พี่ให้คำปรึกษาไม่ได้เพราะไม่ได้อยู่ในเส้นทางสายอาชีพนั้น
เลยลองเอาลิงก์ไปแปะให้เพื่อนที่เป็นหมอลองกดเข้ามาอ่าน เผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ นะ
มันอยู่ที่ความชอบมากกว่าครับ ไม่ได้ขึ้นกับความสามารถ
ฉึก
เมื่อวานซืนมีกรณีนึงเกิดขึ้น
คือประกาศผลสอบเข้ามหาลัยปีนี้ คะแนนท็อปสุดคือ 79.xxx คะแนน เป็นของหมอจุฬาฯ
คุณวิศาลเอามาเล่าในรายการขา่วเช้ามืดตอนตีสี่ แล้วบรรยายบทสัมภาษณ์น้องคนนั้นมาให้ฟัง
น้องบอกว่า หนูถนัดคำนวณกับฟิสิกส์
เลยเล็งไว้สองอย่าง ไม่วิศวะก็หมอ แล้วก็ติดหมอด้วยคะแนนอันดับหนึ่งของประเทศ*
พอถามว่าจะฝากอะไรให้น้องๆ ที่จะเข้ามหาลัยต่อไป (น้องคนนี้จบมหิดลวิทยานุสรณ์)
น้องก็บอกว่า เวลาเลือกว่าจะเข้าคณะอะไรเนี่ย ให้เลือกจากวิชาที่เราถนัดและทำได้ดี
อย่าไปคิดว่าเข้าเรียนแล้วจบมาจะเป็นอะไร รายได้ดีไหม ...
สัมผัสได้ถึงควมบิดเบี้ยวเลยครับ
ตูไม่อยู่ในฐานะที่น้องเขาเป็น แต่เอาตัวเองตัดสินไปแล้วว่า
เฮ้ย คิดแบบนี้เหรอวะ นี่น่ะนะที่หนึ่งของประเทศ*
ถ้าเป็นตูตูคงบอกลูกหลานไว้ก่อนว่า อยากเป็นอะไร ชอบอะไร รักอะไร ก็เรียนไปทางนั้น
เพราะตอนมัธยมตูไม่ชอบวิศวะเอาเสียเลย แต่พ่อแม่ก็ผลักดันให้มาทางนี้
ถึงไม่บังคับ แต่ก็สัมผัสได้ - ซึ่งในเมื่อใจไม่ชอบการดำเนินชีวิตแบบวิศวะแล้ว ละจะเรียนไปทำไม
ดังนั้นเลยพาตัวเองเข้าถาปัดซะเลย (ยิ่งแล้วใหญ่

)
ป.ล.
น้องคนนั้นบอกว่า หนูอาจจะเลือกไปเอาทุนที่ได้รับจากอเมริกาในทางวิศวะก็ได้ (คือสละสิทธิ์ทางนี้)
เพราะบอกตามตรงว่าหนูไม่ค่อยถนัดชีววิทยา แต่ชอบคำนวณมากกว่า.....
ป.อ.
*ขยายความจากดอกจัน - วันต่อมาก็มีข้าวใหม่มาแทน
นั่นคือทางแพทย์ศิริราชก็มาแย้งว่า ที่ 1 ประเทศปีนี้อยู่ที่ศิริราชต่างหาก (เด็กเตรียมฯ)
คือจริงๆ แล้วน้องที่ได้แพทย์ศิริราชทำท่าจะไปรับทุนหลวง ทางจุฬาก็เลยปัดให้ที่ 2 เป็นที่ 1 แทนไง
แต่ทำไปทำมาดูแล้วน้องเขายังไปรายงานตัวที่ศิริราช ก็เลยยังถือว่านั่นเป็นที่ 1 อยู่
ซึ่งทางแพทย์จุฬาฯ เลยบอกว่า (ไม่ได้บลัฟกันนะครับ) ถ้านับตามคะแนนรวมแล้ว
จุฬาก็ยังเป็นที่ 1 อยู่ดี....
ป.ฮ.
ถือเป็นโลกที่ตูไม่เข้าใจครับ คือตัวเองเข้าใจแบบหนึ่ง
แต่เชื่อว่าสำหรับเราที่คิดว่าเราคิดถูก มันอาจจะผิดในมุมมองของคนในวงการการศึกษาก็ได้
เลยไม่รู้เว้ย ปั่นบอร์ดดีกว่า