ก็คิดอยู่ว่าไอ้ที่เจอนี่คือ.. อิหยังวะเราไม่ได้คิดว่าจะต้องมาทำอะไรแบบนี้
จากที่คุยกะในทีมน้องๆ sales แต่ละคนที่เข้ามานี่
ไม่ได้คิดว่าอยากจะหลอกใครเลย
อยากเอาความรู้จากการเล่นหุ้นมาแชร์
เอาวิธีดูตลาดหุ้นนอกมาแชร์ว่า
ถ้าช่วงนี้ข่าวมาแนวนี้ควรดูสินทรัพย์ตัวไหนดี
แต่ก็นั่นแหละมาเจอเรื่อง J บวกกะนโยบายของนางอีก
ก็เฟลกันไป และโดนบังคับแบบมัดมือชกด้วย
ลืมเล่าเพิ่ม- คนที่ทำโปรโมชั่นรับประกันผลตอบแทน 80% ก็ J นี่ล่ะ
บังคับให้บอกลูกค้าแบบนี้
(ปกติรับประกัน 5-10% และมากสุดแบบชนเพดานจริงๆ ไม่เกิน 30%)
และระบุในสัญญาแบบนี้ ระหว่างที่ร่างสัญญาฉบับภาษาไทย
จะให้ก๊อบประโยคไทยในสัญญาใส่ google translate เป็น english
แล้วต้องแปลให้ได้ตามที่ต้องการทุกข้อทุกบรรทัดในเอกสารสัญญา
ก่อนให้ลูกค้าเซ็นไม่งั้นโดนใบเตือนอีกด้วย
ดังนั้นจะบอกว่า sales เป็นคนผิด ก็ไม่ใช่น่ะนะ เค้าแค่ทำตามคำสั่ง - sales ต้องตั้งเป้าแต่ละเดือนของตัวเอง และทำยอด
ถ้า sales ไม่ทำและยอดไม่ได้ตามเป้า
ก็จะให้เข้าออฟฟิศวันเสาร์อาทิตย์
ระหว่างนี้ก็มีคนที่ออกไปทำร้านอาหารไทย 1 คน
มาขายคนในทีมนี่แหละ
เพราะมาทำงานวันหยุดนางไม่ชอบก็เลยออก
ได้ผัวที่นี่ support เรื่องที่อยู่ใหม่
ไม่ก็ให้มาออฟฟิศตั้งแต่หัววัน
ซึ่งมันผิดเวลาที่ตกลงกับลูกค้าไว้
บางทีก็ให้โทรหาตอนเวลาที่ลูกค้ากำลังจะนอนแล้ว
หรือไม่ก็ วันหยุดวันครอบครัวก็ยังจะให้โทรไรงี้ - เรื่องเข้างาน คือ ในทีมมีกฎการหลอกลูกค้าข้อนึงว่า
ออฟฟิศเราไม่ได้ตั้งอยู่ทั้งที่ไทยและที่ฟิลิปปินส์
แต่ตั้งอยู่ที่ Sydney, AUS.
