หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9 10 11 12 13 ... 43
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ถอดเพลง  (อ่าน 558604 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้



มาแล้วครับ นกเขาของอุ้ย
เขียนไว้สักสองปีที่แล้วมั้งครับ
เนียนคุยกับอุ้ยได้เพราะเพลงนี้แหละ เกย์แอบ
ยาวมากนะเออ บอกไว้ก่อน กร๊าก

คูคคูรูค.คุคคู.รร... พิราบเอ๋ย ..



Talk To Her หรือ Hable con Ella
ภาพยนต์ระดับมาสเตอร์พีซที่ลืมไม่ลงของ
เปรโด อัลโมโดบาร์ ผู้กำกับที่โด่งดังที่สุดของเสปน
คงจะนำพาความรันทด สู่ใจผู้ชมพร้อมกับความตื่นตะลึง
ในวิธีการเล่าเรื่องที่แสนงามสง่าเหมือนหงส์ที่ปรากฏกาย
กลางท้องถนนที่พลุกพล่านเหมือนกับเป็นดวงตะวัน
ที่ค่อยๆ ปรากฏกายก่อนจะลาลับท่ามกลางผืนดินสีส้ม
ที่ทอดยาวของเสปน



แต่สิ่งหนึ่งที่หลายๆคนคนอาจจะติดใจเสียยิ่งกว่าตัวหนัง
เห็นจะเป็นฉากๆหนึ่งในเรื่อง นางเอกพาพระเอกไปที่งานเลี้ยง
แห่งนึงซึ่งจัดที่สวนหน้าบ้าน ผู้คนกำลังล้อมวงฟัง
นักดนตรีดีดกีตาร์สไตล์ละติน ที่เรียกกันว่า El Mariachi
นักดนตรีที่แต้มใบหน้าเฉยเมยด้วยริ้วรอยกำลังร้องเพลงเสปน
เพลงหนึ่ง ฉากนี้ผู้กำกับจงใจทิ้งไว้อย่างยาวนาน
จนจวนจะกลายเป็นการถ่ายทำคอนเสิร์ต

จนเรา(หรือใครก็ตามที่ฟังมันร้องไม่ออก)
คงข้องใจว่ามันมีความหมายขนาดนั้นเลยเหรอ


(ภาพประกอบ แค็ปมาจากดีวีดีด้วยตัวเอง ห้ามจำหน่ายจ่ายแจก)

แม้จะฟังไม่ออก แต่พอเพลงแล่นมาถึงท่อนฮุค
ความหอมหวนอ้อยอิ่ง ของท่วงทำนองนั้น
ก็แทบเข่นฆ่าลมหายใจผู้ฟังให้ขาดผึง!
แล้วในเรื่อง พระเอกก็น้ำตาไหลออกมา

ไม่ได้ร้องไห้ด้วย แค่น้ำตาไหล.


ฉากนี้จบลงที่พระเอกเดินหนีออกมาจากกลุ่มคน
คล้ายกับทนฟังต่อไม่ได้ แล้วเรื่องก็ดำเนินต่อไปในอีกทิศทางหนึ่ง

นับจากดูครั้งแรกเราก็เก็บความสงสัยมาเป็นเวลาหลายปี
ว่าเพลงนั้นมันคืออะไร จนอินเตอร์เน็ตมีกูเกิ้ล(นานไปป่าววะ)
และโลกนี้มีโปรแกรมโหลดเพลง(เพราะคงหาซื้อไม่ได้)
เราจึงได้ฟังเพลงนี้เต็มๆเมื่อไม่นานมานี้
ความรู้สึกลมหายใจแทบหมดตอนฟังก็ไม่ต่างจากเดิม

เพลงนี้ชื่อ Cucurrucucu Paloma เป็นเพลงดั้งเดิมของเสปน
และเป็นที่รู้จักทั่วโลกละติน มีการนำไปขับร้องหลายต่อหลายเวอร์ชั่น
นับกันไม่หวาดไม่ไหว ก็ประเทศที่ใช้ภาษาเสปน บนโลกเรามีมากมาย
เปรียบไปก็น่าจะคล้ายๆเพลงของสุนทราภรณ์ที่ถูกร้องซ้ำแล้วซ้ำอีก

