ผมเคยอ่านของอาจารย์เทพอ่ะ มีบางส่วนที่สอดคล้องกับที่ผมรับรุ้มา
ว่าด้วยเรื่องสิ่งมีชีวิตต่างดาว มีการพัฒนาด้านวัตถุและจิตใจไปพร้อมๆกัน
ทำให้ การเดินทางเคลื่อนที่ไปไหน ได้อย่างใจนึก
แต่เท่าที่อ่าน ดูที่ลุงแน็กเอามาให้อ่าน ถ้าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง
ผมลองคิดเอาเองว่า
กฎจักรวาลหรือกฎธรรมชาติเนี่ยมันต้องอยุ่เหนือสิ่งมีชีวิตทุกๆจักรวาลแน่เลย
เพราะถ้าเขาบอกว่าเขาเป็นเช่นมนุษย์เหมือนกัน มี แก่เจ็บตายเหมือนกัน
การพัฒนาด้านจิตใจถึงจะสูงแค่ไหน ผมว่า แม้โทสะ โลภะ
จะหมดไปแต่ในฐานะสิ่งมีชีวิตจะต้องเหลือโมหะไว้บ้างไม่มากก็น้อย
เขาอาจจะเข้าใจไม่ถูกหมดเรื่องกฎจักรวาลที่ผมคิดเล่นๆว่า
ต้องอยุ่ภายใต้กฎธรรมชาติเดียวกันที่มนุษย์บนโลกได้รับ
ดังนั้น ถ้าเขาพัฒนาจิตใจขนาดนั้น เขาจะมีวิธีการกำจัดคนเลวที่เขาบอก
ได้อย่างดีไม่มีแปดเปื้อน
แล้วจากที่อ่าน รู้สึกว่า สังคมมนุษย์ต่างดาวเป็นสังคมบริสุทธิ์จริงๆ
เพราะทุกอย่างตรวจสอบได้ แสงที่เขาบอกคงหมายถึงรัศมีที่ออกมารอบตัวเอง
ที่เกิดจากสภาวะจิตใจ หรือเรียกว่ากำลังของจิต ซึ่งข้อนี้มนุษย์ก็มี
เพียงแต่ว่าไม่สามารถเห็นหรือพิสูจน์ได้ด้วยตาหรือคนธรรมดาทั่วไป
แต่ที่ ที่สังคมมนุษย์ต่างดาวเขาสามารถเห็นของกันและกันได้
ผมว่าคงเป็นเพราะต่างคนต่างมีจิตใจอยุ่ในระดับเดียวกัน
มีกำลังจิตที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานในรูปแบบเดียวกัน
จริงๆแล้ว มนุษย์เราก็มีสิ่งเหล่านี้ไม่แพ้มนุษย์ต่างดาวจากข้อความของ อ. เทพ
แต่เราไม่เลือกที่จะพัฒนาทางด้านนี้ เราเลยมองว่ามันอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้
แต่เรากลับเลือกที่จะเชื่อว่า มนุษย์ต่างดาวมียานกวกาศที่มีการขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลโยขั้นสูงทำให้
ไปไหนต่อไหนได้ดีกว่าที่มนุษย์ทำ ที่เราเลือกเชื่อแต่เรื่องวิทยาการ ก็เพราะพวกเราเลือกที่จะพัฒนาเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่ต้นแล้ว
แล้วเรากลับมองว่าคนที่เขาพัฒนาด้านจิต เป็นคนบ้า เพราะพิสูจน์ไม่ได้ด้วยวิทยาการ หรือวิทยาศาสตร์
ซึ่งไอ้วิทยาศาสตร์นี่แหละที่ดูเหมือนจะเป็นเครื่องมือชิ้นเดียวของพวกเราในการตัดสินทุกอย่างบนโลกมนุษย์ได้
เพราะวิทยาศาตร์มาจากหลักของเหตุผลและการทดลอง ของมนุษย์เอง ย้ำว่าของมนุษย์เองด้วยนะ ฮ่าๆ
นี่คือความเป็นจริงที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์เรา จริงๆนะเออ