ขอบคุณพี่ทุกคนครับ
หันมาแปลอะไรที่คนน่าจะอยากรู้ความหมายกันดีกว่า
- คณะเรดฮ็อตชิลี่เปปเปอร์ -
ครั้งแรกที่ผมได้มีโอกาสฟังวงๆนี้ คือเมื่อ พี่เอก แบล็กเฮดในยุคเริ่มต้น
แกเอา Under The Bridge มาเล่นในรายการวิทยุ (ที่พี่โอได้แปลไว้แล้ว)
จากนั้น ผมอุดหนุนซื้อเทปวงนี้ครั้งแรกเมื่ออัลบั้ม Californation ออกวางแผง
ในตอน ม. 4 หรือ 5 ล่ะมั้ง และด้วยความเป็นอัลบั้มฮิต เพลงติดหู
ร้องตามไม่ลำบาก(มั้ง) ฟังไม่กี่รอบก็ร้องได้หมด ทำให้หลังจากนั้น
เมื่อตอน ผมอยู่ปี 2 พวกเขามาเล่นที่เมืองทองธานี
ก็สามารถร้องตามพวกเขาในอัลบั้มนี้ได้ แต่อัลบั้มอื่นยืนไบ้แดก
ยกเว้นเพลงฮิตๆไม่กี่เพลง แต่นั่นก็ไม่เป็นปัญหา เพลงฮิตมากองกันที่
แคลิฟอร์นิเคชั่นหมดอยู่แล้ว
ผมกับเพื่อนๆพี่ๆยกขโยงชาวคณะไปดูกัน(คงสัก 20 คน)
แต่อยู่ท่ามกลางวงล้อมฝรั่งสูง 2 เมตร ทำให้ไม่ค่อยเห็นอะไรนัก
ที่จำได้ในวันนั้น ฟลี มือเบสก็แสดงความสามารถ ใส่กางเกงในสีแดงตัวเดียว
กับรองเท้าไนกี้สีแดงแจ๊ด ใช้ 2 มือเดินพื้น ขาชี้ฟ้า เดินออกมาบนเวที
การแสดงคืนนั้นพวกเขาเล่นน่าประทับใจ เต็มที่ไม่มีกั๊ก
และผมก็แท็กกับฝรั่งจนไหล่เคล็ด
ถึงจะไม่ใช่แนวเพลงหลักที่ผมฟัง แต่ความดังความดีของเพลงพวกเขา
ก็ทำให้ใครๆก็คงต้องรู้จักและติดตามบ้างตามแต่โอกาสจะมี ผมก็เช่นกัน
มีคอนเสิร์ตมาให้ดูก็ดู มันไม่ใช่จะมีบ่อยๆสักหน่อย
สรุปว่าก็รักใคร่กันพอประมาณ ที่ทำเพลงได้เข้าหูมนุษย์โลกในวงกว้าง
แต่ก็ไม่ละเลยมิติความลึกของเนื้อหา เป็นนักคิดทำนองและเรียบเรียงดนตรี
ได้ราวพระเจ้า เป็นนักดนตรีที่เต็มที่กับสิ่งที่ทำ แถมยังกวนตีนได้โล่
ส่วนที่ผมไม่ชอบคือลุค รูปแบบ รสนิยมการแต่งตัว สกปรกซกมกมาก
ทั้งที่การซกมกมันควรจะเป็นจุดที่เท่ที่สุดของวงร็อค แต่พวกเขากลับไม่
ผมไม่ชอบนิสัยในการแสดงออก ดูแล้วมันเป็นพวกอเมริกันโชว์แมนห่ามๆ
ซึ่งเป็นนิสัยที่ผมไม่พึงประสงค์ไม่ว่าจะอยู่กับใครในโลก ดูแล้วเห่ยมากกว่าเท่
แถมนิสัยนั้นสะท้อนมาทางการแต่งตัว ที่แทนความหมายของคำว่ารสนิยมเสื่อมได้เลย
แต่นั่นล่ะ ตัวตนพวกเขา พวกเขาชัดเจนว่าเป็นแบบนั้น
ทำมันแบบไม่มีกั๊ก ไม่มียางอาย ก็โอเค เรื่องของมึง
และถึงยังไง พวกเขาก็เป็นหนึ่งในวงร็อคที่โด่งดังที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา
รวมถึงทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับต้นๆ
มาถึงตัวเพลง Give It Away เป็นเพลงฮิตที่ทุกวันนี้วิทยุก็ยังเปิดบ่อย
แหล่งท่องเที่ยวก็ยังเล่น เท่าที่ผมจำได้ มีคนถามประจำว่ารวมความแล้วมันร้องอะไรของมัน
เอาจริงๆคำถามคือ ท่อนฮุค "กิฟระเวย์ กีฟระเวย์ กีฟระเวย์หน่าว!"
