พอรู้ตัวว่ากำลังจะมีน้อง อาการกังวลก็เริ่มเกิด (เพราะเคยแท้งมาแล้ว 1 ครั้ง)
ไม่ต้องกังวลมากนะครับ เพราะเมื่อนับเรื่องที่ว่าเราตรวจการตั้งครรภ์ได้เร็วขึ้น ทางการแพทย์เลยทราบว่าแท้จริงแล้วการตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ของเรา จะแท้งมากกว่าติดลูก
โดยทั่วไปตั้งท้องสามครั้งจะได้ลูกมา1คน (อีกสองคน บางทีมาในรูปประจำเดือนที่ขาดไปเดือนนึงแล้วก็มาตามปกติ หรือประจำเดือนเลื่อน)
แต่เท่าที่ศึกษาดูจะเห็นได้ว่าฝั่งไทยและฝั่งอังกฤษมีอะไรที่แตกต่างกันอยู่มาก
เพื่อนๆที่มีลูกกัน ที่เมืองไทย บอกว่าจะต้องกินวิตามินต่างๆเยอะแยะมากมาย ทั้งธาตุเหล็ก วิตามินนั่นนี่ สารพัด รวมทั้งนม
แอนมัม(เค้าว่าดีมาก แต่ที่นี่ไม่มีขาย)
ทางฝั่งนี้ หมอไม่แนะนำอะไรเลยนอกจากให้กินโฟลิกแอซิด และอาหารครบ 5 หมู่ งดเว้นการรับประทานอาหารดิบ และชีสบางชนิด ส่วนเหล้า บุหรี่ ป้าไม่แตะอยู่แล้ว ทุ่นเวลาพล่ามของหมอไป 2 นาที
ความจริงแล้วสิ่งที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์ในช่วงสามเดือนแรกคือ Folic Acid เนื่องจากเอาไว้ป้องกันโรคไขสันหลังไม่ปิดในเด็กทารก (ถึงพิการ) แต่ถ้ากินอย่างเพียงพอในสามเดือนแรก ก็ตัดกังวลไปได้เลย
สามเดือนแรกไม่จำเป็นต้องบำรุงธาจุเหล็ก เพราะยังไม่ต้องใช้(แถมธาตุเหล็กจะกินแล้วเสาะท้อง กินในช่วง3เดือนแรกจะยิ่งแพ้ท้องหนักเข้าไปอีก) แคลเซียมก็ยังไม่ต้องบำรุงแม้แต่น้อย
ก็เด็กมันตัวเล็กกว่าจมูกของลุงสมัครซะอีกนะครับ อาหารที่กินเข้าไปจึงเพียงพออยู่แล้ว ต้องการแค่โฟลิกตัวเดียว (ซึ่งคนไทยที่กินผักก็มักไม่ขาดอยู่แล้ว)
ทีนี้พอเลยสามเดือน ย่างเข้าเดือนที่4ไป เด็กจะเริ่มตัวโตอย่างรวดเร็ว ตอนนี้แหละครับที่เริ่มต้องการธาตุเหล็ก และ แคลเซียม
ส่วนวิตามินอื่นๆ ตามแต่ศรัทธาครับ ที่เรียนมาไม่เห็นมีแนะนำตัวอื่นเลยครับ ... ส่วนใหญ่ที่เห็นกินๆบำรุงกันในเมืองไทยก็เป็ฯแรงโฆษณากัน
สิ่งที่ทำให้แพทย์ไทยกับอังกฤษต่างกันคือลักษณะความเชื่อและวัฒนธรรมของคนบ้านเราที่ต่างจากอังกฤษ
แพทย์อังกฤษบอกว่าให้กิน5หมู่ งดอาหารดิบ ก็คือตามนั้น ...
ห้าหมู่ของที่นั่น คือ ครบทั้ง5หมู่ และสัดส่วนเหมาะสม ซึ่งคนที่นั่นเขาเข้าใจ
ของบ้านเรา ห้าหมู่เป็นห้าหมู่แบบ ผัก=ใบผักชี1ก้าน ผลไม้คือน้ำแฟนต้ารสส้ม ....
ให้กินนมทุกวันก็ดันกินวันเว้นวัน ....
(ไม่น่าแปลกใจที่เด็กมัธยมบ้านเรามองว่าแฮมเบอร์เกอร์คือการกินครบ5หมู่ เพราะมีเนื้อสัตว์ น้ำมัน แป้งขนมปัง หัวหมอฝาน และมะเขือเทศ
)
นอกเรื่องไปเยอะ สรุปแล้วช่วงนี้กินแต่Folic acid ก็พอครับ
ต่อไปเดี๋ยวเขาจะจ่ายยาธาตุเหล็ก(และแคลเซียม)
ส่วนอย่างอื่นจะบำรุงหรือไม่ก็ตามศรัทธาและพลังเงินครับ
อ้อ.. อีกอย่างที่ห้ามคือตับค่ะ แต่เพื่อนที่เมืองไทยบอกว่าต้องทานตับให้มากๆ เพราะมีประโยชน์ ส่วนทางนี้ ห้าม
น้องหมอแมวพอจะทราบมั้ยคะว่าเพราะอะไร ??
ตับเป็นอาหารที่ถ้ากินสุกจะไม่อร่อย กินสุกๆดิบๆจะอร่อยครับ ... ดังนั้นเพื่อตัดปัญหา ทางนั้นมักจะไม่แนะนำให้กิน
เรื่องที่กลัวกันมากที่สุดคือเรื่องการติดเชื้อ เพราะในตับจะเป็ฯเซลล์ที่เชื้อหลายชนิดต้องไปผ่าน ... ถ้ากินแบบไม่สุก อาจจะเจอเชื้อที่มีอันตรายต่อเด็กได้
ที่สำคัญไปกว่านั้น ตับสัตว์ในต่างประเทศจะมีโรคพยาธิบางชนิดที่ร้ายแรงมากครับ(น่ากลัวพอๆกับมะเร็ง) ดังนั้นทางฟากตะวันตกเขาจึงไม่ต่อยแนะนำให้กินตับกัน
(ส่วนเรื่องสารพิษสะสมนั้นเรื่องรองครับ)
อีกอย่าง ตอนนี้ป้าเป็นไข้หวัดค่ะ เพื่อนๆห้ามกินยาแก้ไข้ทุกชนิด บอกว่าให้อดทนเอา แต่ปวดหัวมากค่ะ ไม่ทราบว่ากินยาชนิดไหนได้บ้าง หรือมีสมุนไพรชนิดใดที่ช่วยบรรเทาได้บ้างคะ?
ควรกิน Paracetamolครับ กินได้ ปลอดภัยต่อเด็กในครรภ์
ทั้งนี้ห้ามกินยาลดไข้จำพวก Aspirin Ibuprofen เพราะ"อาจ"มีผลต่อรกเด็ก
ไม่ควรกินสมุนไพรลดไข้ เพราะบางชนิดมีสเตียรอยด์ทั้งที่ผสมเข้าไปและจากในตัวสมุนไพรเอง
ทั้งนี้เมื่อซื้อParacetamol ให้บอกคนขายด้วยครับว่าตั้งครรภ์ และเมื่อซื้อมาแล้วให้อ่านข้างซองด้วยว่ามีParaตัวเดียว
เพราะเมืองนอกจะมีพาราทั้งชนิดที่แก้ลดไข้(ธรรมดา) และชนิดแก้ปวด(ผสมสารจำพวกฝิ่นโคเดอีน)ซึ่งพวกหลังไม่น่าใช้ช่วงที่ตั้งครรภ์