ใน Talk to Her คนที่ร้องในฉากนั้นคือ Caetano Veloso
ศิลปินเสปนที่มีชื่อเสียง ให้เกียรติมาแสดงเอง
มาพรมลมหายใจที่อ่อนหวานลงบนเส้นกีตาร์ที่บางเฉียบสะกดฉากๆนั้น
ส่วนตัวเพลงดั้งเดิมแต่งโดย Tomás Méndez เมื่อกว่า 40 ปีมาแล้ว
ใครก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ และยิ่งได้พบเวอร์ชั่นต่างๆของเพลงนี้
ยิ่งพบว่า เราเคยได้ฟังมันแล้วหลายครั้ง ในภาพยนต์หลายเรื่อง
ตั้งแต่ El Mariachi หนังต้นฉบับดั้งเดิมในตอนที่ไม่มีทุน
ของหนังดังโคตรๆอย่าง Desperado ของโรเบิร์ต โรดิเกวซ



และที่เจ๋งมากๆคือมันเคยปรากฏในหนัง Happy Together
ของหว่องกาไวเสียด้วย แน่นอนหนังเรื่องนี้เป็นเหมือนโปสการ์ด
ที่ซึมเศร้าของหว่อง จากบัวโนสไอเรส-อาร์เจนติน่า
เพลงๆนี้จึงเป็นเหมือนน้ำเสียงที่แจ่มชัดของเมืองหลวง
แห่งโลกละตินแห่งนี้


นี่เป็นฉากดังกล่าวในเรื่อง Talk to Her
และต่อจากนั้นคือความพยายามในการถอดความ
เป็นภาษาไทย เพื่อจะได้เข้าใจสักทีว่าความหมาย
ของเพลงนี้ต่อหนัง หลายต่อหลายเรื่องที่มันไปปรากฏ
คืออะไรกันแน่

<a href="http://www.youtube.com/v/a9kRUY4WLFI&amp;hl" target="_blank">http://www.youtube.com/v/a9kRUY4WLFI&amp;hl</a>

Cucurrucucu Paloma

Dicen que por las noches
Nomas se le iba en puro llorar,
Dicen que no comia,
Nomas se le iba en puro tomar,
Juran que el mismo cielo
Se estremecia al oir su llanto;
Como sufrio por ella,
Que hasta en su muerte la fue llamando

Ay, ay, ay, ay, ay,... cantaba,
Ay, ay, ay, ay, ay,... gemia,
Ay, ay, ay, ay, ay,... cantaba,
De pasión mortal... moria

อายยา.ยายยา ยาา.. คนตาบา
อายยายาย.ยา ย..ยา เกมีอาาา
อายยายา..ยยา ยา า.. คนตาบา
เด ปาสิอน มนตราล มอรีอา...

Que una paloma triste
Muy de manana le va a cantar,
A la casita sola,
Con sus puertitas de par en par,
Juran que esa paloma
No es otra cosa mas que su alma,
Que todavia la espera
A que regrese la desdichada

Cucurrucucu... paloma,
Cucurrucucu... no llores,
Las piedras jamas, paloma
¡Que van a saber de amores!
Cucurrucucu... cucurrucucu...
Cucurrucucu... paloma, ya no llores


คูคคูรูค.คุคคู.รร... ปาโลมา
คูคคูรูคคุ..คู.รรร..ร.. โน โญเรลเลสฺ
ลาสฺ ปิเอดราสฺ ญามาสฺ ปาโลมา
เก แฟนา ซาเบรฺ เด อาโมเรสฺ
คูคคูรูคคุ..คู.รรร..ร.. คูคคูรูค.
คุคคู.รร คูคคูรูค.คุคคู.รร... ปาโลมา ยา โน โญเรลเลสฺ


