หน้า: 1 ... 25 26 27 28 29 30 31 [32] 33 34 35 36 37 38 39 ... 43
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ถอดเพลง  (อ่าน 555952 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ไอ้หนูอัยย์...
พี่คงพูดอะไรได้ไม่ดีมากนัก ขอยืมคำคนอื่นมาใช้ก็แล้วกัน


One Sweet Day (Mariah Carey feat. Boyz II Men)
วันอันแสนหวาน (มารายห์ แครี่ และ บอยซ์ทูเม็น)


Sorry, I never told you, all I wanted to say.
Now it's too late to hold you. '
Cause you've flown away, so far away.


ขอโทษนะ ที่ฉันไม่เคยได้บอกเธอในสิ่งที่ฉันเคยบอก
ตอนนี้มันสายไปแล้วที่จะโอบกอดเธอไว้
เพราะเธอได้โบยบินจากไปแล้วแสนไกล


Never, Had I imagined, yeah, living without your smile.
Feelin' and knowing you hear me.
It keeps me alive. Alive!


ฉันไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องอยู่โดยไม่มีรอยยิ้มของเธอ
ฉันรู้สึก..ฉันรู้ว่าเธอต้องได้ยินฉัน
มันทำให้ฉันมีชีวิตอยู่ต่อไป ต้องอยู่ต่อไป


And I know you're shining down on me from Heaven,
Like so many friends we've lost along the way,
And I know eventually we'll be together.
One sweet day.


และฉันรู้ว่าเธอจะส่องแสงลงมาให้ฉันจากสรวงสวรรค์
เหมือนกับที่เพื่อนทั้งหลายซึ่งได้จากเราไปตลอดมาได้ทำ
และฉันรู้แน่นอนว่าในที่สุดเราจะอยู่ด้วยกัน
ในวันอันแสนหวาน


Darling, I never showed you.
Assumed you'd always be there.
I took your presence for granted.
But I always cared
And I miss the love we shared.


ที่รัก ฉันไม่เคยแสดงให้ธอได้เห็น
เพราะคิดไปเองว่าเธอจะต้องอยู่ตรงนั้นเสมอ
ฉันเคยละเลยว่ามีเธออยู่
แต่กระนั้นฉันก็ห่วงใยเธอเสมอมานะ
และตอนนี้ฉันคิดถึงความรักที่เรามีให้กัน


And I know you're shining down on me from Heaven,
Like so many friends we've lost along the way,
And I know eventually we'll be together.
One sweet day.


และฉันรู้ว่าเธอจะส่องแสงลงมาให้ฉันจากสรวงสวรรค์
เหมือนกับที่เพื่อนทั้งหลายซึ่งได้จากเราไปตลอดมาได้ทำ
และฉันรู้แน่นอนว่าในที่สุดเราจะอยู่ด้วยกัน
ในวันอันแสนหวาน

Although, the sun will never shine the same,
I'll always look to a brighter day.
Yeah, Lord, I know, when I lay me down to sleep,
You'll always listen, as I pray!


แม้ว่าพระอาทิตย์จะไม่ส่องสว่างอย่างที่เคย
แต่ฉันก็ยังเฝ้ารอวันที่สดใส
พระผู้เป็นเจ้า ลูกรู้ว่าตอนที่ลูกกำลังเอนกายลงนอน
พระองค์จะทรงรับฟังที่ลูกสวดวิงวอน


And I know you're shining down on me from Heaven,
Like so many friends we've lost along the way,
And I know eventually we'll be together.
One sweet day.


และฉันรู้ว่าเธอจะส่องแสงลงมาให้ฉันจากสรวงสวรรค์
เหมือนกับที่เพื่อนทั้งหลายซึ่งได้จากเราไปตลอดมาได้ทำ
และฉันรู้แน่นอนว่าในที่สุดเราจะอยู่ด้วยกัน
ในวันอันแสนหวาน


Sorry, I Never told you, all I wanted to say
ขอโทษด้วย ที่ฉันไม่เคยบอกเธอในสิ่งที่ฉันอยากบอก..
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
เพลงนี้ ฮือๆ~

ฟังทีไรจะนึกถึง เทวดา ผู้คุ้มครองบนฟ้า

หลังปกหนังสือของตูก็มีประโยคจากเพลงนี้

"My guardian angel, I know you're shining down on me from heaven"

