หน้า: 1 ... 15 16 17 18 19 20 21 [22]
 
ผู้เขียน หัวข้อ: แฟนพันธุ์แท้พงศาวดารไทย (แตกหน่อ)  (อ่าน 157946 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้


เจ้าขุนมูลนายที่มีทาสเยอะแยะไม่น่าจะซื้อนะครับ

น่าจะเป็นลูกทาสที่เหลือมาจากสมัยก่อนๆ เพราะรู้สึกว่าทาสไทยจะไม่ได้เน้นซื้อขายมากนัก

จะเป็นประมาณก๊อบลินของแฮร์รี่ที่ผูกติดกับตระกูล แล้วลูกดันเยอะก็เลยมีทาสเยอะขึ้น



ส่วนอะไรๆ นั้น

ที่ดินสมัยนั้นว่างเยอะแยะนะครับ ไทยเราก็เกษตรกรรมด้วย ไม่น่าจะยากอะไร ขอแค่ไม่มีหนี้ก็ไม่อดตาย
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราช ครับ เป็นคำตอบที่ผมคิดถึง
เพราะถ้าเป็นประชาธิปไตย เหมือน อเมริกา การเลิกทาสคงมีการขัดแย้งกัน
บันทึกการเข้า

ไม่ว่าคุณจะรอบรู้ เก่งกาจ กล้าหาญ เท่าไหร่ ก็ไม่มีค่าอะไร ถ้าไม่มีใครรักคุณ
ใช่ครับ มันน่าจะมีอะไรมากกว่า   แต่เหตุผลที่ไม่เสียเลือดเสียเนื้อนี่  ผมว่าก็น่าจะยกให้กับมาตรการค่อยเป็นค่อยไปนี่แหละนะ  

คือ แม้ท่านจะเลิกทาสด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่อัจฉริยภาพ ในครั้งนั้นถ้าเป็นไปตามที่เคยเรียนหรืออ่านมา ผมว่ามันน่าทึ่งเลยละ

การเปลียนระบอบของสังคม เหมือนกับการเปลี่ยนแปลงของวัฒนธรรมจากสิ่งหนึ่งไปสิ่งหนึ่งนี่ ต้องใช้ปัจจัยหลายอย่างเข้าช่วยแน่ๆ
อาจจะมีปัจจัยที่เรายังไม่เคยรู้ซึ่งก็รอฟังท่านอื่นต่อไป ฮ่าๆ  สรุปก็คือไม่มีเรื่องอะไรแปลกกว่านี้มาเล่าให้ฟังนั่นเอง หมีโหด~
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
สนับสนุนจักรีครับ ไว้จะมาลงรายละเอียดอีกที เพราะนานมากแล้วจำรายละเอียดหลักๆไม่ค่อยได้  ฮือๆ~
ร.5 ใช้วิธีการค่อยๆเปลี่ยนแปลง โดยค่อยๆเปลี่ยนทั้งกฏหมาย แนวคิด วิธีปฏิบัติต่างๆ
ที่จะทำให้ความเป็นทาสลดลงได้ อย่างเช่น การออกกฏให้ทาสในเรือนเบี้ย สามารถไถ่ถอนตัวได้
หรือกำหนดจำนวนปี อะไรแบบนี้

แปะไว้ก่อนนะครับ  ฮิ้ววว
บันทึกการเข้า

- R u Happy with ur Rock&Roll ? -
ส่วนนึงที่บ้านเราเลิกทาสได้แบบไม่เสียเสือดเสียเนื้อ คงเป็นเรื่องวัฒนธรรมบ้านเราที่โอนอ่อนผ่อนตามอยู่แล้ว
ยิ่งมีระบอบกษัตริย์ที่ถือว่าเป็นจุดสูงสุด จุดศูนย์รวมใจและเป็นสิ่งที่ตัดสินทุกสิ่งทุกอย่างแล้ว ท่านว่ายังไงก็จะผ่อนตามแทบทั้งนั้น ...แล้วยิ่ง ร.5 ทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ก็อาจจะเรียกได้ว่าแนบเนียนกันเข้าไปอีก .... แตกต่างจากยุคปัจจุบันที่สังคมมีการถกเถียง แตกแยกกันเยอะ

....คือคนบ้านเราสมัยก่อนแต่ไหนแต่ไรมักจะมีนิสัยประเภทยังไงก็ได้ เอ็งว่าไง กูก็ว่ายังงั้น ..... ง่ายๆ ไม่ค่อยมีการถกเถียงและตบตีกันมาก สังคมเจ้านายกับทาสก็เลี้ยงและใช้งานกันแบบไม่รุนแรงมาก ลักษณะเจ้านายปกครองจะเหมือนกับพ่อปกครองลูกมากกว่า เรียกได้ว่าถึงจะใช้งานหนักยังไง ทาสไทยก็ยังมีที่นอน มีข้าวกินแบบไม่ยากแค้นจนเกินทน และถ้าทาสไม่ทำผิดแบบผิดมหันต์ก็ไม่ฆ่าแกงกันแบบไร้เหตุผล ....... เคยอ่านหนังสือมาว่าช่วงที่เลิกทาสใหม่ๆ ทาสจำนวนนึงยังไม่อยากจะจากเจ้านายตัวเองไปเลย อยากจะอยู่รับใช้ต่อ

ส่วนการปกครองทาสในอเมริกาต่างกับบ้านเรา ทาสตายเพราะทำงานหนักเป็นจำนวนมาก แค่เหม็นหน้าก็ฆ่าทาสได้เหมือนสัตว์ตัวนึง เลยทำให้ทาสลุกฮือต่อต้านชนชั้นเจ้านายจนนองเลือดอย่างที่รู้กัน
บันทึกการเข้า
ท่านใช้เวลาร่วม 10 ปีนะครับในการเลิกทาส อย่างที่จักรีบอกแหละครับถูกต้องแล้ว ใช้เวลา และยุทธวิธีต่างๆ
ตามที่ O-DuM พูดไว้แหละครับ ค่อยๆผ่อนผันกันไปทีละเสต็ป ซึ่งต่างจากของประเทศอื่นๆที่จะเปลี่ยนแบบปุบปับ

และที่สำคัญการที่เปลี่ยนอย่างนี้ได้เพราะว่าเป็นคนไทยเรามีระบอบกษัตริย์
คนศรัทธาในระบอบด้วยประการหนี่ง เลยทำให้การเลิกทาสของไทยเป็นไปได้


ไม่เหมือนชาติอื่นที่มีแนวคิดปัจเจกเป็นที่ตั้ง
ทุกคนเสมอภาคทุกคนเท่าเทียม ผู้ใต้ปกครองเลยไม่ศรัทธาในผู้ปกครองเลยไงครับ
มันเลยมีปัญหาในการเลิกทาสไงครับเพราะคิดว่าตัวเองถูกกันทั้งสองฝ่าย

บันทึกการเข้า

นักเขียนการ์ตูนรายปี
หน้า: 1 ... 15 16 17 18 19 20 21 [22]
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!