เวลาโทรหาเลยเป็นเวลาที่อยู่ที่ออสโทรกลับไปที่ไทยแต่ตัวจริงอยู่ปินส์ (ซับซ้อนชิบหาย)
ส่วน สนญ. อยู่ประเทศเซเชลส์ (Seychelles)
ลอง google ดูได้เป็นเกาะเล็กๆ แถวๆ แอฟริกา
เพื่อให้หลอกแนบเนียนการหลอกเรื่องเวลาทำการ
สภาพแวดล้อมแถวออฟฟิศที่อยู่ว่ามีการปิดพื้นที่ กักตัวมั้ย
ก็เลยเป็นอีกเรื่องนึงที่ต้องดู เรียกว่าพอโกหกแล้วก็ต้องโกหกไปเรื่อยๆ ว่างั้น
แต่เรื่องจะหลุดก็เพราะอิ J อยากได้ยอดจากลูกค้ามากเกินไป
ไม่ดูเวล่ำเวลานี่แหละ - เวลาโทรจะใช้โปรแกรมโทรศัพท์ที่สามารถสุ่มเบอร์โทรมือถือของประเทศนั้นๆ ได้ โปรแกรมนี้จะบันทึกเสียงการสนทนาทุกครั้งไว้ที่ server ส่วนกลาง ส่วนเบอร์โทรศัพท์กับข้อมูลลูกค้าบางส่วนนั้น มีอยู่ในโปรแกรมอยู่แล้ว
- สงสัยมั้ยว่า ลูกค้าใหม่จะงอกมาได้ไงถ้าไม่สมัครหรือถูกหลอกเข้ามา หรือซื้อข้อมูลมาใส่
ของที่นี่ ถ้าจะมาใหม่เนี่ยจะมาจากเว็บของบริษัทที่ไทย (เจ้าของ บ. ชื่อลุง B)
ทำเว็บเป็นเว็บรับสอนเล่นหุ้นต่างประเทศ
ค่าคอร์สถูกๆ สัก คอร์สละ 100 usd เป็นคอร์สเบสิก คิดเป็นเงินไทยก็หลายพันแหละ
และก็ถ้าไม่พอใจภายใน 14 วันรับประกันคืนเงินด้วย
ถ้าคนมันอยากรวยแบบนี้ใครจะไม่อยากสมัคร และก็จ่ายตังค์มาเรียน
พอข้อมูลลูกค้าสมัครเสร็จจ่ายเงินเรียบร้อยปั๊บ ข้อมูลจะถูกส่งเข้าระบบฝั่งทีมที่ฟิลิปปินส์ ไปโทรต่อ ลูกค้าจะงงๆ นิดหน่อยว่าคนละหน่วยงานกัน sales ให้โปรโมชั่นไม่เหมือนที่ขายไว้ตอนแรก
แต่ในเวลานั้นถ้าลูกค้ายังพอรู้ตัวรีบขอคืนเงินโดยเร็ว โอกาสที่จะได้เงินกลับไปครบ ก็จะมีสูง - ใครที่โชคร้ายจ่ายเงินค่าคอร์สแบบโอนเงิน Promptpay มา
หรือว่า ระหว่างเรียนมีการเทรดไปแล้ว หรือมีการขอถอนเงิน
จะใช้สิทธิ์ขอคืนเงินยากหน่อย (2 กรณีหลังเรียกว่าหลุดประกันคืนเงิน 14 วัน)
ก็ต้องขอหลักฐานยืนยันตัวตน KYC ด้วย
ว่าตรงกับชื่อที่สมัครเข้าระบบมาจริงมั้ย
มีบัตร ปชช หน้าหลัง book bank ที่จะให้โอนเงินคืนกลับไป
และก็บิลค่าไฟหรือค่าโทรศัพท์มือถือ 1 หรือ 2 เดือนล่าสุดเพื่อเช็คที่อยู่ปัจจุบัน
ใครไม่ให้ตามนี้ก็คือ ยืนยันตัวตนไม่ผ่าน อดตังค์
ใครขีดคร่อมสำเนาจนไม่เห็นตัวหนังสือ ก็ไม่ผ่าน
ใครถ่ายรูปไม่ดี ลายน้ำราชการบังรูปหน้าตัวเอง หรือบังตัวหนังสือ ก็ไม่ผ่าน
ใครเอาเอกสารหมดอายุมาส่งก็ไม่ผ่าน
บิลเกินกำหนด 3 เดือนก็ไม่ผ่าน
