อ่านมติชนสุดฯ ฉบับล่าสุด (ปกเป็น โหร-โหน)
มีบทความ อ.นิธิ เขียนเรื่อง "สังคมพหุภาษา"
ก็ได้ความรู้ในฝั่งที่แย้งกับอีตาอะไรนั่นแหละมากระบุงนึง
คือตอนนี้คนทั่วโลกเริ่มละทิ้งภาษาถิ่น หันมาพูดภาษาหลักกันแล้วนะครับ
เป็นวิกฤติการณ์ทางวัฒนธรรมที่กำลังลุกลามจนน่าตกใจ
เดี๋ยวจะอธิบายว่าทำไมอีแค่ภาษาหายนี่ถึงน่าตกใจ
เอาง่ายๆ ในประเทศไทยมีภาษาที่ใช้สื่อสารกันอยู่ 70 ภาษา!!
แต่ตอนนี้ภาษาชาวเขาบางเผ่า คนในเผ่าเองก็เลิกพูดกันแล้ว (เพราะมีทีวีที่พูดไทย!)
คนที่พูดที่ใช้ที่ศึกษากลับเป็นนักวิชาการด้านภาษา
ที่ลงทุนเข้าไปเรียนรู้และตักตวง ก่อนที่คนรุ่นนี้จะผลัดใบ
นี่แค่ภาษาไทยใกล้ๆ ตัว
ยังมีตัวอย่างภาษาอื่นอีกสารพัด ที่ขนาดตั้งว่าเป็นภาษาราชการแล้วนะ
แต่คนทั้งชาติก็หันไปใช้ภาษา E กันหมดจนพูดภาษาราชการของตัวเองไม่ได้
ถามว่ามันไม่ดียังไงเหรอ ก็ดีแล้วนี่?
คือภาษามันมากับวัฒนธรรมครับ
เรามีคำเรียกแทนสรรพนามบุรุษที่สองว่า พี่ พ่อ แม่ คุณ เธอ ที่รักจ๋า ตัวเอง~ ฯลฯ
ในขณะที่ฝรั่งมีแค่คำว่า YOU - แค่เท่านี้ก็ต่อยอดไปถึงรากลึกทางวัฒนธรรม
รวมถึงคำตอบแห่งสันดานคนทั้งประเทศที่ปลูกฝังกันมายาวนานได้แล้วนะ
ก็เพราะภาษานี่แหละ ที่ทำให้เรารู้ (หรือไม่รู้วะ) ว่าคนไทยมาจากไหน
ทำให้เรารู้เรื่องโลก เรื่องศิลปวัฒนธรรม เรื่องอดีต ปัจจุบัน อนาคต
ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม(คนไทยเดี๋ยวนี้เริ่มลืมคำนี้กันละ)
รวมไปถึงการขุดโคตรเหง้าทางประวัติศาสตร์สารพัดมาศึกษาเรียนรู้
ถ้ามันหายไป 1 ภาษา
ก็เท่ากับโลกเราสูญเสียกุญแจไขสู่วัฒนธรรมไปโดยถาวร 1 ดอก
เรื่องนี้น่าสนใจนะ ถึงจะเป็นเอพิ่วฟูก็เหอะ
คือเหมือนผู้จัดกวนนั่นแหละ ทำเป็นเล่นตลก แต่ที่แท้ก็โชว์ว่าในใจคิดอะไร
แต่เอาเรื่องภาษามาแลกกับโลกร้อน จะคุ้มไหมวะ แสรดดด
