ขอบคุณสำหรับคำติชมครับ
จริงๆ แล้วรูปฟ้าจ๋าฟ้าเนี่ย สถานที่ที่ถ่ายมันมีข้อจำกัดมากๆ ในการเลือกกรอบภาพ
สังเกตตรงขอบขวาสุดของภาพก็ได้ มันจะเห็นขอบตึกโผล่มานิดนึง
นั่นคือเลือกมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว จะทำแนวนอนก็ติดอะไรเต็มไปหมดเลย เช่นหลังคาปั๊ม ฯลฯ
อันนี้เป็นอีกอันที่เสียดายถ้าจะไม่ได้โพสต์ลง ก็เลยเอาซะหน่อย
เพียงแต่มันไม่มีสีฟ้าเข้ามาให้เปรียบเทียบ เลยเอาเป็นรูปทางเลือกดีกว่า
เทคนิคทั้งสองภาพ ใช้โหมด Tv ถ่ายแล้วให้มันสับชัตเตอร์เร็วๆ ครับ
จะได้ไม่สว่างมาก แล้วก็เก็บรายละเอียดในส่วนมืดได้มากขึ้น
แล้วปรับค่าแสงไปให้อยู่ด้านลบๆ จะได้มืดกว่าปกติหน่อย
กว่าจะปรับเสร็จ พระอาทิตย์ก็ขยับไปแล้ว 5 เซ็นต์ จะต้องวิ่งหามุมใหม่อีก
ภาพของอู๋สวยดีครับ
สังเกตว่าตูชอบทักเรื่องการตั้งชื่อภาพบ่อยๆ
เพราะบางครั้งเราจะเห็นว่าเรื่องในภาพมันไม่ได้ไปกับชื่อ(หรือใช้วิธีแถเอา
)
แต่อันนี้สอดคล้องกันดีจริงๆ ครับ คือดูแล้วไม่สงสัย ว่ามันจะเป็นอะไรได้อีกนอกจากอัญมณี
คือ เห็นรูปนี้แต่แรกแล้ว และก็เห็นคำสมอ้างแล้วด้วย
เลยไม่ได้ติอะไร เหมือนประมาณคนถ่ายรู้อยู่แล้ว
ข้อเสียมันอยู่ตรงไหน
คือถ้ารูปนี้ไม่ตั้งชื่อ ที่มีคำว่าฟ้า
ก็คงไม่รู้เลย ว่าถ่ายรูปฟ้า และกระจกกำลังทำหน้าที่อะไรอยู่
ตูยังนึกว่า สงสัยแอนถ่ายรูปไฟไหม้
เออดี คนเดือดร้อน ก็ยังเอามาเล่นได้นะเอ๊ง
รูปภาพที่ดี มันน่าจะเล่าเรื่องได้ โดยไม่ต้องมีชื่อภาพ มาชี้นำ(ซึ่งตูทำบ่อย)
ถึงแม้ภาพมันสวยดี แปลกตา แต่ไม่รู้ว่าจะสื่ออะไร
จานแอน ผู้เชี่ยวชาญด้านโป๊ดสะก๊าด น่าจะเข้าใจดีใช่ไม๊
เทียบกับรูปแรกแล้ว ที่มีท้องฟ้าสีสวย สะท้อนในกระจกบนตึก
เล่าเรื่องราวผ่านกระจกสีแปลกตา สะท้อนฟ้ามาให้เห็น
ออกมาเป็นอีกสีนึง น่าสนใจ น่ามอง