หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ครั้งแรกของคุณ  (อ่าน 37162 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้

    ครั้งแรก
    เหตุการณ์หรือการกระทำ  ที่เกิดกับคุณเป็นครั้งแรกในชีวิต 
    ได้ยินมาว่า ความรู้สึกแรกมักฝังใจจำ และแปลกใหม่เสมอที่ได้ทำ
                     นึกย้อนดูอาจจะเห็นเป็นขำๆ หรือหดหู่สุดแสนจะระยำ
                     จะแบบไหน ไหนลองมาเล่าสู่กันฟัง แบ่งปันความรู้สึก
                     ณ เวลานั้น ๆ ให้อ่านหน่อย
 
    เช่น   ครั้งแรกที่ได้ไปต่างประเทศ
             ครั้งแรกที่ดูหนังในโรงหนัง
             ครั้งแรก ที่ได้ออกเดท
             ครั้งแรกในการกินอาหารที่ตัวเองไม่ชอบที่สุดในชีวิต
             ครั้งแรกที่ได้ออกทีวี
             ครั้งแรก ที่ได้มีคดีเป็นของตัว
             ครั้งแรกที่ได้ลงเล่นการเมือง
             ครั้งแรกที่สุดเคืองการเมืองไทย
             เอ่อ จะครั้งแรกแบบไหน ก็ได้ นะครับ

 
 -------------------------------------------------

 คุณเชื่อมั้ย น้ำหน้าอย่างผมเนี่ย เคยขึ้นเรือบินมาแล้วนะครับ !!   

 เป็นประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต ถึงแม้จะเป็นภายในประเทศก็เหอะ

 เมื่อ ประมาณ 3ปี ก่อนหน้านี้   มีงานเร่งของทางหน่วยงานราชการหน่วยงานหนึ่ง
มาจ้างให้ทำคู่มือ ที่ว่าด้วยการเตรียมตัวหนีภัยซึนามิ
เผื่อแจกจ่ายให้กับประชาชนที่อาศัยอยู่ตามฝั่งอันดามัน

เป็นงานเร่งมาก มากขนาดที่ว่าทีมงาน
ต้องอดหลับอดนอนทำกัน  3-4 วันติดๆ
ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นพิมพ์ไปกี่หมื่นเล่ม 
ด้วยตัวกระผม ตอนนั้นมีหน้าที่เพียงแค่ช่วยเหลืองาน
พวกคอนเท้นและการรับส่งเอกสาร(massager)
แต่ก็ต้องผลันตัวเองมาช่วยงานดีไซน์
เรียกว่าเป็นงานแรกๆ เลยก็ว่าได้  แต่ด้วยเวลาที่เร่งมาก
ทางโรงพิมพ์ไม่สามารถพิมพ์ได้หมดให้ทันเวลา
หนังสือส่วนหนึ่งถูกส่งขึ้นเครื่องบินไปก่อนหน้านี้ 
ยังเหลืออีกบางส่วนผมจำไม่ได้ว่า กี่ร้อยเล่ม
แต่ต้องส่งให้ทันการซ้อมหนีภัยสึนามิที่ภูเก็ต
หลังจากอดหลับอดนอน มา 2 วัน กับงานฝั่งดีไซน์
ผมก็ได้รับหน้าที่ให้ไปนั่งรอรับเพจ
ในช่วงนี้ เหมือนจะได้นอนแต่ก็ไม่ได้นอน
เนื่องจากเป็นงานเร่ง หลายอย่างต้อง
ไปนั่งปรับกันที่นั่น ตั้งแต่ตอนเย็นของวันหนึ่ง
จนถึงรุ่งขึ้นของวันใหม่เพราะกำหนดส่งของ
ที่เหลือให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งรอรับของขึ้นเครื่องไปภูเก็ต
คือตอนเที่ยงของวันนี้ ตอนเช้าจำได้ว่างานเสร็จ
ประมาณ 8โมง ผมต้องเอาเพจไปที่โรงพิมพ์
ด้วยความเร่งรีบและตื่นเต้น เพื่อใช้เวลาพิมพ์
โดยมีเวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง ผมขี่มอไซต์จาก
ฝั่งสยาม ไปฝั่งธน โดยใช้เวลาประมาณ 40นาที 
พร้อมกับสะพายเพจที่ได้ไว้ข้างหลัง 
พอไปยืนเฝ้าที่โรงพิมพ์เดินไปเดินมา
ด้วยความกระวนกระวาย
พี่ๆต้องไปรอรับหน้าลูกค้าอยุ่ที่สนามบิน
ติดต่อกันด้วยมือถือตลอดเวลา
ผมรายงานการพิมพ์ให้กับพี่ชายได้รู้ เล่มต่อเล่ม
หลังจากพิมพ์เสร็จ ต้องมาเข้าสันเย็บเล่ม
ผมก็ต้องเข้าไปช่วยด้วยเพราะกังวลจนทนไม่ไหวอยากจะช่วย
เวลาผ่านไป เที่ยงครึ่ง งานก็เสร็จ 
แต่หน้าที่ผมยังไม่เสร็จผมต้อง เอาหนังสือ
ใส่ลังกระดาษมัดด้วยเชือกฝางสีแดง
อุ้มขึ้นมอไซต์มุ่งหน้าตรงไปที่ดอนเมือง
ถึงแม้จะเลยกำหนดเวลามาแล้ว
แต่อย่างไรก็ต้องทำหน้าที่ให้มันจบๆ
ซะที เดี๋ยวจะต้องเหนื่อยเปล่ากัน