book bank ไม่ตรงกับชื่อที่สมัครก็สุ่มเสี่ยงไม่ผ่าน
บัญชีไหนโอนแล้วไม่ผ่าน เสียเวลาต้องมาขอบัญชีที่ใช้ปัจจุบันอีกนะ - ก็มีเหมือนกันที่ไม่ให้บัตร ปชช มา ให้หน้าไม่ให้หลัง หรือให้แบบขีดฆ่าบางส่วน ทำไงถึงจะส่งผ่านจะได้คืนเงินให้เขาไป เราก็ไม่อยากรั้งเขาไว้เหมือนกัน ก็มีการ make จากข้อมูลลูกค้าที่ให้มาครบใส่กับลูกค้าที่ให้มาไม่ครบ ทำแบบ เนียนๆ หน่อย (ใช้ photoshop) ส่งไปเช่นกัน ก็ผ่านนะ
หลังๆมานี้ก่อนจะยุบทีม ทีม kyc มีกฎเช็ค exif กับไฟล์ ID ก็เลยทำแบบนั้นไม่ได้แล้ว - ก่อนเพื่อนๆ เราจะบินมาที่เกาะนี้ก็มีคนไทยทำอยู่ก่อนแล้ว 2 คนคือ นาย N (เป็น trader และ support) กับ น้อง Y (เป็น sales) คนที่เทรนเราก่อนบินมาที่นี่ก็คือนาย N นี่แหละ
- J เป็นคนฝรั่งเศสนะ เคยมีคดีค้าและเสพที่ฝรั่งเศสมาก่อน (อันนี้คนในทีมฝรั่งเศสลูกน้อง J เล่ามา)
- J มีเมียอยู่แล้วที่ฝรั่งเศส ลูก 1
- J หนีคดีมาที่นี่ละก็เลยมีเมียฟิลิปปินส์อีกคน ตั้งทีมไทยขึ้นมาบริหารกับเมีย
- นอกเหนือจากออฟฟิศนี้ที่ J มีชื่อเป็นเจ้าของก็มีผับ LP ใหญ่มาก
แต่พอมีโควิดก็ปิดตัวยาว ขาดทุน ลูกน้องก็ต้องดูแลอีกต่างหาก - ก็เพราะมีผับนี้น่ะแหละมั้งเมียฝรั่งเศสเลยเจอตัว J หลังจากที่ตามหาตัวมาหลายปี
แต่พอเห็นอยู่กะเมียใหม่ก็.. อยากให้มันขาดจากกัน แต่จะทำยังไง ก็ปิ๊งไอเดีย - เมียฝรั่งเศส เอาคดีที่ยังไม่หมดอายุความของ J ไปติดต่อกับทางการฟิลิปปินส์
ให้เป็นคดีระหว่างประเทศ - เมื่อไหร่ที่ J ไปมะนิลา วันนั้นก็จะเป็นวันที่ทั้ง J และเมียปินส์ได้พรากจากกันเพราะถูกตำรวจจับ
- เหตุการณ์ที่ J ถูกจับเพราะเมียฝรั่งเศสนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก
ดังนั้นคนในทีมฝรั่งเศสจึงไม่ได้รู้สึกอะไรและนั่งทำงานต่อไป เพราะมองว่าเป็นเรื่องส่วนตัว
คนทีมเราที่ไม่รู้โครงสร้างบริษัทที่แท้จริง
ส่วนหนึ่งวิ่งไปเก็บของเฉพาะที่จำเป็น
แล้วมารวมตัวที่ห้องตัวตั้งตัวตีของกลุ่ม
แห่จะไปสถานทูตกัน
แต่ในใจเราตอนนั้นคิดว่า ถ้าเราไปสถานทูตตอนนี้ก็คือ
เราก็คือโดนเรื่องวีซ่าผิดประเภทแล้วนะ
เรากับพี่ sales ในทีมไทยอีกคน ขอตั้งชื่อว่าพี่เอส
ในเวลานั้นเรายังไม่เห็นึวามเคลื่อนไหวของพี่เอส
เลยไปหาที่ห้อง
ก็มีความเห็นตรงกันสองคนว่าควรโทรคุยกับ hr ออฟฟิศที่ไทย