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Fly me to the moon - Frank Sinatra
พาฉันโบยบินสู่จันทรา

Fly me to the moon
Let me sing among those stars
Let me see what spring is like
On jupiter and mars


พาฉันโบยบินสู่ดวงจันทรา
ขับกล่อมเสียงเพลงกับเหล่าดวงดารา
เปิดตาฉันให้พบความผลิบาน
ของพฤหัสและดาวแดง

In other words,
hold my hand
In other words,
baby kiss me


หรืออีกความหมาย
กุมมือฉันไว้เถิด
และอีกนัยหนึ่ง
จุมพิตฉันทีที่รัก

Fill my heart with song
Let me sing for ever more
You are all I long for
All I worship and adore


เติมเสียงเพลงให้เต็มหัวใจฉัน
เพื่อขับขานบทเพลงตราบนิรันด์
เธอผู้ที่ฉันโหยหาหมดดวงใจ
มอบความรักให้หมดที่ฉันมี

In other words,
please be true
In other words,
I love you


เช่นนั้นแล้ว
ขอให้เธอจงมั่นคง
ถ้าให้พูดตรงๆ
ฉันรักเธอ

เพลงนี้ยามเช้ามืด มันเข้ากันจริงๆ
บันทึกการเข้า

ห๊ะ! อะไรนะ!!!
 ไหว้
บันทึกการเข้า

★ .・。゜ïzY ™ ﺕ ❤ Loveable ☂
 ` Mode : รักเธอ *
T&I
 (แจ๋ว แจ๋ว)   เจ๋ง
บันทึกการเข้า

อืมมม...
ขอตามสมัยหน่อยละกันนะครับ เกย์ออก (แต่สมัยสามปีที่แล้ว กร๊าก)

http://www.youtube.com/watch?v=mHcTZFzrwMU

Keane - A Bad Dream

Why do I have to fly
over every town up and down the line?
I'll die in the clouds above
and you that I defend, I do not love.

ทำไม ฉันถึงบินอยู่นะ?
บินขึ้นลง ข้ามตึกรานบ้านช่องมากมาย
บางทีฉันอาจตาย ไปในหมู่เมฆเบื้องบน
และพวกเธอ ที่ฉันปกป้อง ฉันไม่ได้รักพวกเธอเลย

 I wake up, it's a bad dream,
No one on my side,
I was fighting
But I just feel too tired
to be fighting,
guess I'm not the fighting kind.

แล้วฉันก็ลืมตา ตื่นขึ้นมา
มันเป็นเพียงฝันร้าย
ฉันต่อสู้ เพียงลำพัง
และฉันรู้สึกเหนื่อยที่จะไปต่อ
ท้อแท้ที่จะสู้
เป็นเพราะฉันอ่อนแอเกินไปสินะ

Where will I meet my fate?
Baby I'm a man, I was born to hate.
And when will I meet my end?
In a better time you could be my friend.

แล้วฉันจะตายไหมนะ
ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกิดมาเป็นผู้ชาย ...
ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วนี่
แล้วเมื่อไหร่ล่ะ?
เพราะเราอาจจะเป็นเพื่อนกันได้
ในโอกาสที่ดีกว่านี้

[chorus]
I wake up, it's a bad dream,
No one on my side,
I was fighting
But I just feel too tired
to be fighting,
guess I'm not the fighting kind.
Wouldn't mind it
if you were by my side
But you're long gone,
yeah you're long gone now.

แล้วฉันก็ลืมตา ตื่นขึ้นมา
มันเป็นเพียงฝันร้าย
ฉันต่อสู้ เพียงลำพัง
และฉันรู้สึกเหนื่อยที่จะไปต่อ
ท้อแท้ที่จะสู้
เป็นเพราะฉันอ่อนแอเกินไป
และมันคงจะดี
ถ้ามีใครซักคนมาสู้เคียงข้างกับฉัน
แต่ไม่มีใครเลย
ไม่มี...