ถอดความ

เสียงลือเสียงร่ำกัน ว่ายามค่ำคืน
เจ้าได้แต่ร้องร่ำคร่ำครวญ
ซ้ำเจ้ายังไม่ยอมนอนยอมกิน
ได้แต่ดื่มเหล้าเสียเมามาย
ฟังสิฟัง แม้เบื้องบนยังหลั่งหยาดฝน
ยามยินเสียงเจ้าน้ำตานอง
ขมขื่นเพียงใดหรือ...เจ้าเอย
นางลาลับไปพร่ำเรียกเจียนตาย มิหวนคืน

อายยา.ยายยา ยาา.. เจ้าร้องเพลง
อายยายาย.ยา ย..ยา เจ้าร้องไห้
อายยายา..ยยา ยา า..เจ้ายังร้องเพลง
เจ้าร้องเจียนตาย ใยเล่าเขาไม่เหลียวมอง

พิราบกระพือปีกซึมเศร้า
โผผินมามาผิวเพลงยามเช้านั่นอย่างไรเล่า เจ้าเอย
สู่เรือนหลังน้อย
สู่หน้าต่างบานกว้าง เปิดอ้า
ร่ำร้องกันว่า พิราบนั้นใยช่างเหมือนตัวเจ้าเล่า
ซึมเศร้าถึงวิญญาณ
มันยังเฝ้ารอนางนั้นหวนกลับ โอ...

คูคคูรูค.คุคคู.รร... พิราบเอย
คูคคูรูคคุ..คู.รรร..ร.. อย่าร้องไปเลย
ก้อนหินมิอาจร่ำไห้ รู้บ้างไหม พิราบเอย
เจ้ารู้อันใดบ้างไหมเล่า ในเรื่องรัก .



...............

พยายามคงอรรถรสเนื้อความเดียวกับอารมณ์เพลง
ให้มากที่สุดเท่าที่ความสามารถจะมีแล้วล่ะครับ
ชื่อเพลงที่ฟังดูตลก คูคูรุคุคู ปาโลมา
ไม่ได้แปลว่าปลาโลมา แต่มันคือ นกพิราบและ
เสียงนกพิราบขันคูนั่นเอง คงคล้ายๆ
โน่นแน่ะนกเขาคู จุ๊ก จุ๊กกรูบ้านเรา
แต่นี่เป็นนกพิราบ กระพือปีกบินมาปลอบ
ชายหนุ่มที่เจียนตายเพราะสูญเสียความรักไป

ผมตีโจทย์ว่ามันเหมือนกับเพลงทูล ทองใจ หรืออะไรยุคนั้น
ดูจากอายุอานามของเพลง และความอมตะ เทียบกันได้ตามนั้นเลย
เลยอยากแปลให้มันออกมาโบราณและภาษาคร่ำครวญแบบเดียวกัน
ไม่รู้ว่าสำเร็จไหมนะครับ (เหงื่อแตกพลั่ก)



เอ้อ ถ้าอุตส่าห์อ่านมาถึงตรงนี้ถือว่าเก่งครับ ขอบคุณมาก กร๊าก





รักเก้อร์ จุ๊ฟๆ กรี๊ดดดดด เกย์ออก+


บันทึกการเข้า

งบน้อย
ไม่มีความสามารถด้านภาษา แต่อยากรู้ความหมายเพลงนี้ครับ  กรี๊ดดดดด


Can't Smile Without You
Barry Manilow

You know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you

You came along just like a song
And brightened my day
Who would have believed that you were part of a dream
Now it all seems light years away

And now you know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile

Now some people say happiness takes so very long to find
Well, I'm finding it hard leaving your love behind me

And you see I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel glad when you're glad
I feel sad when you're sad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you


ผู้ใดใจดีถอดความให้หน่อยครับ  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
Can't Smile Without You
Barry Manilow

You know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you

เธอรู้ดีว่าฉันไม่อาจยิ้มได้หากไม่มีเธอ
ฉันไม่อาจยิ้มหากปราศจากเธอ
ฉันไม่อาจหัวเราะ และไม่อาจร้องเพลง
ฉันพบว่ามันยากยิ่งนักที่จะทำสิ่งใดๆ
เธอก็เห็นว่าฉันเศร้ายามเธอเศร้า
ฉันยินดีเมื่อเธอยินดี
ถ้าเพียงแต่เธอรู้ว่าฉันกำลังเผชิญกับอะไร
ไม่มีเธอฉันไม่อาจยิ้มได้เลย