และพี่เอสก็สนิทกับคนในทีมฝรั่งเศส ก็ปรึกษาเรื่องนี้
ช่วยกันประสานงาน เผื่อเค้าจะติดต่อใครที่ support เรื่องนี้ได้
เราพบว่าพี่เอสเป็นเพื่อนกับลุง B เจ้าของ บ. ตั้งต้นที่รับสมัครลูกค้า
และ HR เองก็รู้จักกับลุง B
การมีเรื่องเข้าคุกของอิ J
และคนในทีมฝรั่งเศสที่คิดว่าปกติ บ. แม่จะยัดเงินให้หน่วยงานพวกนี้
และก็กลับมาได้เหมือนทุกครั้ง รอบนี้จะต่างออกไป
บ.แม่ video call หาทีมเราและหน.ทีม ฝรั่งเศส
ให้หัวหน้าทีมฝรั่งเศสรักษาการคุมทีมไทยชั่วคราว
ทีมไทยได้หัวหน้าใหม่ก็ต้องยังอยู่ทำงานต่อ
มีคนหนี 1 คนเพราะกลัว ขอให้ชื่อว่า apple
เรียกว่าหนีไปอยู่ที่อื่นที่ที่คนในทีมติดต่อไม่ได้
(คนนี้ก็ยืมตังค์คนอื่นไปเยอะแล้วก็หนีแบบนี้เลยทำให้ตามทวงเงินไม่ได้)
และติดต่อสถานทูตเองเพื่อขอกลับไทย
หลังจาก J เข้าคุกได้ไม่นาน น้อง sales ชื่อ M (พบตอนหลังว่าเป็น spreader) ไอเรื้อรังแล้ว
ไปคลุกคลีกะน้องอิ๊ง Sales อีกคนนึง ทีนี้ก็มีอาการคล้ายๆ กัน
เลยไปตรวจ RT-PCR ผลก็บวกจ้า ก็เลยกักตัวอัตโนมัติทั้งทีม
กักตัวแต่ก็ยังทำงานอยู่นะ มีคอม pc มาวางหน้าห้องให้ประกอบเอง
เพราะทีมไอทีที่นี่ กลัวติดโควิดเช่นกัน
กักตั้งแต่ประมาณ week 2 ของเดือน กพ. นับไป 14 วัน ตรวจซ้ำ
ใครเป็นลบทั้ง 2 รอบก็ออกมาข้างนอกได้
ถ้ามีคนติดเพิ่มก็กักตัวต่อแล้วค่อยตรวจซ้ำอีกที 14 วันถัดไปรอบหน้า
จำนวนคนติดทั้งหมด 7 คน
(รวมตรวจทุกครั้ง) [หัก ยัย apple กับน้องทำร้านอาหาร]
และก็รอดทุก seasons 4 คน
สิริรวมแล้วคือ กักตัวไปประมาณร่วม 3 เดือน
ถึงจะเริ่มกลับไปทำงานที่ออฟฟิศตามปกติ
ความโหดก็คือ ระหว่างกักตัวอยู่ ไม่ว่าจะป่วยขนาดไหน sales ก็ยังต้องโทร
และเน็ตฟิลิปปินส์มันห่วยมากเว่อ
และยังผ่าน vpn อีก ยิ่งห่วยไปกันใหญ่เลย
พอเน็ตแย่ก็โทรคุยไม่รู้เรื่อง
พอ sales บางคนจะ call ผ่าน line หาลูกค้า
เพราะเห็นว่ามันง่ายและ stable กว่า
ไม่ต้องผ่าน vpn ระบบโทรอันนี้ก็เก่าเกิน
ไม่มีที่ให้บันทึกหากมีการติดต่อลูกค้าผ่านช่องทางข้างนอกระบบ
ติดตามไม่ได้ด้วย
พอยอดไม่มี ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่
แต่หัวหน้าก็ยังด่าและทำเป็นไม่สนใจว่า มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ทีมเราบ่นกันในกลุ่ม whatsapp ว่า
อยากให้ทีมฝรั่งเศสติดโควิดทั้งทีมดูบ้างมันจะโทรได้มั้ย