Where do we go?
I don't even know,
My strange old face,
And I'm thinking about those days

แล้วเรารบกันไปทำไมเหรอ?
ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เลย
แล้วฉันก็คิดไปถึงวันเก่าๆเหล่านั้นที่ผ่านมา


----------------------------------------
----------------------------------------


อยู่ดีๆก็นึกอยากแปลเพลงขึ้นมาซะงั้น เพราะคุยเรื่องเพลงกับพี่เก้อ
แล้วแกก็ส่งเพลงของ suede มาให้ฟัง เศร้าๆ
เลยตรงดิ่งเข้าไปหาเพลงเศร้า
ไม่รู้อะไรดลใจให้เข้าโฟลเดอร์ Keane แล้วเปิดเพลงนี้ฟังซะ

A Bad Dream นี่เป็นเพลงที่เศร้าที่สุดในอัลบั้มเลย
(มี Hamburg Song, Try Again ที่เศร้าเหมือนกัน แต่ไม่เท่าเพลงนี้)

เพลงนี้ได้แรงบันดาลใจแบบเต็มๆมาจากบทกวีของ Yeats ครับ
บทกวีบทนั้นก็คือ "An Irish Airman Foresees His Death" ที่กล่าวถึงเพื่อนเขาซึ่งเป็นนักบินในสงคราม
ที่บินเป็นครั้งสุดท้าย และการบินครั้งนี้ก็ไม่ได้มาจากความรักชาติ ความรับผิดชอบ
หรือต้องการปกป้องรักษาคนที่อยู่เบื้องหลังเลยแม้แต่นิด
แต่มันมาจากชีวิตของเขาที่ไม่มีอะไรเลย เขามองไม่เห็นว่าชีวิตเขาจะดีขึ้นมาได้
มีเพียงอย่างเดียวคือต้องอยู่กับปัจจุบันให้ได้เพียงแค่นั้นเอง

แต่ความจริง คนที่ Yeats อ้างถึง ไม่ได้เป็นแบบนั้นครับ เค้าทำอย่างอื่น แต่สุดท้ายต้องมาตายบนเครื่องบินรบนี่แหละ
Yeats คงเลยอยากจะประชดประชัน ด่าถึงการทำสงคราม ที่ทำให้คนดีๆต้องตายไปมาก
เลยเปรียบเพื่อนเขาลงในบทกวี ที่ไม่ได้มีความตั้งใจในการทำสงครามเหมือนทหารคนอื่นๆหลายๆคนเลย


ถ้าว่ากันตามเพลงนี้ ก็คือเขียนตามบทกวีนั้น
แต่เอาเนื้อหาของบทกวีไปเป็นฝันร้าย

อาจจะเป็นฝันร้ายของคนที่เพิ่งจะถูกคนรักบอกเลิก อกหัก คนรักตาย
เพราะเชื่อว่าหลายๆคนเวลาอกหัก คงจะนอนไม่หลับ และพอนอนหลับ ก็จะฝันร้ายแน่ๆ

เห็นได้ชัดเลยจากท่อนนี้

I was fighting. But I just feel too tired to be fighting, guess I'm not the fighting kind.
Wouldn't mind it if you were by my side. But you're long gone, yeah you're long gone now.

เหนื่อย ไม่อยากสู้ต่อไปแล้ว สู้ยังไงเธอก็ไม่หวนคืนกลับมา...

แต่จะเป็นไรไป เรื่องแค่นี้เอง เพราะเรามัน I'm a man, I was born to hate อยู่แล้วนี่นา

เมื่อตอนที่แปลเพลงนี้ อะไรหลายๆอย่างมันเข้ามาในหัวเยอะมากครับ

ทั้งตอนที่ผมอกหัก อารมณ์มันก็แบบนี้แหละ อกหักตอนกลางคืน ตื่นมาก็เงียบๆ น้ำตามันจะไหล
นึกถึงแต่เรื่องเมื่อวาน

หรือแม้กระทั่งหนังเรื่อง The Dark Knight...! กร๊าก

มาว่ากันที่ภาคดนตรี
ดนตรีของเพลงนี้จะขึ้นด้วยซินธ์วังเวงเงียบๆ
ถ้าวาดเป็นภาพเคลื่อนไหวประกอบเพลง ก็นึกเอาตามเนื้อร้องเลยครับ
บินบนท้องฟ้า ลอยไปมา ตั้งคำถามกับตัวเองหลายๆเรื่อง