ที่ร้องกันติดปาก มันคืออะไรของมันวะ อ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะรู้แล้วว่า
ผมไม่ได้ชอบอะไรเพลงนี้นักหรอก ออกจะรำคาญในบางทีที่ได้ยินบ่อย
(แต่ถ้าเมาก็ออกสเต็ปมันเหมือนกันหมดแหละ)
ไหนๆก็หลวมตัวแปลเพราะจะตอบเพื่อนเรื่องท่อนฮุคแล้ว แปลมาให้ครบซะเลย
เพลง Give It Away
โดยคณะ Red Hot Chili PeppersWhat I've got you've got to give it to your mamma
What I've got you've got to give it to your pappa
What I've got you've got to give it to your daughter
You do a little dance and then you drink a little water
ได้อะไรมาก็จงมอบมันต่อให้แม่
ไปเจออะไรก็ส่งมันต่อให้พ่อ
เห็นอะไรดีๆมาก็บอกเล่าให้ลูกสาวฟัง
เต้นกันสักนิด แล้วกินน้ำเข้าไปสักหน่อยซิWhat I've got you've got to get it put it in you
What I've got you've got to get it put it in you
What I've got you've got to get it put it in you
Reeling with the feeling don't stop continue
สิ่งที่เราให้นาย นายก็จงยึดมั่นมันเอาไว้
สิ่งที่เราให้นาย นายก็จงยึดมั่นมันเอาไว้
สิ่งที่เราให้นาย นายก็จงยึดมั่นมันเอาไว้
แล้วทำมันต่อด้วยใจมั่น อย่าไปกลัว อย่าไปถอย อย่าไปหยุดยั้งRealize I don't want to be a miser
Confide wisly you'll be the wiser
Young blood is the lovin' upriser
How come everybody wanna keep it like the kaiser
จำไว้นะว่า ฉันไม่ได้ต้องการจะเป็นผู้ผิดพลาด
ยึดคำพระท่านไว้แล้วเราจะปราดเปรื่อง
คนรุ่นใหม่เรานี่ล่ะ ที่จะลุกขึ้นมาสู้
แล้วไหงใครๆไปเก็บเอาไว้หยั่งกะว่าตัวเองเป็นราชางั้นล่ะGive it away give it away give it away now
Give it away give it away give it away now
Give it away give it away give it away now
I can't tell if I'm a kingpin or a pauper
จงเผื่อแผ่ แบ่งปัน เผื่อแผ่ แบ่งปัน
จงเผื่อแผ่ แบ่งปัน เผื่อแผ่ แบ่งปัน
จงเผื่อแผ่ แบ่งปัน เผื่อแผ่ แบ่งปัน
ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่า ฉันน่ะราชาหรือยาจกGreedy little people in a sea of distress
Keep your more to receive your less
Unimpressed by material excess
Love is free love me say hell yes
พวกโลภกระหายเลือดแค่นิดเดียวในมหาสมุทรของคนยาก
พยายามจะเอา รีดไถจากนาย
แต่มันไม่เคยพอใจในสิ่งที่มันเอาไปซะที
รักคืออิสระภาพ พูดสิ เหมือนที่ฉันพูดนี่ไงล่ะI'm a low brow but I rock a little know how
No time for the piggies or the hoosegow
Get smart get down with the pow wow
Never been a better time than right now
ถึงฉันจะหลังเขา แต่ก็รู้หรอกน่า
ไม่มีที่ให้พวกหมูตะกละหรอกนอกจากซังเต
บางทีก็รู้สึกดี หรือบางทีก็เหนื่อยเหมือนกัน ที่ต้องมาป่าวประกาศเรื่องพวกนี้
แต่ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะเท่าเวลานี้อีกแล้วล่ะพวก!Bob Marley poet and a prophet