ทีมไทยติดโควิดจากการประชุมในห้องแคบคราวนั้น
ทำให้ยอดขายตกหลายเดือนติดต่อกันเป็นประวัติการณ์
ส่วนการรักษาโควิดที่นี่เป็นแบบ home isolation
และต้องมีใบสั่งยาจากเพทย์เท่านั้นจึงจะไปซื้อยากินเองได้
ไม่มียาฟรีจากรัฐบาล
และถ้ายาขาดแคลนมากๆจะให้กินเป็นวิตามินแทน
ช่วงนั้นเชื้อโควิดกลายพันธุ์เก่งมาก
เชื้อที่พวกเราได้รับเป็นสายพันธุ์ใหม่สุด
https://www.rappler.com/nation/doh-region-7-says-covid-19-variant-of-concern-detected-cebu-city-february-2021/มันกลายเป็นว่า ออกนอกบ้านก็ต้องระวังตัว
เพื่อนที่ติดโควิดฝากซื้อของ ก็ต้องยิ่งระวังตัว
เพื่อนไม่มียากินจะกินอะไรให้ทุเลา
ตอนนั้นเพื่อนขอให้ชื่อว่าพี่ D
ฝากซื้อขิงแก่ ขิงอ่อน น้ำตาลก้อน มาต้มดื่มแก้เจ็บคอ
ซื้อมาต้มสูตรนึงกินได้หลายวัน แล้วนางก็อาการดีขึ้นนะ
ส่วนยาอีกตัวที่มีคือฟ้าทลายโจรที่เอาเข้ามาโดยพี่เอส
และก็ มีคนขอไป on site ที่ไทย เพื่อไปรักษาเนื้องอกในสมอง
ระหว่างที่จะบินกลับไทยก็ต้องแวะมะนิลาก่อน ก็มาป๊ะกับยัย apple
เรื่องน่าเฟลก็มาเกิดอีกครั้ง
เมื่อ apple เอากระเป๋าเดินทางที่พี่เอสให้ยืม
ตั้งแต่บินจากไทยมาที่นี่
พร้อมกับเงินสดอีกจำนวนนึงของใครหลายคน ไปด้วย
และบอกกับคุณเนื้องอกว่าจะไม่ชดใช้และจะไม่คืนกระเป๋า
นางขอโทษทุกคนด้วย ส่วนของในห้อง เอาไปขายได้เลยไม่เอาแล้ว
(มีแต่ขยะทั้งนั้น)
คนบ่นเยอะที่สุดในเรื่องนี้คือนาย N
เพราะนางให้ apple ยืมตังค์เพราะเห็นว่าเป็นคนเหนือด้วยกัน
สุดท้ายต้องมาเก็บห้องเก็บซากให้อีกด้วย ทวงตังค์ก็ไม่ได้คืน
อะไรก็ไม่แย่เท่าคนในทีมโกงกันเองนี่แหละ ดีที่เรารู้ทัน
ของเราคือ เคยโดนแลก notebook อันห่วย
มาจากยัย apple ตอนเทรนที่ไทย ไปเอาคืนก็โดนแง่งใส่
เลยไม่ยุ่งละกัน ไม่อยากทะเลาะ
พอเล่าให้คนอื่นฟัง คนอื่นหาว่าเราคิดมาก
อืมเจอกะตัวดูละกันจะรู้
งานเราที่มีรายการยอดขอถอนเยอะตั้งแต่เดือนกุมภา
ถึงเดือนพฤษภาคม ยอดขายของทีมไม่ดีเท่าไหร่
จากเดิมเคยทำได้ 1 แสน ตอนนี้ได้ 5,000 ก็ดีใจแล้ว
ทำให้ไม่สามารถส่งรายการถอนเงินทั้งหมดให้ลูกค้าได้
มันส่งผลทำให้ Sales ไม่อยากโทรหาลูกค้า
เพราะเมื่อไหร่ที่โทรไปก็จะถูกด่าว่าโกงเงิน
เมื่อไหร่เงินที่ขอถอนไปจะได้สักที
มันก็จะเป็นเรื่องเดิมๆที่ต้องเจอ
