เนี่ยเลย นึกออกแล้วว่าจะพูดอะไร
จากหน้าที่แล้วที่เดือนพิมพ์มา
เรื่อง การส่ง พสอษ ผมว่ามันเป็นปัญหาเหมือนกันนะ
เพราะเดือนกำหนดวันส่งเป็นวันที่3 เนี่ย
การที่กอลลั่มนิสต์จะส่งงานในช่วงนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดเลย
เพราะกำหนดส่งคือวันที่สาม
(อันนี้ไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรือพี่จอยเลยนะครับ แต่อยากบอกว่าผมเห็นว่ามันมีปัญหาแบบนี้นะ)
แต่...
แต่วันที่ 3 ที่ว่านี้ กลายเป็นว่า กอลลั่มที่จะส่ง
ควรผ่านการส่ง พสอษ มาแล้ว
ซึ่งรอบหน้า อยากให้มีเผื่อเวลาช่วง พสอษ ลงไปด้วย
เอาจริงๆ ผมคิดว่าผมส่งไปวันที่2 ตอนแรกคิดว่าไม่เป็นไร
คิดว่า หลังจากวันที่สามนั่นแหล่ะ คือวันที่จะพสอษกัน
//เปิดใจรู้ว่างานคราวนี้เดือนลำบาก พี่จอยลำบาก อีกหลายคนก็ลำบาก
เลยอยากเล่าความลำบากตัวเองบ้าง

วันนี้เป็นวันที่ผมพรีเซนต์โปรเจค และก่อนหน้านั้นเป็นช่วงที่ผมปั่นโปรเจค
ซึ่งมันก็อยู่ในระยะที่ย่ำแย่เหมือนกัน จะเห็นได้ว่าแทบไม่ได้ปั่นเลย
แต่ก็เหมือนเดือน คือเข้ามาเช็คเรื่องนิตยสารตลอด
ตอนแรกที่ส่งงานไปวันที่ 2 แล้วก็ส่งแก้ไปในวันถัดมา(นิดเดียว)
เหมือนจะมีอีก แต่ก็ไม่ได้รับการติดต่อเรือ่งนี้ เลยคิดว่าหมดแล้ว
จนมาตอนที่ เดือนพูดถึงกอลลั่มลุงอ๋าห์ว่าจบห้วนไป
เลยนึกขึ้นได้ว่า เดือนยังไม่พูดถึงกอลลั่มเราเลย (นอกจากเรื่อง พสอษ)
เลยถามไปในบอร์ด แล้วเดือนก็ จมล กลับมา ขออนุญาติลงนะจ๊ะ

ตรงๆ นะคะ ไม่โกรธกันนะ (ขู่เอาไว้ก่อน

)
สำหรับกอลลั่มพี่วุฒินะคะ
เดือนมองว่าเฉยๆ ง่ะ
คือของขวัญที่ผู้ชายอยากได้ในวาเลนไทน์เนี่ย
ผู้ชายไทยเค้าก็อาจจะไม่คิดแบบนั้นก็ได้อ้ะ

อีกอย่างวัฒนธรรมวาเลนไทน์ของญี่ปุ่นกะไทยมันต่างกันอ้ะ
เดือนว่าผู้ชายไทยคงไม่ได้อยากได้ของขวัญ แต่อยากไปเที่ยว (+ติ๊ดชึ่ง) กะแฟนมากกว่าฮิ

แต่ถ้าอ่านประดับความรู้แบบ ผู้หญิงอาจจะได้แนวซื้อของขวัญให้ผู้ชายก็โอเค
เดือนมองว่ากอลลั่มพี่วุฒิ (นิปปอนเอ๊ะ) มันเล่นได้เยอะนะคะ
มีหลายๆ เรื่องของชาวญี่ปุ่นที่คนไทยยังไม่รู้และอยากรู้ก็มีมาก
จริงๆ
ผมไม่โกรธ แต่คิดได้หลายเรื่องเลย ว่าแนวทางการเขียนของเรามันควรปรับปรุง
วันถัดมา เริ่มรวบรวมกอลลั่มกัน และก็มีเรื่องที่ว่ากอลลั่มส่งมากันน้อย และหนังสือบาง
คือตรงนี้มันเหมือนโดนตัวเองแหล่ะครับ

ตอนนั้นคิดเลยว่าเดือนต้องรู้สึกไม่ดีแน่ๆเลย
จะทำยังไงดี

พอเห็นเดือนบอกเลื่อนวันส่ง ผมเลยไปคุ้ยข้อมูลที่กะว่าจะทำและไม่ได้ทำ
แล้วก็ข้อมูลใหม่มาเพิ่ม และก็นั่งทำคืนนั้นทั้งคืนจนเสร็จ (แต่ลืมว่าต้องเผื่อเวลา พสอษ)
ไอ้ความตั้งใจดีนี้ ก็ดันมีส่วนทำให้หนังสือช้าด้วย รู้สึกผิดมาก(รอบสอง)
ตัวผมเองก็ไม่ได้มีเวลาเหลือเฟือ แต่ก็รับปากไว้แล้ว
และรู้ว่าการทำงานแบบนี้สร้างผลกระทบทางใจ กับคนที่ตั้งใจ
ตอนที่ส่งงานให้เดือนครั้งที่หนึ่งกับสอง นี่ก็ไม่มีเวลามาทำหรอกเพราะเรือ่งโปรเจค
แต่ก็อาศัยว่า ไม่นอนแล้วมาทำ แต่มันก็ใช้เวลาไปมากกว่าที่คิด

ที่พิมพ์มาทั้งหมดสรุปว่า
อยากให้เดือน และทีมงาน คอมเมนท์กอลลั่มกันเป็นระยะๆ ตามเวลาที่เรียกส่งด้วยครับ
ว่าต้องมีแก้อะไรบ้าง ยังไงบ้าง เนื้อหาดีไหมอย่างไร ผมว่ามันมีประโยชน์มาก
และก็พัฒนาตัวเราเองด้วย (อย่างผมเองนี่เป๋ไปเยอะมาก)
อยากให้กอลลั่มนิสต์และทีมงาน เปิดใจคุยกันเรื่องงาน แบบติชมจิกด่ากันได้มากขึ้น
ในฉบับหน้า (รู้สึกฉบับนี้คุยกันน้อย หรือใช้จมล กันตลอดก็ไม่รู้)
อยากบอกว่า ผมเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ กับงานที่เรียกว่างานสมัครใจ
ไมไ่ด้คิดจะทำเล่นๆ และก็ไม่อยากให้เดือนน้อยใจ
อันไหนที่ดูไม่ดี ไม่เต็มที่ บางทีก็อาจจะเต็มที่ในตอนนั้นๆ ของคนๆนั้น
อย่างน้อยตัวผมเองคนนึง แต่ก็ยอมรับว่าอะไรที่คิดมันมีที่ผิด และพลาด และจะนำไปปรับปรุงครับ
การทำงานแบบอาสาสมัคร
ถ้าไม่มีคนแบบเดือน งานมันจะไม่เดินเลย
ดังนั้นฉบับหน้า ขอให้จิกกัดยิ่งกกว่านี้ครับ และเพิ่มทีมจิกกัดไปด้วยยิ่งดี
บอกอเขียวจงเจริญ!!
จบแล้ว ยาวโคตร