Bob Marley taught me how to off it
Bob Marley walkin' like he talk it
Goodness me can't you see I'm gonna cough it
บ็อบ มาร์เลย์ เขาน่ะทั้งกวีทั้งเป็นศาสดา
บ็อบ มาร์เลย์ สอนให้ฉันขจัดความเห็นแก่ได้
บ็อบ มาร์เลย์ เขาพูดยังไง เขาก็ทำยังงั้นไม่ผิดเพี้ยน
เห็นไหมล่ะ ความหวังดีของฉันมันมากล้นแค่ไหนLucky me swimmin' in my ability
Dancin' down on life with agility
Come and drink it up from my fertility
Blessed with a bucket of lucky mobility
โชคดีเหลือหลายที่ความสามารถฉันมีล้น
เต้นรำให้กับชีวิตอย่างว่อง
มาสิ มาดื่มให้กับความอุดมสมบูร์ของใจฉัน
พระเจ้าจะอวยพร มอบความโชคดีกันเป็นกระตั๊กMy mom I love her 'cause she love me
Long gone are the times when she scrub me
Feelin' good my brother gonna hug me
Drink my juice young love chug-a-lug me
ฉันนี่รักแม่นะ เพราะแม่ก็รักฉัน
นานมาแล้วสิ ที่แม่คอยอาบน้ำขัดสีให้
แล้วก็สุดปลื้มเมื่อพี่ๆมาสวมกอด
ดื่มความปราถนาดีจากฉันกันให้เปรมไปเลยThere's a river born to be a giver
Keep you warm won't let you shiver
His heart is never gonna wither
Come on everybody time to deliver
สายน้ำ ก่อกำเนิดเพื่อเป็นผู้ให้
ทำให้นายอบอุ่น หายห่วง ไม่มีหนาวสั่น
และจะไม่มีวันแล้งน้ำใจกับใครทั้งนั้น
มาเถอะพวก ได้เวลาส่งมันต่อไปแล้วGive it away give it away give it away now
Give it away give it away give it away now
Give it away give it away give it away now
I cant tell iff Im a king pin or a pauper
จงเผื่อแผ่ แบ่งปัน เผื่อแผ่ แบ่งปัน
จงเผื่อแผ่ แบ่งปัน เผื่อแผ่ แบ่งปัน
จงเผื่อแผ่ แบ่งปัน เผื่อแผ่ แบ่งปัน
ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่า ฉันน่ะราชาหรือยาจกGive it away now
Give it away now อีก 30 รอบ
อธิบายคงยาวนานมาก ว่าประโยคแต่อัน
ทำไมมันหมายความอย่างที่ผมแปลมาได้
เพราะไม่มีอันไหนเป็นประโยคปกติ มันเป็นแสลงทั้งสิ้น
เรียงคำฉวัดเฉวียน ภาษาปาก ภาษาตลาด ภาษาพูดสุดๆ
บางอันก็ไม่รู้หรอก แต่รู้โดยบริบท ไอ้ไม่รู้นี่ไม่แปลก
เพราะฝรั่งอเมริกันเองก็ยังไม่รู้เลย บางคำที่มันเล่นคำมากๆ
เหมือนเราไปถามผู้ใหญ่บางคน ก็ไม่รู้จักคำว่าแอ็บแบ๊วยังงั้นล่ะ
ยิ่งฝรั่งพูดภาษาอังกฤษในประเทศอื่นๆ บางคำก็ยังต้องถามคนอเมริกัน
ว่านี่มันร้องห่าอะไรของมัน
พวกเขาชอบใช้ภาษาแบบนี้ประจำ เพลงนึงที่เด่นสุดคือเพลงดัง EMIT REMMUS
อัลบั้มแคลิฟอร์นิเคชั่น ที่ท่อนฮุคร้องว่า London in the Summertime...
ถ้าใครจำได้ นอกจากการใช้คำแล้ว พวกเขายังร้องสำเนียงวิบัติสุดๆ
ออกเสียงเหมือนคนจีนผสมเขมรด้วยความจงใจ กวนตีนจนน่าปวดหัว
ส่วนเพลงนี้ จริงๆแล้วพวกเขาก็รู้ตัวว่ามันฟังดูเหมือนไม่ได้พูดถึงอะไรเป็นพิเศษ
แต่พวกเขาก็ว่า มันมาจากความคิดที่ว่า "The more you give, the more you receive,
so why not give it all away?" ยิ่งให้มาก ยิ่งได้มาก นั่นเอง