แล้วตัดมาที่ฉากตื่น ดนตรีก็จะค่อยๆหนักขึ้น ตามเนื้อเพลงที่เริ่มซีเรียสขึ้น
จนไปถึงจุดพีคที่มีเสียงเปียโนสากๆมาเร้าอารมณ์

สรุปแล้ว เพลงนี้มันก็เป็นเพลงนึงที่ด่าสงคราม แต่แฝงไว้ในเชิงลึก
ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าช่วงนั้น ที่เพลงออกมา (ปี 2006) มีเพลงต่อต้านสงครามเยอะมากกกก
เพลงนี้ก็เลยขอเป็นหนึ่งในนั้นซะ
แล้วเพลงนี้ก็ไม่ใช่เพลงที่ดีที่สุดของ Keane ในความเห็นของใครหลายคน
เพราะจุดพีคของคีนมันอยู่ในอัลบั้มแรก ที่เน้นแต่เสียงเครื่องดนตรีหลักสามชิ้น ใช้เสียงสังเคราะห์น้อยมาก
แล้วก็มาหลุดไปในอัลบั้มต่อมานี่แหละ คือเน้นเสียงสังเคราะห์มามากเกินไปหน่อย หลายคนไม่ชอบ
เพลงนี้จึงไม่ดังเหมือน Somewhere Only We Know หรือ This is the Last Time ครับ

ขอบคุณพี่เก้อที่คุยกันเรื่องเพลงนี้ และช่วยแปลในบางท่อนมากๆครับ ไหว้ ไหว้ ไหว้ ไหว้ เจ๋ง
(แต่อยู่ดีๆก็หายไปเลย ฮ่วย โวย)
บันทึกการเข้า

หนุ่มอักษรรักแน่ รักแท้ตลอดกาล~
ติดภารกิจคุยโทรศัพท์

ยกจากที่คุยกันเองมาต่อหน้าธารกำนัลเลยแล้วกัน
เราว่า พอถอดมาเป็นไทยแล้วคำห้วนไป แต่ละประโยคดูไม่เชื่อมโยง
เพลงนี้มันแสดงเจตนาชัดว่ามันคือบทกวี ทั้งที่มาจากกลอนของยีตส์
เนื้อเพลงเอง เสียงดนตรี ทุกอย่าง มันก็บอกไปในทิศทางนั้น
ถ้ามันจะกลายเป็นภาษาอื่น มันก็น่าจะเป็นกวีด้วย
ไม่เห็นด้วยในหลายๆอันที่ไปฟันธงเจตนาของเนื้อหา
หลายๆประโยค มันน่าจะคลุมเครือมากกว่านี้ และบางอัน ก็มั่วไปเลย กร๊าก

ลองขยับๆคำดู



Why do I have to fly
over every town up and down the line?
I'll die in the clouds above
and you that I defend, I do not love.

เราบินไปแห่งไหนกันหรือ?
ข้ามขอบเขต เมืองแล้วเมืองเล่า
บางที ฉันอาจหายไปในหมู่เมฆก็ได้
และเธอ ที่ฉันปกป้อง...แม้ว่าจะไม่ได้รัก

อธิบาย : อันนี้อธิบายชัดถึงนักรบ บินไปสงคราม ในใจก็หวั่นว่า
อาจตายตอนไหนก็ได้และเพราะเป็นหน้าที่ ก็ต้องทำ ที่ปกป้องนี่
ไม่ได้ว่าทำเพราะรักใครคนไหน


 I wake up, it's a bad dream,
No one on my side,
I was fighting
But I just feel too tired
to be fighting,
guess I'm not the fighting kind.

แล้วฉันก็ลืมตา ตื่นขึ้นมา
และพบว่ามันเป็นเพียงฝันร้าย
ฉันต่อสู้ เพียงลำพัง
และฉันรู้สึกเหนื่อยที่จะไปต่อ
ท้อแท้ที่จะสู้
เป็นเพราะฉันอ่อนแอเกินไปสินะ <---ชอบที่แปลว่าแบบนี้ เจ๋งเลย

Where will I meet my fate?
Baby I'm a man, I was born to hate.
And when will I meet my end?
In a better time you could be my friend.