You came along just like a song
And brightened my day
Who would have believed that you were part of a dream
Now it all seems light years away

เธอเข้ามาเปรียบเหมือนเพลงซักเพลง
ที่ส่องสว่างให้กับวันของฉัน
ใครจะเชื่อว่าเธอเคยเป็นส่วนหนึ่งในความฝัน
ซึ่งตอนนี้ดูราวกับว่าอยู่ห่างออกไปหลายปีแสง

And now you know I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel sad when you're sad
I feel glad when you're glad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile

เธอรู้ดีว่าฉันไม่อาจยิ้มได้หากไม่มีเธอ
ฉันไม่อาจยิ้มหากปราศจากเธอ
ฉันไม่อาจหัวเราะ และไม่อาจร้องเพลง
ฉันพบว่ามันยากยิ่งนักที่จะทำสิ่งใดๆ
เธอก็เห็นว่าฉันเศร้ายามเธอเศร้า
ฉันยินดีเมื่อเธอยินดี
ถ้าเพียงแต่เธอรู้ว่าฉันกำลังเผชิญกับอะไร
ไม่มีเธอฉันไม่อาจยิ้มได้เลย

Now some people say happiness takes so very long to find
Well, I'm finding it hard leaving your love behind me

ในตอนนี้บางคนกล่าวว่าความสุขนั้นใช้เวลานานกว่าจะหาพบ
ฉันพบว่ามันยากยิ่งนักที่จะทิ้งความรักของเธอไว้เบื้องหลัง

And you see I can't smile without you
I can't smile without you
I can't laugh and I can't sing
I'm finding it hard to do anything
You see I feel glad when you're glad
I feel sad when you're sad
If you only knew what I'm going through
I just can't smile without you

เธอรู้ดีว่าฉันไม่อาจยิ้มได้หากไม่มีเธอ
ฉันไม่อาจยิ้มหากปราศจากเธอ
ฉันไม่อาจหัวเราะ และไม่อาจร้องเพลง
ฉันพบว่ามันยากยิ่งนักที่จะทำสิ่งใดๆ
เธอก็เห็นว่าฉันยินดียามเธอยินดี
ฉันเศร้าเมื่อเธอเศร้า
ถ้าเพียงแต่เธอรู้ว่าฉันกำลังเผชิญกับอะไร
ไม่มีเธอฉันไม่อาจยิ้มได้เลย

*******
ภาษาบ้านๆ เลยนะคะ..  ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า

ฉันคงปราศจากรอยยิ้มหากไม่มีเธอ  ปลื้ม
บันทึกการเข้า







Love will keep us alive โลกหมุนด้วยความรัก


I was standing
All alone against the world outside
You were searching
For a place to hide

โดดเดี่ยวเดียวดาย
ฉันต่อสู้กับทั้งโลกเพียงลำพัง
เสาะสนค้นหา
เธอไขว่คว้าเพียงสถานพักกาย


Lost and lonely
Now you've given me the will to survive
When we're hungry... love will keep us alive

เคยอ้างว้างหลงทาง
แต่เธอคือแสงสว่างชี้ทางให้ฉัน
แม้ยามหิวโหย ความรักจะโอบอุ้มเรา


Don't you worry
Sometimes you've just gotta let it ride
The world is changing
Right before your eyes

อย่ากังวลเลย
บางเรื่องราวควรไหลตามกาล
หมุนเวียนเปลี่ยนผัน
โลกแปรไปไม่เว้นวัน


Now I've found you
There's no more emptiness inside
When we're hungry...love will keep us alive

เราสอง
ต่างเติมเต็มให้กันและกัน
แม้ยามหิวโหย ความรักจะโอบอุ้มเรา


I would die for you
Climb the highest mountain
Baby, there's nothing I wouldn't do

แม้นต้องตาย
หรือปีนป่ายผาสูงชัน
ที่รัก ฉันพลีกายเพื่อเธอ


I was standing
All alone against the worlk outside
You were searching
For a place to hide

