ครั้งแรกที่ได้เล่นสกี
ภาพของพระเอกในหนังฝรั่ง ยังคงตราตรึงในใจ
ชุดสกีสีสด กับแว่นดำกันแสงสะท้อนสีดำแวววับ
สวมรองเท้าสกีสีบาดตา
ปาดเท้าไปบนพื้นผิวหิมะอย่างรวดเร็ว
เร็ว เหมือนวิ่งด้วยความเร็วเดียวกับรถสปอร์ตหลายแรงม้า
สองมือถือไม้สกี ไว้คอยช่วยพยุงตัว
และเพิ่มแรงส่งในการสกี ดูแล้ว ไม่น่ายาก
ฉากและเหตุการณ์จริง ที่นากาโน่ เมื่อห้าปีที่แล้ว
ภูเขาหิมะ สวยโคตรๆ มันขาวโพลนไปหมด
ลานสกี ที่อยู่ในบริเวณที่เคยมีการจัดการแข่งขัน
โอลิมปิค ฤดูหนาว ทำให้คนไปเล่น รู้สึก
เหมือนตัวเองเป็นนักกีฬาทีมชาติ
แอบอุปโลกน์ ตัวเองสวมชุดสีน้ำเงิน คาดธงชาติไทยเล็กตรงหน้าอก
สวมสายริสท์แบนด์ เรารักในหลวง
เช่าชุดสกี ในราคาสองพันเยน
เดินยืดอก เชิดหน้า สู่กระเช้าลอยฟ้า ที่ไม่เคยหยุดรอคนเล่น
ก้าวขาช้านิดเดียว เจอกระแทกหัวทิ่ม
ถึงแล้ว ยอดเขา สูงจัง ลมเย็นๆพัดไอหิมะมาสัมผัสผิวหน้า
ทำให้รูัว่า ไม่ได้ฝันไป นี่มันยิ่งกว่าในหนังอีก
ลานสกีชันมาก ก็แหมมันไม่ใช่ลานสำหรับคนหัดเล่นนะ
นักกีฬาสกี ทีมชาติแบบตู จะเล่นลานหัดใหม่ได้ไงเล่า
พุ่งตัวออกไป โดยไม่เจียมเลย ว่านี่หนแรก
ย่อขา กวาดไม้ไป ซ้ายขวา ทำท่าเหมือนในหนัง
ตีลังกา ไม่รู้กี่ตลบ เจ็บโคตร
พยายามฝืนต่อ ย่อขา พร้อมปาดเท้า
หนึบ ยกขาไม่ขึ้น
รองเท้าหนักมาก
ภูเขามันชัน เอียงไปซ้าย พุ่งทะยานไปข้างหน้า
เห็นหน้าผาแว๊บๆ ตูจะมาจบชีวิตที่นี่ใช่ไหม
น้ำตาจะไหล เดชะกรรม หัวทิ่มอีกครั้ง
เลยรอดตาย
ตูจะไม่เล่นตามแรงโน้มถ่วงโลกแล้ว
ปีนภูเขากลับไปหา กระเช้าลอยฟ้าที่จากมาดีกว่า
ความสูงแค่ 50 เมตร ไม่เท่าไหร่หรอก สบาย
ลืมนึกไป ไม่ได้เท้าเปล่า มีรองเท้าสกี ที่โคตรเกะกะด้วย
กว่าจะปีนถึงยอดเขา ใช้เวลาเกือบชั่วโมง
ท้อแท้ นอนแผ่ลงบนหิมะ จนหนาวทนไม่ไหว
เลยต้องฝืนลุกขึ้นมา
ไม่เอาอีกแล้ว สกี สยองมาก