เมื่อไหร่มันจะจบสิ้นเสียที
ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกิดมาเป็นผู้ชาย ...
ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วนี่ <---อันนี้ก็ชอบ I'm a man, I was born to hate.
จุดจบของเราคงไกล้มาถึงแล้วสินะ
ถ้าเราเจอกันในที่ที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องมาเข่นฆ่ากัน

ประโยคสุดท้าย ของเดิมที่กันย์แปลอ่านไม่รู้เรื่องสักนิด หมีโหด~



Where do we go?
I don't even know,
My strange old face,
And I'm thinking about those days

ทั้งหมดนี้ เพื่อสิ่งใดกัน?
ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เลย
ดูหน้าฉันสิ
ฉันนึกถึงวันเก่าๆเหล่านั้นเหลือเกิน


----------------------------------------
----------------------------------------




ขยับสับเปลี่ยนบางคำ บางประโยค
บางอันมันก็คิดมากไปนะ (บางอันก็น้อยไป กร๊าก)
แต่รวมๆจับใจความและอารมณ์ความรู้สึกมันได้ดีมาก
โดยเฉพาะคำอธิบาย ตรงคำว่า  I'm a man, I was born to hate.
ผมก็เข้าใจแบบนั้นเลย อ่านแล้วจึ้กเลยอะ เจ๋ง

ตัวเพลงๆนี้ ผมว่ามันทำให้เรารู้สึกเหมือน มันดังก้องขึ้นมาจากฝันร้ายได้จริงๆ
ตอนที่ฟังเป็นอัลบั้ม เราแทบไม่รู้ตัวว่า เพลงนี้มันดังขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่
มันไม่รุกรานเราเลย แต่มันค่อยๆสอดแทรกเข้ามาในคาวมนึกคิดเรา
ไม่ทันรู้ตัว ตรงท่อนท้ายๆ มันก็ดันมาระเบิดร่างกายข้างในเราด้วยความ
โกรธแค้นระคนความเศร้า

มาถึงแง่มุมส่วนตัวกับเพลงนี้บ้าง คุยกันเรื่องเพลงนี้กันย์ยาวยืด
นึกว่าศาลาคนเศร้า  กร๊าก ผมฟังคร้งแรก ก็ตอนมันวางแผง ซื้อกับป้าโด
และก็คิดว่า อัลบั้มนี้ ทำไมมันกดดันยังงี้เนี่ย Under The Iron Sea ใต้ทะเลเหล็ก
จนอีกครั้ง ได้ฟังเพลงนี้ที่ร้องจากปากพวกเขาจริงๆ ที่คอนเสิร์ตพวกเฮียแกที่เมืองทองธานี
จำได้ว่าพี่ทอม อุทิศเพลงๆนึงให้ในหลวงด้วย พูดเป็นภาษาไทยว่า
" พะเลงเน้ เผื่อ ในหลวง ขรับ " แล้วชูข้อมือ ชี้ไปที่วริสต์แบนด์สีเหลืองให้คนดูเฮ
ฟังเสียงจริงๆแล้ว ก็รู้สึกว่าโคตรเศร้าเลย ผมโคตรหลงรักพวกเค้าเลย


นั่นยังไม่พอ ผมมาเข้าใจบรรยากาศเพลงนี้เอาจริงๆจังๆเมื่อฤดูหนาวที่ลอนดอน
ท่ามกลางคนแปลกหน้า ในบรรยากศขมุกขมัว เหมือนมีเมฆหมอกมาครอบหัวไว้ตลอดเวลา
และปัญหาอันไม่สามารถแก้ไขได้(เพราะเราดันอยู่ไกล) ทำให้ผมเข้าใจคำว่า
Under The Iron Sea ขึ้นมา แบบว่าเข้าใจไปถึงร่างกายทุกส่วน
พอฟังเพลงนี้ อีกครั้ง ก็รู้ว่า มันถูกสร้างขึ้นในภาวะแบบนี้นี่เอง เหมือนผมคิดในใจว่า
คีนกูเข้าใจแล้วว่ะ ว่าพวกมึงพูดถึงอะไร

จำได้ว่าตอนนั้น ผมคุยเอ็มกับไอ้กันย์นี่ล่ะ ผมก็เล่าความเข้าใจนั้น
ให้มันฟังด้วย รู้สึกถึงน้ำหนักที่กดทับ เมื่ออยู่ใต้ทะเลเหล็ก ว่ามันหนักอึ้งแค่ไหน

ผู้ชายเป็นแบบนี้นะครับ เราชอบแสร้งว่าเรานั้นเข้มแข็งเหลือเกิน
พระเจ้าไม่ได้สร้างต่อมน้ำตาให้มนุษย์เพศเรา และนี่คือคำโกหกนั้น
Baby I'm a man, I was born to hate.

บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
โบ้ยความผิดครับ อยู่ดีๆก็หายไปเลย หมีโหด~

แอบอ้าง
ประโยคสุดท้าย ของเดิมที่กันย์แปลอ่านไม่รู้เรื่องสักนิด  หมีโหด~

จริงๆประโยคนี้ที่แปลไป

แอบอ้าง
Where will I meet my fate?
Baby I'm a man, I was born to hate.
And when will I meet my end?
In a better time you could be my friend.

แล้วฉันจะตายไหมนะ
ไม่เป็นไรหรอก ฉันเกิดมาเป็นผู้ชาย ...
ไม่มีอะไรต้องเสียอยู่แล้วนี่
แล้วเมื่อไหร่ล่ะ?
เพราะเราอาจจะเป็นเพื่อนกันได้
ในโอกาสที่ดีกว่านี้

คือผมคิดโดยตัวผมเองว่า
เพื่อนของเค้าคือความตาย
อยู่บนเครื่องบิน ไม่รู้จักใคร ไม่มีเพื่้อน ไม่มีใครเลย นอกจากความตาย
ความตายคือสิ่งเดียวที่เขานึกขึ้นได้ เขาก็เลยอยากได้มาเป็นเพื่อนน่้ะครับ กร๊าก

แต่สื่อความหมายไม่ดีเอง ฮือๆ~

ส่วนท่อนนี้

แอบอ้าง
Where do we go?
I don't even know,
My strange old face,
And I'm thinking about those days

แล้วเรารบกันไปทำไมเหรอ?
ตัวฉันเองก็ยังไม่รู้เลย
แล้วฉันก็คิดไปถึงวันเก่าๆเหล่านั้นที่ผ่านมา

อันนี้โคตรงงเลยครับ คิดมากสุดๆ คิดไปถึงว่า นั่งมองดูกระจก
เห็นหน้าแปลกๆของตัวเอง แต่ดูไปดูมามันก็หน้าแก่ๆของเรา
แล้วก็นึกถึงวันเก่าๆที่ได้รบ

แต่มานึกอีกที อ้าว ตายบนเครื่องบินนี่นา แล้วรอดมานั่งดูหน้าตัวเองได้ไง
เลยโบ้ยเลยครับประโยคนี้ ตายสนิท กร๊าก
ผิดพลาดตั้งแต่แปล my strange old face แล้ว ฮ่าๆ ฮือๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มี.ค. 2009, 03:12 น. โดย กันย์ » บันทึกการเข้า

หนุ่มอักษรรักแน่ รักแท้ตลอดกาล~
My strange old face,
มันก็บอกว่า ดูหน้าฉันสิ ดูตัวเราซิ ก็แค่นั้นเอง
ก็หมายถึงแปลกแยกด้วยนั่นแหละ แต่มันไม่ได้อรรถาธิบายอะไรขนาดนั้น

ส่วนเป็นเพื่อนกับความตาย ดูแล้วไม่สมเหตุสมคำมันเลย
มันบอกว่า In a better time you could be my friend.
แปลแบบตรงๆตัวเลย ถ้าเจอกันในเวลาที่ดีกว่านี้ เราอาจเป็นเพื่อนกันได้
ถ้าพูดประโยคนี้กลางสนามรบ ก็คงมีความหมายเดียวแหละ หมายถึงศัตรู
เราเลยแปลว่า ถ้าเราเจอกันในที่ที่ดีกว่านี้ เราคงไม่ต้องมาเข่นฆ่ากัน
ที่เราสู้ ไม่ใช่เพราะโกรธแค้น และเช่นเดียวกัน and you that I defend, I do not love.
และเธอ ซึ่งฉันปกป้อง...แต่ไม่ได้รัก
ที่เราปกป้องนั้น เราก็ไม่ได้ทำเพราะรัก
พอเชื่อม 2 ประโยคย้อนแย้งนี้เข้าด้วยกันแล้ว มันทำให้เรายิ่งเห็นในความว่างเปล่า
ของตัวละคร ซึ่งก็หมายถึงตัวเราคนฟังนั่นแหละ