แต่ถ้าไม่มี log ในระบบเลยก็จะโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง
จนกระทั่งวันนึงมีคำสั่งล้างท่อมา
ล้างท่อคืออะไร
มันคือ ส่งยอดถอนของลูกค้าที่ขอมาให้หมดทุกรายการ
เราจะบอกว่า
มันเป็นวันที่ทั้งทีมไทยค่อนข้างจะโล่งใจมากที่สุดตั้งแต่อยู่ที่นี่มาเลย
ยกเว้นหัวหน้า เพราะถอนเยอะมากกกก แต่ยังไม่มียอดขายเลย
พอล้างท่อได้แค่ 3 วัน
ทั้งทีมก็ได้เข้าพิธีกรรมถามตัวเองว่าอยากทำงานที่นี่ต่อมั้ย
ก็มี 2 คนไม่อยากไปต่อ มีน้องนก กับน้อง M ที่เป็น Spreader
ก็จะให้ออกจากหอตามกำหนดวันที่สิ้นสุดการเป็นพนักงาน
เพราะหอที่อยู่ก็เป็นสวัสดิการพนักงานอันหนึ่ง
เรื่องนี้ทำให้พี่เอสเสียความรู้สึก
เพราะว่าเมื่อตอนอยู่ไทย
พี่เอสกะน้อง M ตัวติดกันมาก ตอนนี้เปลี่ยนไป
มีอะไรไม่คุยกันแม้แต่จะไปก็ไม่บอกสักคำ
1 คนที่เป็น support เหมือนกวาง
ขอกลับไปออนไซต์ที่ไทยเพราะแม่เป็นมะเร็ง
แต่ก่อนไป ไม่ได้บินต้องเลื่อนตั๋ว
เพราะผลโควิดรอบสุดท้ายยังเป็นบวกอยู่แบบไม่แสดงอาการ
เลยต้องกักตัวต่อไป พอกักตัวจนผล rt-pcr เป็นลบ ถึงจะได้บิน
ไปถึงไทยตรวจเจอซากเชื้อก็ยังต้องอยู่รพ กักตัวต่ออีก 14 วันอีกนะ
กว่าจะได้กลับบ้านจริงๆ ใช้เวลานานมาก
สรุปถึงตอนนี้ อยู่ไทย 2 อยู่ปินส์ 7
และก็มีดราม่าพันทิปเรื่องนึงคือ
เป็นเรื่องของเจ้าของกระทู้ตั้งกลุ่มไลน์ขึ้นมา
รวมตัวคนที่ไม่ได้เงินจากการขอถอนเงินจากระบบนี้
คนที่เจอกระทู้นี้คือพี่เอส
เขาก็มาปรึกษากวาง ก็เป็นโคนันกันใหญ่
เอามือถือตั้งอวตารเข้ากลุ่มไลน์
ไปแกล้งตอบ แกล้งถามว่าเป็นลูกค้าของใครบ้างที่ไปร้องเรียน
ส่วนใหญ่พอรู้ว่าเป็นลูกค้าของใครก็จะให้ sales คนที่ติดต่อกับลูกค้าคนนั้นโทรหาก่อน
ถ้าไม่ ok ก็ค่อยเปลี่ยนคนคุย แต่ส่วนมากจะเป็นการคุยเพื่อต่อเวลามากกว่า
คนไหนที่เหตุผลควรถอนด่วนก็จะให้เป็นกรณีพิเศษ
เอาเข้าจริงมันก็ไม่ควรมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นรึเปล่านะ
ถ้าให้ถอนได้ก็ควรถอนได้สิจริงมั้ย
ทีนี้กลุ่มไลน์นี่แหละ
พอกวางเข้ากลุ่มไลน์คนที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของกลุ่มเข้าไป
(ชื่อเดียวกันกับกลุ่ม)
มันขึ้นเป็นเบอร์โทรพี่คนนึงในทีม
(กวางมีมือถือ 2 เครื่อง เบอร์ไทย 1 เบอร์ปินส์ 1
เครื่องที่ใช้แอดไลน์กลุ่มเป็นเครื่องที่ใช้เบอร์ปินส์