ผมถึงดอนเมืองเวลาบ่ายโมงกว่าๆ 
ผมจอดรถแล้วอุ้มลังกระดาษ
ที่ผูกมัดด้วยเชือกฟางสีแดงตรงไปหาพี่ๆที่รออยู่
ในใจหวังเพียงแค่ว่าเจ้าหน้าที่คนนั้นจะยังคงรอ
พี่ๆ รอผมอยู่ที่นั่น บอกว่าเจ้าหน้าที่เขาขึ้นเครื่องไป
ตั้งแต่เที่ยงแล้ว  พวกผมนั่งปรึกษากันอยู่ซักพัก
พี่ชายก็ ตัดสินใจให้ผมไปส่งของที่ภูเก็ตด้วยตัวเอง 
จริงๆ แล้ว ผมเป็นฝ่ายอาสาเองแหละ
 เพราะรู้ว่าด้วยความสามารถตอนนั้น
เรื่องที่ช่วยได้ก็มีเพียงเท่านี้เอง
ทุกคนต่างมีงานที่ต้องไปสะสาง
เอาละถือเป็นการขึ้นเครื่องบินครั้งแรกในชีวิตของผม
แต่ผมกลับไม่ได้ดื่มด่ำกับมันเลยด้วยซ้ำ TT 
เพราะความรู้สึกที่ต้องแข่งกับเวลา ยังมีอยู่ เมื่อได้รับรู้ว่า
การซ้อมจะมีขึ้นตอนเย็นของวันนี้
ด้วยความหวังเพียงน้อยนิด แต่ต้องทำให้ได้ 
เครื่องบินการบินไทยลำหนึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งในประสบการณ์แรกของผม 

เวลาทะยานสู่ท้องฟ้าคือเวลาบ่ายสองโมงตรง 
กลับลงแตะพื้นเกาะภูเก็ตคือเวลาเย็นกี่โมงจำไม่ได้
ความหวังที่จะได้นอนบนเครื่องบินกลายเป็นความฝันที่ต้องสลายลง
เมื่อ น้ำในหูและเครื่องในของผมแทบจะปลดปลงอวกลงเสียให้ได้ TT
การต่อสู้กับสภาวะร่างกายของตัวเองบนความสูงเสียดฟ้าเป็นเวลากว่าสองชั่วโมง
ได้รับเพียงคำแนะนำจากคุณลุงสวมสูทที่นั่งข้างๆ แต่เป็นคำแนะนำที่ทำให้ผมรู้สึกว่า
 ยิ่งใหญ่และมีค่ามากในเวลานั้น

ผม ลง เครื่องมารอรับสัมภาระ
คือลังกระดาษผูกเชือกฟากสีแดงอันเป็นที่รักยิ่ง
ซึ่งตอนนี้มันเยินพอสมควรเยินพอๆกับสภาพผมในตอนนั้นเลย 
จะไม่ให้เยินได้อย่างไร ก็ 2วัน ไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
เสื้อยืดสีขาวที่ขอบคอเต็มไปด้วยคาบเหงือใคร
และกางเกงยีนสีน้ำเงินที่ขากางเกงขาดยุ่ยแถมยังเปรอะโคลน

ผมอุ้มลังยืนงง อยู่ซักพัก ก็เดินไปขึ้นรถตู้ที่มีฝรั่งเต็มคัน (ไม่ใช่รถขายฝรั่งนะครับ)
มุ่งหน้าสู่หาดป่าตอง อีก เกือบ 2ชั่วโมง