และสุดท้าย And I'm thinking about those days
มันนึกถึงวันก่อนเก่าที่เรื่องทั้งหลาย ยังไม่เลยเถิดมาถึงขั้นนี้
ก่อนที่สงครามจะเกิด และถ้าเอาความหมายอกหักรักคุด
ก็หมายถึงวันเวลาดีๆ ที่ยังมีเธออยู่ ก่อนที่สงครามชีวิตจะพรากเอามันไป
และเราก็สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายมาเจอแต่ความว่างเปล่ากลางดึก



อยู่ดีๆก็นึกอยากแปลเพลงขึ้นมาซะงั้น เพราะคุยเรื่องเพลงกับพี่เก้อ
แล้วแกก็ส่งเพลงของ suede มาให้ฟัง เศร้าๆ


มีวันไหนที่ไม่คุยกันเรื่องนี้ด้วยเรอะ  หมีโหด~

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มี.ค. 2009, 05:12 น. โดย เก้อ » บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
under the iron sea นี่
ตูก็โดนเหมือนกันนะ

แบบว่าเลิกงานตอนเที่ยงคืน
เหนื่อยฉิบหาย รอรถเมล์กลางคืน
คนก็เยอะ บางทีฝนก็โปรยๆ ครึ้มๆ มึนๆ
หนาวก็หนาว ง่วงก็ง่วง เหนื่อยก็เหนื่อย
แล้วคำถามที่ว่า ตูมาทำเชี่ยอะไรอยู่แถวนี้วะ
ก็จะวนเวียนอยู่ในหัวตลอด

ยิ่งเวลาได้โทรกลับบ้า่น พอวางหู
แล้วต้องออกไปทำงานตอนเย็น
ทั้งๆ ที่ไม่ได้อยากไป แต่ก็ต้องไป
เหมือนผลุบๆ โผล่ๆ อยู่กลางทะเลเหล็กนั่นแหละ
เหนื่อย หนัก...  ฮือๆ~

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 มี.ค. 2009, 08:05 น. โดย iamnot » บันทึกการเข้า
+ กันย์  กรี๊ดดดดด

+ คุณเฟรดดี้  กรี๊ดดดดด

ได้ความรู้ภาษาอังกฤษเยอะเลย  กรี๊ดดดดด กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>
ขอแจมด้วยหนึ่งเพลง  ชอบที่ Diana Ross ร้องมากที่สุด
แปลกันด้วนๆ นี่ล่ะ ขอคำชี้แนะด้วยครับ  ฮิ้ววว

Song : Reflection
Artist : Diana Ross


Look at me. You may think you see. Who I really am. But you’ll never know me.

มองมาที่ฉันสิ คุณอาจจะคิดว่าคุณเห็น ว่าฉันเป็นคนอย่างไร แต่คุณจะไม่มีทางรู้จักตัวตนที่แท้จริงของฉัน

Every day, is as if I play apart.

ทุกๆวัน เป็นเพียงการแสดงละคร

Now I see. If I wear a mask. I can fool the world. But I can not fool my heart.

ตอนนี้ฉันได้เห็นแล้ว ถ้าหากฉันใส่หน้ากาก ฉันก็สามารถโกหกคนทั้งโลกได้ แต่ ฉันก็ไม่สามารถโกหกหัวใจของตัวเองได้

Who is that girl I see staring straight back at me?

เด็กผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน คนที่จ้องมองกลับมาที่ฉันเสมอ

When will my reflection show who I am inside?

เมื่อไรที่จะได้เห็นว่าภายในของฉันคือใคร ?

I am now. In a world where I have to hide my heart. And what I believe in.