ก็จะเมมเบอร์คนที่มีปฏิสัมพันธ์ที่นี่ไว้ในนั้น)
มันขึ้นชื่อพี่ D
จากเรื่องนี้สรุปได้ว่า
พี่ D สมรู้ร่วมคิดกับลูกค้าตำรวจอายุน้อยคนหนึ่ง
ตำรวจคนนี้ก็ลูกค้าเก่าของพี่เอสด้วย มีประวัติติดหนี้ credit line ไม่มาก
แต่ลองยกลูกค้าให้พี่ D คุยดูเพราะเห็นศักยภาพว่าน่าจะเจรจาได้
แต่นานวันก็ไม่ยอมชดใช้สักที
ลูกค้ามองว่าได้ผลตอบแทนแล้วทำไมถึงถอนไม่ได้
เลยเอาไปคุยกัน
พี่ D เองมีลูกค้าแนวนี้หลายคนที่คุยแล้ว
ไม่เคลียร์เรื่องยืนยันตัวตนให้จบ มองว่าน่ารำคาญ
แล้วตั้งกลุ่มไลน์นี้ขึ้นมา
กะว่าจะให้ลูกค้ากลุ่มนี้เข้ากลุ่มไลน์ coinbase ของแก
ไปลงทุนอันนี้แทนละแกสอนเทรดเองผ่านแอพ bitkub
แต่ดันมาถูกจับได้ซะก่อน
เพราะพี่เอส คุยเจรจากะลูกค้าตำรวจคนนี้ได้
และมี contact skype กันอยู่แล้ว
เลยขอคุยว่า กับพี่ D คนนี้ เป็นอะไรกันเชิงชู้สาวมั้ย
ถ้าบอกตามจริง เรื่องยอดหนี้ที่ติดค้างจะเคลียร์ให้หมด
และไม่ต้องมาเกี่ยวข้องกันอีก
ลูกค้าตำรวจบอกพี่เอสว่า ไม่มีอะไรเชิงชู้สาวกับพี่ D
แถมพี่ D เคยส่งรูปจริงให้ลูกค้าดูด้วย
พอได้หลักฐานมาก็คือ บริษัทดำเนินการคืนเงินให้
ตัดเครดิตไลน์ที่ลูกค้าเคยยืมไปออกให้หมดให้ลูกค้าคนนี้พ้นจากการเป็นลูกค้า
และเคลียร์เรื่องที่ก่อขึ้นให้เรียบร้อยด้วยว่าได้รับเงินคืนแล้ว
เรื่องนี้พอคนในทีมรู้ก็สะดุ้งเฮือก
เฮ้ย ถ้าเคยบอกว่าเอาตัวรอดได้ เก่งอย่างนั้นอย่างนี้
ก็อย่าทำให้คนในทีมเดือดร้อนสิ
พี่ D เป็นคนแรกในทีมที่ถูกไล่ออก
หมดเรื่อง D แล้ว
มีเรื่องคุณ K ล้มในห้องน้ำและจะกลับไทย
แต่ละคนอยากกลับไทยด้วยเหตุผลต่างๆ นานา
ไม่อยากเสียรายได้ในตอนนั้น
แต่กว่าจะได้กลับมาที่เกาะนี่ก็ยากอยู่
เพราะไปแต่ละครั้งก็ต้องกักตัวทั้งขาไปและขากลับ
เรื่องคุณ K กลับไทยก็เลยค่อนข้าง surprise สำหรับเรานิดหน่อย
ว่าทำไมเร็วแบบนั้นและไปสองคนด้วย
คือไปทั้งคุณ K กะเพื่อนอีกคนที่เป็น Sales คู่หูด้วยกัน
มารู้ทีหลังว่า คุณ K ท้อง แล้วโดนเท
ก็เลยพยายามเอาออกด้วยการถามคนในทีมฝรั่งเศสว่า
มีที่ไหนรับทำแท้งมั้ย
เรื่องนี้คนในทีมฝรั่งเศสเลยรู้ก่อนคนในทีมไทย
ตอนหลังตกเลือดได้หัวหน้ามาช่วยพาส่ง รพ
แต่ก็ร่อแร่เต็มที ไปถึงไทยก็แอดมิตเลย น้องในท้องไม่รอด
ก็ on-site ที่ไทยไปทั้งคู่
ตอนนี้เหลืออยู่ปินส์ 4 คน
ดราม่าระรอกใหม่มาอีกแล้วเป็นดราม่าจากลูกค้าพี่เอส