ผมถึงสถานที่ที่มีการซ้อมด้วยการถามเอาจากคนแถวนั้น แต่ทว่า
สถานที่แห่งนั้นหลงเหลือไว้ให้เห็นเพียง เต้นขนาดใหญ่ และลมเย็นๆ
ผมโทรถามพี่ชายที่ กทม. เขาบอกให้ผมเอาลังไปฝากไว้ที่เทศบาล
ผมจึงเรียกพี่วินมอไซค์แล้วให้ไปส่งที่เทศบาล พี่วินมอไซค์เป็นคนบ้านเดียวกับผม
โดยการสังเกตจากสำเนียง พี่วินออกตัวเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาสองที
แล้วก็ถึง รวมเป็นระยะทาง ไม่ถึง 150 เมตร 
พร้อมกับเก็บตังค์ค่าโดยสารทันที 100 บาท ผมก้าวลงด้วยความงงๆ
วางลังลงควักแบงค์ร้อยออกมาน้ำตาคลอ TT
คนบ้านเดียวกันไม่ได้ช่วยอะไรเลย โธ่..
ก็เลยคิดในใจให้สบายว่าพี่เขาคงช่วยเราเต็มที่แล้วก็เป็นได้
ปกติอาจจะสองร้อยหรือสามร้อยเลยก็ได้
เออคิดแบบนี้ก็สบายใจไปนิดนึง

ผมเอาลังไปฝากไว้ที่เทศบาลแต่มันเป็นเวลา หกโมงเย็นกว่าๆ แล้ว
พนักงานที่นั่นหาไม่มีเลยเจอเพียงแต่ยาม สองถึงสามคน
สรุปไม่มีใครรับลังที่ผูกด้วยเชือกฟางสีแดงของผมเลย
สงสัยจะกลัวว่าเป็นระเบิด ผมจึงเปิดให้เห็นข้างในว่าเป็นหนังสือนะเออ
สรุป เขาบอกให้ผมเอาไปฝากไว้ที่ทำการ ปภ. 
ผมอุ้มลังกระดาษลังเดิมเดินออกมาจากเทศบาล
รู้สึกโล่งใจที่ไม่มีวินมอไซค์มาคอยดักหน้าดักหลัง
ผมเดินถามชาวบ้านไปเรื่อยจนมาถึงที่ทำการปภ.
คุยกับเจ้าหน้าที่อยู่ซักพักก็ถึงเวลาลาจากลังกระดาษ
ที่ผูกตรึงไว้ด้วยเชือกฟางสีแดงซักที....

ภารกิจผมครั้งนี้เหมือนจะสิ้นสุด  หาที่หลับที่นอนดีกว่า
ผมลองไปนอนที่ริมชายหาดดู
แต่แม่เจ้าโว้ย นอนไม่หลับเลยแมงหรือยุงอะไรเต็มไปหมด
 เออ ก็เลยไปหาอะไรกินก่อนจะไปหาโรงแรมเล็กๆ อาบน้ำและนอน
จริงๆ ก็ถือว่าเป็นการนอนโรงแรมครั้งแรกในชีวิตอีกด้วยนะเนี่ย

ผมเช็คเอาท์ออกตอนเก้าโมง ตีตั๋วรถโดยสารกลับกรุงเทพฯ
ด้วยภาระหน้าที่ การงานและการเรียนที่กรุงเทพมันรบเร้า
ให้ผมต้องกลับไป ผมจึงไม่ได้แตะน้ำทะเลที่หาดป่าตองแม้แต่หยดเดียว
แต่ทัศนียภาพของที่นั่น สวยงามมาก
เหมือนตั้งอยุ่บนเขาที่ทิ่มลงสู่ทะเลอย่างไงอย่างงั้น
เดินไม่ดีอาจกลิ้งตกทะเลได้เลยทีเดียว

ปฐมบท ของการขึ้นเครื่องบิน นอนโรงแรม
และเยือนภูเก็ตครั้งแรกในชีวิตของผมก็จบลงเพียงเท่านี้.......


-------------------------------

ไม่รุ้ว่าจะพิมพ์เยอะไปรึเปล่า  พอดีมานั่งคิดถึงช่วงเวลาเก่าๆ
 ของการทำงานก็แค่อยากจะเล่าให้ฟัง ....