โดดเดี่ยวเดียวดาย
ฉันต่อสู้กับทั้งโลกเพียงลำพัง
เสาะสนค้นหา
เธอไขว่คว้าเพียงสถานพักกาย


Lost and lonely
Now you've given me the will to survive
When we're hungry...love will keep us alive
When we're hungry...love will keep us alive
When we're hungry...love will keep us alive

เคยอ้างว้างหลงทาง
แต่เธอคือแสงสว่างชี้ทางให้ฉัน
แม้ยามหิวโหย ความรักจะโอบอุ้มเรา



ไม่มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับเพลงครับ ขี้เกียจกูเกิ้ล หมีโหด~


บันทึกการเข้า

งบน้อย
ขอบคุณแอ้ครับ  ปลื้ม
บันทึกการเข้า

Today you , Tomorrow me.
นึกว่าเพลงเวอร์ชันภาษาอังกฤษของ โลกหมุนด้วยความรัก - Crescendo  ปลื้ม
บันทึกการเข้า

 ยิ้มน่ารัก สุขใจที่ได้แปลค่ะ ชอบเพลงนี้เหมือนกัน..

เมื่อคืนพยายามเอาคลิปมาลงด้วยค่ะ คอนเสิร์ตเก๊าเก่า.. แต่ว่ามันลงไม่ได้.. ไม่รู้เป็นไง..
แล้วก็เลยสลบไปเองตามเวลา..  คริคริ

สำหรับ Crescendo นี่..ชอบ ความจริงในใจ ที่สุดเลย  ปลื้ม



กร๊าก ตอบช้าไป ..โดนตัดหน้าซะแล้วต๋อย
บันทึกการเข้า

NUMB - LinkinPark

I'm tired of being what you want me to be
Feeling so faithless lost under the surface
Don't know what you're expecting of me
Put under the pressure of walking in your shoes
(Caught in the undertow just caught in the undertow)
Every step that I take is another mistake to you
(Caught in the undertow just caught in the undertow)

ฉันเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่เธอต้องการให้ฉันเป็นเหลือเกิน
ไร้ซึ่งความหวัง จมลึกลงไปเรื่อย
ไม่รู้ว่าเธอคาดหวังอะไรจากฉัน
กดดันให้เดินตามทางที่เธอเลือกไว้ให้แล้ว
(ติดอยู่ในคลื่นที่ซัดสาด โดนคลืนซัดสาด)
ทุกๆ การกระทำของฉันคือ ข้อผิดพลาดของเธอ

I've become so numb I can't feel you there
Become so tired so much more aware
I'm becoming this all I want to do
Is be more like me and be less like you

ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่เหลือเกิน ไม่ได้รู้สึกว่ามีเธอรออยู่
เหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ ระมัดระวังมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ฉันเป็นอย่างนี้ ที่ฉันต้องการมีเพียงอย่างเดียว
ให้ฉันเป็นตัวฉันเองเถอะ

Can't you see that you're smothering me
Holding too tightly afraid to lose control
Cause everything that you thought I would be
Has fallen apart right in front of you
(Caught in the undertow just caught in the undertow)
Every step that I take is another mistake to you
(Caught in the undertow just caught in the undertow)
And every second I waste is more than I can take

ไม่เห็นเหรอว่าเธอกำลังทำให้ฉันอึดอัดหายใจไม่ออก
กอดไว้อย่างแน่นหนา กลัวที่จะสูญเสียการควบคุม
เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอคิดว่าฉันเป็น
คือเศษซากที่กองอยู่ตรงหน้าเธอ
(ติดอยู่ในคลื่นที่ซัดสาด โดนคลื่นซัดสาด)
ทุกๆ การกระทำของฉันคือ ข้อผิดพลาดของเธอ
(ติดอยู่ในคลื่นที่ซัดสาด โดนคลื่นซัดสาด)
และทุกๆ วินาทีที่ฉันเสียไป มันมากเกินกว่าที่ฉันจะอดทนได้อีก