บัดนี้ฉันรู้แล้ว ในโลกนี้ ที่ใดคือที่ๆ ฉันจะซ่อนหัวใจของฉันเอาไว้ และเชื่อมั่นในสิ่งใด

But somehow I will show the world what’s inside my heart. And be loved for who I am

แต่จะอย่างไรก็ตาม ฉันจะแสดงให้โลกได้รับรู้ ว่าอะไรที่อยู่ภายในใจของฉัน และรักฉันในสิ่งที่ฉันเป็น

Who is that girl I see staring straight back at me?

เด็กผู้หญิงคนนั้นคือใครกัน คนที่จ้องมองกลับมาที่ฉันเสมอ

Why is my reflection someone I don’t know?

ทำไมสิ่งที่ฉันเห็นถึงเป็นใครบางคนที่ฉันไม่เคยรู้จัก ?

Must I pretend that I’m someone else for all time?

ฉันต้องเสแสร้งว่าเป็นอย่างนั้น เป็นคนอื่นตลอดเวลา

When will my reflection show who I am inside?

เมื่อไรที่จะได้เห็นว่าภายในของฉันคือใคร ?

There’s a heart that must be free to fly. That burns with a need to know the reason why.

เมื่อหัวใจที่ต้องการจะโผบิน ถูกแผดเผาไปกับความอยากรู้ว่าทำไม

Why must we all conceal what we think how we feel.

ทำไมเราจะต้องปกปิด ว่าเราคิดอะไร ว่าเรารู้สึกเช่นไร

Must there be a secret me. I’m forced to hide?

มันต้องปิดบังเป็นความลับด้วยหรือ หรือว่าฉันต้องฝืนที่จะซ่อนมัน

I won’t pretend that I’m someone else for all time.

ฉันจะไม่เสแสร้งอีกแล้วว่าฉันเป็นคนอื่นอยู่ตลอดเวลา

When will my reflection show who I am inside?

เมื่อฉันแสดงออกมาว่าตัวตนที่แท้จริงของฉันคือใคร ?

When will my reflection show who I am inside?

เมื่อฉันจะแสดงออกมาว่าฉันคือใครที่แท้จริง ?


 :53:จบจนได้ แปลมั่วแหลกลาญ  ฮี่...
บันทึกการเข้า

อืมมม...
ู^
^
ใช่จากเรื่องมู่หลันรึเปล่า
ชอบเหมือนกันเลยค่ะ  อ๊าง~



When will my reflection show who I am inside?

เมื่อฉันจะแสดงออกมาว่าฉันคือใครที่แท้จริง ?



เมื่อไหร่กันนะ ที่ภาพสะท้อนจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของฉันซักที

น่าจะโอเคกว่าเนอะ?  ลันล้า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มี.ค. 2009, 11:38 น. โดย Liลิ » บันทึกการเข้า

See ya @ http://www.facebook.com/LiLiFam (●◡●)
ู^
^
ใช่จากเรื่องมู่หลันรึเปล่า
ชอบเหมือนกันเลยค่ะ  อ๊าง~

เมื่อไหร่กันนะ ที่ภาพสะท้อนจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของฉันซักที

น่าจะโอเคกว่าเนอะ?  ลันล้า
ใช่ครับ ต้องเรียกว่า มู่หลันเอาไปเป็นเพลงประกอบมากกว่า


เมื่อไหร่กันนะ ที่ภาพสะท้อนจะแสดงตัวตนที่แท้จริงของฉันซักที

น่าจะโอเคกว่าเนอะ?  ลันล้า
โอ้ แจ่มครับ นึกคำสวยๆ ไม่ออก ปลื้ม
บันทึกการเข้า

อืมมม...






Christina Aguilera ไม่ใช่เหรอครับ งง


บันทึกการเข้า

งบน้อย

Christina Aguilera ไม่ใช่เหรอครับ งง


ใช่แล้วครับ ผมจำผิดเพลง  ไอ้มืดหมี ฮือๆ~ ที่ Diana Ross ร้องมันอีกเพลงนึง แต่ชื่อเหมือนกัน   ฮือๆ~ ฮือๆ~ ฮือๆ~

ปล่อยไก่อีกแล้วตรู  ง่ะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20 มี.ค. 2009, 12:29 น. โดย papos » บันทึกการเข้า

อืมมม...
หน้า: 1 ... 25 26 27 28 29 30 31 [32] 33 34 35 36 37 38 39 ... 43
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!