ใครมีอะไรที่ถือเป็นครั้งแรกของชีวิตบ้างมาเล่าสุ่กันฟังบ้างนะครับ
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ชื่อจู๋ชวนให้เข้ามากครับ กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

<a href="http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf" target="_blank">http://img3.f0nt.com/flash/66d37d0393ee1ab1e2e55182dfabf34e.swf</a>

A Long Patience: Wish Us Luck (and Happy Anniversary)
 อืมมมมห์ เข้าข่ายล่อแหลม ฮ่าๆๆ
บันทึกการเข้า
นับถือเลยครับ  ไหว้
บันทึกการเข้า

50 levels avaliable, 22 secrets levels avaliable :P
ยาวมากครับ อ่านแล้วชวนให้ตาลายเลย  ปลื้ม
บันทึกการเข้า

ไม่มีรักใดๆ ที่เป็นไปไม่ได้~*
ครั้งแรกเหรอ...












 ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

...
ครั้งแรกที่โดดบันจี้จัมพ์

ตอนนั้นอายุ 17 มั้ง
พอรู้ว่าพรุ่งนี้จะได้ไปโดด นอนไม่หลับทั้งคืน
ตอนเช้าโทรมมาก ระหว่างทางในใจ ก็นึกท่าสวย ๆ ไว้ เพราะไกด์บอกว่าจะมีถ่ายวีดีโอด้วย
ให้หันหน้าหากล้องตอนจังหวะดีด ตัวขึ้นมาจะได้ภาพที่สวยงาม ถ้าทำท่าสวยที่สุดในวันนั้น ก็จะได้รางวัลด้วย

ไปถึงสะพานที่โดดประมาณคนแรก ๆ
ระหว่างทางก็เดินไป ขาสั่นไป จนถึงจุดโดด
ยืนทำใจอยู่ประมาณสองนาที แล้วหลับหู หลับตาโดดไป

กลับมาดูวีดีโอที่ถ่ายไว้่อีกที
ปรากฏว่า เสื้อที่ใส่มันย้อนขึ้นมาปิดหน้า....
 
ฮือๆ~

เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนจะไปโดดนะครับว่าให้ใส่เสื้อในกางเกง
บันทึกการเข้า

โอโหเป็นครั้งแรกที่ผมจะไม่ทำเด็ดขาด  (เหงื่อแตกพลั่ก)
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ครั้งแรกที่ได้ออกเดท กับรุ่นพี่ที่สุดแสนจะปลื้ม ถึงแม้จะเตี้ยไปหน่อยก็เหอะ

จริงๆ นัดกันไปดูหนังเค้าให้ชวนเพื่อนๆ ไปด้วย
แต่เพื่อนก็ช่างจะรู้ใจ ไม่ยอมไปกันซักคน เราก็กล้าๆ กลัวๆ
แต่ก็แอบดีใจ

แต่งตัวธรรมดาสุดๆ เสื้อยืดกางเกงยีนส์ รีบไปรอยังที่นัดหมาย
ตื่นเต้น ไปก่อนนัดได้ 30 นาที ตื่นเต้น

รอ รอ รอ สาย10 นาทีก็แล้ว เอ๊ะทำไมยังไม่มา แต่ก็ยังตื่นเต้น
กินนมเย็นรอต่อไป

ซักพักไม่นานพี่เค้าก็มา โทษนะ รอนานเปล่า
ไม่หรอกค่ะ
พี่: ดีแล้วที่ไม่บอกว่านานเดี๋ยวจะรู้สึก ผิด 555+ ขำกันทั้งคู่

แล้วเค้าก็ถามว่าเพื่อนๆ หละ เราก็บอกไปไม่มีใครมา พูดไปเขิลไป กรี๊ด
ก็เลยนั่งกิน นม กันต่อ 55+ ในร้านเปิดเพลงอะไรซักอย่างจำไม่ได้
แล้วเราก็ร้องตาม พี่เค้าถามว่าเพลงของใคร อยากซื้อให้น้อง น้องชอบ

เราก็ไม่รู้ร้องอย่างเดียว 55+

กินเสร็จก็ไปจองตั๋วหนัง ยังพอมีเวลาเหลือ
ก็เลยไปกินโดนัท แต่ระหว่างที่กิน ด้วยความที่ตื่นเต้นมากเกิน

 ปวดขี้ ครับท่าน
จะบอกได้ไงหละ เลยบอกพี่เค้าว่า เดี๋ยวมานะ รอแป๊บนึง

แล้วเราก็รีบวิ่งไปหาห้องน้ำทันที

วิ่งไปวิ่งกลับเหนื่อยโคตร

แล้วก็ไปดูหนัง พี่เ่ค้าก็คงรู้ว่าเราชอบอะ ก็เลยส่งตั๋วมาให้ บอกว่าเก็บไว้ดีๆ นะ แล้วยิ้ม