[Chorus]
I've become so numb I can't feel you there
Become so tired so much more aware
I'm becoming this all I want to do
Is be more like me and be less like you

ฉันรู้สึกเหมือนเป็นคนโง่เหลือเกิน ไม่ได้รู้สึกว่ามีเธอรออยู่
เหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ ระมัดระวังมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ฉันเป็นอย่างนี้ ที่ฉันต้องการมีเพียงอย่างเดียว
ให้ฉันเป็นตัวฉันเองเถอะ

And I know
I may end up failing too
But I know
You were just like me with someone disappointed in you

และฉันรู้
ว่าฉันอาจจะผิดหวังไปด้วย
แต่ฉันรู้
เธอก็เหมือนกับฉันที่มีคนผิดหวังในตัวเธอ

[Chorus]
I've become so numb I can't feel you there
Become so tired so much more aware
I'm becoming this all I want to do
Is be more like me and be less like you

ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ ไม่ได้รู้สึกว่ามีเธอรออยู่
เหนื่อยขึ้นเรื่อยๆ ระมัดระวังมากขึ้นเรื่อยๆ
ที่ฉันเป็นอย่างนี้ ที่ฉันต้องการมีเพียงอย่างเดียว
ให้ฉันเป็นตัวฉันเองเถอะ

[Chorus]
I've become so numb I can't feel you there
I'm tired of being what you want me to be
I've become so numb I can't feel you there
I'm tired of being what you want me to be

ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ ไม่ได้รู้สึกว่ามีเธอรออยู่
ฉันเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่เธอต้องการให้ฉันเป็นเหลือเกิน
ฉันรู้สึกเหมือนคนโง่ ไม่ได้รู้สึกว่ามีเธอรออยู่
ฉันเหน็ดเหนื่อยกับสิ่งที่เธอต้องการให้ฉันเป็นเหลือเกิน...



แปลสดๆ ครับ รู้สึกมันยังแหม่งๆ อยู่  หมีโหด~
ไม่มีที่มาที่ไปครับ เพลงมันส์ แค่นั้นเอง

บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
+ พี่แอ้ และพี่อุ้ยค่ะ
+ นังเอห์ด้วยฮร่า  ลันล้า
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
เคยฝังใจกับเพลงนี้ ตอนหัดเล่นกีตาร์ตอนเด็กๆ
(มาจนตอนนี้ก็ยังเล่นไม่ได้  กร๊าก)
คิดว่าทุกคน คงรู้จัก

<a href="http://www.youtube.com/v/eZGWQauQOAQ&amp;hl=en" target="_blank">http://www.youtube.com/v/eZGWQauQOAQ&amp;hl=en</a>


The Sound of Silence - Simon & Garfunkel

Hello darkness, my old friend
I've come to talk with you again
Because a vision softly creeping
Left its seeds while I was sleeping
And the vision that was planted in my brain
Still remains
Within the sound of silence

In restless dreams I walked alone
Narrow streets of cobblestone
'Neath the halo of a street lamp
I turn my collar to the cold and damp
When my eyes were stabbed by the flash of a neon light
That split the night
And touched the sound of silence

And in the naked light I saw
Ten thousand people maybe more
People talking without speaking
People hearing without listening
People writing songs that voices never shared
No one dared
Disturb the sound of silence

"Fools," said I, "you do not know
Silence like a cancer grows
Hear my words that I might teach you
Take my arms that I might reach you"
But my words like silent raindrops fell
And echoed in the wells of silence

And the people bowed and prayed
To the neon god they made
And the sign flashed out its warning
In the words that it was forming
And the sign said "The words of the prophets are written on the subway walls
And tenement halls
And whispered in the sound of silence

สวัสดีความมืดเพื่อนเก่า
เรามาทักทายกันอีกหน
ภาพฝันคืบคลานมาอย่างแยบยล
เมล็ดพันธุ์ฝันหล่นฝังในจินตนาการ

ยังคงอยู่อย่างนั้น
เสียงแห่งความเงียบงันยังขับขาน
เดินลำพังในฝันอันเนิ่นนาน
ผ่านถนนแคบแอบแสงสลัวจากเสาไฟ