(พี่เอสดูแลลูกค้า vvip พอร์ตยักษ์ทั้งหลาย)
เรื่องนี้เป็นของลูกค้าพอร์ตใหญ่ที่สุดในทีมไทย
เงินทั้งหมดในพอร์ตของนางประมาณ 3 แสน USD
เป็นลูกสาวนายพลทหารบก
และลากเพื่อนรวมถึงน้องชายมาเล่นด้วยอีกรวม 5 คน
เงินเดินสะพัดจากกลุ่มนี้ไม่ต่ำกว่า 5 แสน USD
เรื่องจะไม่ใหญ่ขนาดนี้ถ้า
1. ไม่มีคำสั่งจากในคุกว่า ห้ามถอนเด็ดขาด
2. หัวหน้าฝรั่งเศส ไม่พูดจาแทะโลมใส่ลูกค้าคนนี้
3. หัวหน้าฟิลิปปินส์ไม่ใจเย็นรอให้เรื่องบานปลาย
รีบตอบลูกค้าให้ใจเย็นลง
4. พี่เอสพูดคุยกะลูกค้าสนิทมากเกินไป เผลอหลุดชื่อจริงคนในทีม
จนทำให้ลูกค้าสืบสาวข้อมูลส่วนตัวของพี่เอส
และข้อมูลการบินของนาย N รอบล่าสุดที่ลาพักร้อนไปไทย
และเพิ่งกลับมาถึงปินส์เมื่อไม่นานมานี้เอง
ลค. ท่านนี้บอกว่าถ้าให้ถอนผลกำไรไม่ได้
และเพื่อนๆ เขาที่เคยลงทุนไว้กับพี่เอสตามสัญญา
และถึงเวลาที่ต้องได้รับผลกำไรตามที่ขอถอนไป แต่ยังไม่ได้รับ
ให้จัดการให้เรียบร้อยภายในวันที่ระบุไม่งั้นจะแฉลงสื่อ
ตอนแรก พี่เอสก็คิดว่า ลค พูดเล่นเพราะก็คุยกันมานานแต่ว่า
พี่เอสสัญญาว่าจะเอาสายให้หัวหน้าใหญ่ที่สุดในออฟฟิศนี้คุยแต่ก็ไม่สำเร็จสักที
เหมือนบารมีจะคุยมันไม่ถึงน่ะแหละ
ก็เลยดูเหมือนสัญญาไม่เป็นสัญญาน่ะ เสียเวลาลูกค้าด้วย
แล้วลูกค้าแบบนี้ ลงทุนเยอะ แน่นอนว่าไม่ใช่งินตัวเอง 100%
ถ้าพูดอะไรกับคนอื่นแล้วไม่เป็นคำพูดเค้าจะเสียชื่อและเสียหน้ามาก
แล้วถ้าพอร์ตนี้มีแววถอนไม่ได้ขึ้นมาทั้ง port จะทำยังไงล่ะทีนี้
มันไม่แปลกที่ลูกค้าจะทำแบบนั้น
คนที่อยู่ไทย ทำยังไงกัน..
มีคนโทรมาหาคุณ K กะเพื่อนเขา (อยู่คนละห้องกัน)
เช็ครายบุคคลเลยว่าใช่คนนี้ชื่อนี้อยู่นี่รึเปล่า
เจอแบบนี้ก็สยองนะ
พี่เอสล่ะ
ลค. ส่งรูปเป็นรูปหน้าบัตรปชชขยายใหญ่ชัดๆ ที่มีตัวหนังสือบนหน้าแดงๆ
ด้านล่างเป็นรายละเอียดชื่อจริงพี่เอสพร้อมที่อยู่ พร้อมถามว่า
งั้นขอยืนยันตัวตนหน่อยนะคะว่าเอกสารนี่ถูกต้องมั้ย
พี่เอสร้องไห้กลางออฟฟิศเลย และขอกลับห้องไม่ออกมาอีก
บอกว่ากลัวคนของลูกค้าคนนี้จ้างคนมาจับไป
ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยอะไรให้นางได้อีกแล้ว
เรา นาย N และน้องอิ๊ง เห็นรูปที่ ลค. พี่เอสส่งมาให้ใน skype
ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
มันคือแพทเทิร์นเดียวกับ การออกประกาศจับใน สน.
