เหอๆ ๆ พลาดซะแล้วลุงเป็ด
ดันจะมาแปลเพลงเทพระดับโรงแรมแคลิฟอเนีย
หะแรกก็เคยคิดว่าไม่น่าโหดร้ายเกินไปนัก แค่ต้องตามหาสัญลักษณ์บางอย่างที่อยู่ในเพลง
แต่มันมีหลายตำราเหลือเกิ๊นนนน
ต่างคนต่างตีความ ทั้งเรื่องของโรงแรมผี ไปจนลัทธิบูชาซาตาน
ศัพท์แต่ละคำล้วนแฝงการเล่นคำ เล่นความหมาย และ เป็นสัญญะ ถ้าจะแปลจริงๆ คงต้องใส่เชิงอรรถกันเลยทีเดียว
ดังนั้นเตรียมดิกลุงซันไว้ด้วยครับ ถ้าสงสัยคำไหนจะได้คลิกเลย เพราะแปลแบบถอด แบบสังเคราะห์เอง
ผมเลือกแปลแบบการเปรียบ "โรงแรมแคลิฟอเนีย" คือ วงการอุตสาหกรรมเพลง 70's
หรูหรา ฟุ้งเฟ้อ แต่จะดูดกลืนวิญญาณศิลปินของคุณไปจนไม่เหลือ อธิบายแค่นี้ ที่เหลือลุยโลด
ผิดถูกยังไง เดี๋ยวอาจารย์เก้อ อาจารย์ณตก็ตามมาเป็นเชิงอรรถให้เองแหละ
อ้อ แล้วจะแปลแบบเยิ่นเย้อเอาความด้วยนะเก้อ
Hotel California / Eagles
โรงแรมแคลิฟอเนีย โดย คณะนกอินทรีย์On a dark desert highway, cool wind in my hair
Warm smell of colitas, rising through the air
Up ahead in the distance, I saw a shimering light
My head grew heavy and my sight grew dim,
I had to stop for the night
มุ่งไปบนถนนไฮเวย์ที่ตัดผ่านทะเลทรายอันมืดมิด สายลมเย็นพัดแทรกผ่านเส้นผม
กลิ่นหอมอุ่นอวลของดอกโคลิตัส ตลบฟุ้งไปในอากาศชวนมึนเมา
ผมมองเห็นแสงระยิบระยับอยู่ไกลๆ
ตอนนี้เริ่มหัวหนัก และ สายตาก็เริ่มหรี่ลาง
ผมคงต้องหยุดพักการเดินทางหาที่พำนักนอน
There she stood in the doorway, I heard the mission bell
And I was thinking to myself: this could be heaven or this could be hell
Then she lit up a candle and she showed me the way
There were voices down the corridor,
I thought I heard them say:
ที่นั่น เธอยืนอยู่ตรงทางเข้าประตู ผมได้ยินเสียงกริ่งเรียกพนักงาน
ขณะนั้นผมครุ่นคิดกับตัวเองว่า..นี่อาจจะป็นสวรรค์ หรืออาจเป็นนรกกันแน่
แล้วเธอก็จุดเทียน แสงสว่างทำให้ผมเห็นทางข้างใน
พลันมีเสียงดังลงมาทางเดิน
ผมว่าผมได้ยินพวกเขาพูดว่า..
Welcome to the Hotel California
Such a lovely place (such a lovely place), such a lovely face
Plenty of room at the Hotel California
Anytime of year (any time of year), you can find it here
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอเนีย
ที่นี่ช่างสวยงาม (ที่นี่ช่างสวยงาม) ผู้คนก็น่ารัก
โรงแรมแคลิฟอเนียมีห้องให้คุณเหลือเฟือ
ไม่ว่าฤดูไหน ช่วงไหนของปี (ไม่ว่าฤดูไหน ช่วงไหน) คุณก็จะหาห้องได้เสมอ
Her mind is Tiffany twisted, she got the Mercedes bends
She got a lot of pretty, pretty boys, that she calls friends
How they dance in the courtyard, sweet summer sweat
Some dance to remember, some dance to forget
จิตใจเธอช่างคดโกง แสวงหาแต่ผลประโยชน์ เธอมีของหรูหราตราเมอเซเดสที่โค้งงอ
เธอมีหนุ่มๆ หน้าตาดีมากมายห้อมล้อม ซึ่งเธอเรียกว่า “เพื่อน”
พวกเขาเริงระบำกันอยู่ที่สนาม ท่ามกลางอากาศอบอุ่นของคืนฤดูร้อนกันเหงื่อหยด
บางเพลงก็น่าจดจำ..แต่กับบางเพลงก็ถูกลืมเลือนไป
So I called up the captain, "Please bring me my wine", He said
"We haven't had that spirit here since nineteen sixty-nine"
And still those voices are calling from far away
Wake you up in the middle of the night, just to hear them say:
ผมจึงเรียกหัวหน้าบริกร “ช่วยเอาเหล้าไวน์ให้ผมที” เขาตอบว่า..
“เหล้า หรือจิตวิญญาณล่ะที่คุณอยากได้ แต่มันก็หมดไปจากที่นี่ตั้งแต่ปี 1969 แล้วล่ะ”
และเสียงเหล่านั้นยังคงเรียกมาแต่ไกล
ปลุกคุณให้ผวาขึ้นมากลางดึก เพียงเพื่อได้ยินพวกเขาตอกย้ำว่า
"Welcome to the Hotel California
Such a lovely place (such a lovely place), such a lovely face
They livin' it up at the Hotel California
What a nice surprise (what a nice surprise), bring your alibis"
ยินดีต้อนรับสู่โรงแรมแคลิฟอเนีย
ที่นี่ช่างสวยงาม (ที่นี่ช่างสวยงาม ) ผู้คนก็น่ารัก
พวกเขาใช้ชีวิตกันอย่างหรูหราที่โรงแรมแคลิฟอเนีย
คงแปลกใจมากสินะ (คงแปลกใจมากสินะ) คุณเองก็เตรียมหาข้ออ้างที่ต้องอยู่ที่นี่ต่อเถอะ
Mirrors on the ceiling, the pink champagne on ice, and she said
"We are all just prisoners here, of our own device"
And in the master's chambers, they gathered for the feast
They stab it with their steely knives but they just can't kill the beast
ในห้องเพดานกระจกหรูหรา กับแก้วใส่เชมเปญสีชมพูเย็นฉ่ำ เธอพูดว่า
"พวกเราทุกคนต่างถูกจองจำไว้ที่นี่..ด้วยสิ่งที่เราสร้างมันขึ้นมาเอง"
และ ในห้องประชุมใหญ่ พวกเขามาร่วมงานฉลองอันบ้าคลั่ง
พวกเขาจ้วงแทงด้วยมีดที่ดีที่สุดแล้ว แต่พวกเขาก็ยังฆ่าเจ้าสัตว์ร้ายที่ครอบงำพวกเขาไว้ไม่ได้อยู่ดี
Last thing I remember, I was running for the door
I had to find the passage back to the place I was before
"Relax," said the night man, "We are programmed to receive
You can check out any time you like, but you can never leave"
สิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้คือผมวิ่งหาประตูทางออก
ผมต้องหาทางกลับไปสู่สิ่งที่ผมเคยเป็นเมื่อก่อน
"ใจเย็นไว้" บุรุษสนธยากล่าว "เราถูกป้อนคำสั่งเอาไว้ให้ได้แต่ต้องยอมรับ
ว่าคุณสามารถเดินออกไปได้ทุกเมื่อนั่นแหละ แต่คุณไม่มีวันหนีไปได้พ้นหรอก"