ห่อห่มตัวหนีห่างความหนาวชื้น
ยืนตะลึงจากแสงวาบสว่างไสว
แยกคืนและคั่นวันออกไป
และนั่นไงสัมผัสเสียงอันเงียบงัน

ผู้คนมากมายภายใต้แสงอันว่างเปล่า
ได้ยินคำบอกเล่าโดยไม่หัน
เสวนาโดยไร้คำพร่ำรำพัน
ไม่ปันเสียงประพันธ์เพลงบรรเลงใจ
      
ไม่มีใครกล้าส่งเสียงผ่านเสียงเพรียก
ฉันกู่ก้องร้องเรียก “ผู้ไม่รู้อะไร จะโง่ไปถึงไหน
ความเงียบงันดั่งมะเร็งกำเริบเติบโตไป
จับมือฉันไว้ ตั้งใจฟัง อาจสอนคน”

คำฉันคล้ายสายฝนหล่นเพียงแผ่ว
ดั่งเสียงแก้วหล่นร่วงจากเวหน
สะท้อนเสียงก้องกังวานผ่านเวียนวน
ไม่ผ่านพ้นห้องแห่งเสียงอันเงียบงัน

ผู้คนก้มลงกราบกล่าวภาวนา
ต่อหน้าพระเจ้าเขาสร้างฝัน
วาบแห่งแสงสัญลักษณ์จักเตือนกัน
คำแห่งความหมายนั้นหาได้จากที่ใด

ความรัักความหมายนั้นหาได้ในทุกที่
ขอแค่มีดวงใจที่เปิดไว้
บนท้องถนนหรือในห้องมองออกไป
มีอยู่ในเสียงกระซิบเพลงบทแผ่วอันเงียบงัน

.........................................

เพลงนี้ตอนแรกอยู่ในอัลบั้มเปิดตัว
ของ Simon และ Garfunkel
แต่ตอนนั้นขายได้แค่สองพันแผ่นเท่านั้น
ทั้งสองคนก็แยกย้ายกัน
หลังจากที่ไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ค่ายเพลงของพวกเขาเอาเพลงนี้มาืำทำใหม่
โดยใ่ส่เสียงเครื่องดนตรีเข้าไปมากขึ้น
ทำให้เพลงนี้กลับมาฮิตอย่างรวดเร็ว
Simon และ Garfunkel กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
และมีชื่อเสียงโ่ด่งดังไปทั่วโลก
ด้วยท่วงทำนองและความหมายในบทเพลง
ในหลายๆ เพลงที่พวกเขาแต่งและร้อง
อย่างเพลง Sound of the silence ก็เช่นกัน
เราสามารถแปลความหมายออกไปได้หลากหลาย
มีการตีความออกไปได้หลายๆ แบบ

นี่ก็เป็นเพลงที่ตูชอบที่สุดเพลงนึง
เพราะรู้สึกว่ามันมีความหมายลึกซึ้งซ่อนอยู่ในเสียงเพลง
ก็ขอให้มีความสุขกับเสียงเพลงด้วยกันนะครับ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 เม.ย. 2008, 23:02 น. โดย ณต » บันทึกการเข้า
โอ้ว ถอดแบบเป็นกลอนอีกแร้ววว

เพราะพริ้งมากเลยค่ะ (ปล.เพลงนี้ไม่เคยฟัง เป็นการแนะนำไปในตัวเลยนะเนี่ยยยย)  กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ความหลงใหลในภาพลวงตา ที่ได้มาใช่ความสุข
ชอบทั้ง Numb ทั้ง The sound of silence เลยค่ะ

ชอบ Numb/Encore ด้วย ..  ฮี่ๆ
บันทึกการเข้า







S.O.S. นี่มีคนเอามาร้องใหม่หรือเอามา mix up เยอะมากเลยนะ กรี๊ดดดดด


บันทึกการเข้า

งบน้อย
 กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ความสวยไม่รับประกัน แต่ความมันเดี๊ยนรับรอง
หน้า: 1 2 3 4 5 [6] 7 8 9 10 11 12 13 ... 43
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!