ในใจเรานี่กรี๊ดไปแล้ว

ดูหนังเรื่อง collateral damage ไม่โรแมนติก แต่มันส์มากครับ

จำได้ว่าตอนแรกกะชวนไปดู ชัตเตอร์ แต่ไม่ว่างกันซักที อดเลย

หลังจากดูหนังออกมา เป็นยังไง จำไม่ได้แล้ว ความทรงจำลางเลือน แต่ก็ประทับใจ
จนถึงเดี๋ยวนี้
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28 ก.พ. 2008, 00:45 น. โดย หลิงหลิง » บันทึกการเข้า
โอ้ว สำหรับคนที่ไม่เคยขึ้นเรือบิน กับโดดเสียว
นี่ถือเป็นสุดยอดจู๋ฮาวทูเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ครั้งแรกที่ขึ้นเรือบิน ตอนที่เครื่องมันกำลังจะบินขึ้น ล้อกำลังจะลอย
รู้สึกว่าเครื่องบินนี่โคตรเก่งเลย แรงเยอะมากกกก
ประมาณว่าตัวจมอยู่กับเก้าอี้ โงหัวขึ้นไม่ได้ แล้วก็ยิ้มๆ (เพราะว่ากลัว)

เรื่องไปโดดบันจี้ ไม่เคยคิดว่าถ้ารู้ตัวก่อนหนึ่งวันจะนอนไม่หลับ
คาดว่า ถ้ามีโอกาสจะต้องได้ไปโดด ก็คงจะนอนไม่หลับเช่นกัน
และจะรอบคอบ จะขี้ จะเยี่ยว ให้หมดไส้หมดพุงก่อนจะไปโดดครับ
ไม่อยากได้วิดีโอบันทึกภาพขี้แตกกลางอากาศ

ส่วนเรื่องครั้งแรก เดี๋ยวคิดก่อน มีเยอะมากๆ มีแทบทุกวัน
แต่คิดไม่ออก
บันทึกการเข้า

        AH_LuGDeK, AH_LuGDeK_R
ครั้งแรกที่นั่งเรือบิน... วันที่ 17 กุมภาปี 2546 ครับ
flight FD ไรซักอย่าง จากหาดใหญ่ ไปกรุงเทพ
จำได้เพราะวันนั้นวันสอบ final เสร็จพอดี แล้วต้องบึ่งขึ้นกรุงเทพฯ
ไปแข่ง ยอดเยาวชนคนเก่ง pc : pc assembly grand prix
[มั่วข้อสอบดันติดด้วย 555]

ไม่อยากบอกว่าเฉยๆ มากเลยตอนนั้น (ไม่ตื่นเต้นเลยซักติ๊ด)
แต่รู้สึกแบบเดียวกะลุงอ๋าห์เลย กรี๊ดดดดด

แล้วต่อมาก็มีเหตุให้ต้องระเห็ดไปกรุงเทพฯ ด้วยรถบัส VIP 24 ที่นั่ง 1 ครั้ง
ความรู้สึกนี่... โอ้ววว ช่างทรมานทรกรรมอะไรเช่นนี้ นั่งรถทัวร์ ภูเก็ต - กรุงเทพ 12 ชั่วโมง T_T
หลังจากนั้นก็เลยสาบานกับตัวเองว่า ถ้าไม่เข้าตาจนจริงๆ ยังไงก็จะขึ้นเครื่องไปกรุงเทพ ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

ยังไม่เคยขึ้นเรือบิน แล้วบินไปจริงๆเลย  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

กินรอบวง
ครั้งแรกที่ผมขึ้นเครื่อง คือ ชอบมาก
ตอนที่เครื่องกำลังจะลอย แบบโหววววววว
โคตรมัน
บันทึกการเข้า

เหมือนคนข้างบนครับ หมีโหด~ แต่จำไม่ได้ ขึ้นตอน ๕ ขวบ

เมื่อสองสามวันก่อนผมเล่น FreeCell เป็นและชนะได้ครั้งแรกครับ ดีใชมาก
บันทึกการเข้า

สะพรึบสะพรั่ง ณหน้าและหลัง ณซ้ายและขวา ละหมู่ละหมวด ก็ตรวจก็ตรา ประมวลกะมา สิมากประมาณ
หน้า: [1] 2 3 4 5 6 7 8
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!