดังนั้นเดือนจะได้เงินกี่บาท?

๑. ขั้นแรก ทำฐานข้อมูลลูกค้าก่อนตามโพย

โดยปกติช่องรวม เราจะใช้
=SUM(พื้นที่สีส้ม) แต่ผมทำการตั้งชื่อให้พื้นที่สีส้มนั้นชื่อ
"ค่าหวย"ดังนั้น ในช่องรวม ผมจึงพิมพ์ใส่ว่า
=SUM(ค่าหวย) แทน (นี่คือวิธีแรก คือพิมพ์ชื่อใส่ไปในสูตรได้เลย ถ้าเราจำชื่อที่ตั้งไว้ได้)
และในช่องรวมค่าหวย ผมก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า
"รวมค่าหวย" ด้วย

ส่วนค่าแชร์ก็ทำเหมือนกัน
๒. เมื่อได้ฐานข้อมูลแล้ว เราก็มาแจกแจงรายจ่ายที่ต้องเสียไป พร้อมทั้งตั้งชื่อให้ด้วย ตามรูปเลย

๓. มาดูส่วนของเจ้ามือ

ไปที่ช่องค่าหวย ช่องนี้คือเงินค่าหวยทั้งหมดที่ได้รับ หรือ
"รวมค่าหวย" ที่เราได้ตั้งชื่อกันไว้แล้วในข้อ ๑
ดังนั้น เราก็จะพิมพ์
= แล้วตามด้วย F5 เลือกที่ "รวมค่าหวย" (นี่คือวิธีที่สอง คือใช้ F5 ในกรณีที่จำชื่อไม่ได้ หรือขี้เกียจพิมพ์)

แล้วกด Enter ๒ ทีก็เสร็จแล้ว
๔. ที่ช่อง ค่าแชร์ และ ผู้คุ้มครอง ก็ทำเหมือนกับข้อ ๓ นะ ลองดู

๕. ต่อมาที่ช่อง เด็กเดิน
เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า จำนวนเงินที่ต้องจ่ายให้เด็กเดิน ก็คือ
๕๐ % จากค่าหวยที่เก็บได้ทั้งหมด รวมกับ ค่าโอเลี้ยงเมื่อแปลงเป็นสูตรจะได้ว่า
(รวมค่าหวย * (เปอร์เซ็นต์ค่าหวย / 100)) + ค่าโอเลี้ยง เราก็ใส่ไปเลย
ด้วย วิธีพิมพ์ หรือ F5 ก็ได้

๖. อันนี้ลองเปรียบเทียบดูระหว่างการใช้ชื่อจากชื่อที่ได้ตั้งไว้ กับ แบบไม่ได้ตั้งอะไรเลย จะเห็นว่ามันดูรู้เรื่องและเป็นภาษาคนมากกว่า


๗. อยากรู้ว่าเดือนจะได้เงินเท่าไหร่? จะขาดทุนหรือไม่? ก็ใส่กันได้เลยที่ช่อง รายได้สุทธิ ตามสะดวกครับ
อันนี้ฝากไว้เป็นการบ้าน ครั้งหน้าจะมาเฉลยพร้อมทริค

ขอบคุณนักแสดงรับเชิญในจู๋ทุกท่านครับ
