สิ้น "วนิดา" นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนแล้วด้วยโรคมะเร็ง
"มด" วนิดา นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนระดับแนวหน้า เสียชีวิตแล้วที่โรงพยาบาลรามา ด้วยโรคมะเร็งเต้านม หลังต่อสู้กับโรคร้ายมานานกว่า 2 ปี
เวลา 13.30 น. น.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ หรือมด นักเคลื่อนไหวภาคประชาชนระดับแนวหน้าของประเทศไทย ผู้ต่อสู้เรียกร้องเพื่อชาวบ้านที่ถูกเอารัดเอาเปรียบจากโครงการพัฒนาของ รัฐและเอกชนมากว่า 30 ปี วัย 52 ปี ได้เสียชีวิตแล้วด้วยโรคมะเร็งเต้านม ที่ห้อง 916 ชั้น 9 ศูนยการแพทย์สิริกิติ์ รพ.รามาธิบดี
ด้านนายวันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ บก.นิตยสารสารคดี น้องชายแท้ๆ กล่าวว่า พี่สาวป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมา 2 ปีแล้ว ขณะนี้แพทย์ได้รักษาด้วยวิธีต่างๆ เช่น การทำคีโมและฉายรังสี ทำมาหลายรอบแล้ว แต่อาการก็ไม่กระเตื้องขึ้น จนเสียชีวิตในบ่ายวันนี้(6ธค.)
น.ส.วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2498 เป็นคน กทม.โดยกำเนิด เอนทรานซ์ติดคณะรัฐศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ เคยผ่านเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ก่อนจะเข้าร่วมงานกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) เคลื่อนไหวอยู่ในป่าเขต จ.สงขลา เริ่มจับงานด้านเอ็นจีโอด้วยการร่วมรณรงค์กับขบวนการสันติภาพต่อต้านอาวุธ นิวเคลียร์ เข้าร่วมขบวนการเชื่อมสันติภาพไทยลาว
จากนั้นหันมาจับงานด้านเอ็นจีโอด้านสิ่งแวดล้อมเต็มตัวเมื่อปี 2532-2533 ในโครงการฟื้นฟูชีวิตและธรรมชาติ โดยให้ความเห็นเชิงวิชาการกับประชาชนในการคัดค้านการสร้างเขื่อนแก่งกรุง เขื่อนแก่งเสือเต้น จนถึงเขื่อนปากมูล ฯลฯ
http://webboard.mthai.com/52/2007-12-06/359027.htmlอ่าน comment ด้วยนะ
ผมไปค่ายลูกเสือมา 3 วันเลยพลาดข่าวบางอย่างไปบ้าง(แต่ไม่ยักพลาดข่าวอีตาประชัยหมิ่นศาลแฮะ)
มาอ่านเจอทีหลังว่าคุณมด - วนิดา ตันติวิทยาพิทักษ์ เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งแล้ว (บิ๊กตายผมไม่ตื่นเต้นนะ)
ผมไม่ได้รู้จักมักจี่กับเค้านะ แต่เป็นคนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจ และแบบอย่างในการทำงานเพื่อสังคมจริงๆ
ทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเป็นส่วนใหญ่ในช่วงหลายปีหลังมานี้ โดยไม่ขอรับรางวัลใดๆ ทั้งสิ้น
อ่านข่าวแล้วช้ำมากเลยนะ รู้สึกว่าทำไมคนดีๆ มักจะตายกันไปหมด
ส่วนไอ้พวก
เหี้ยสันดานแมงดานิสัยเลวๆ ยังระริกระรี้กันอยู่ทั่วบ้านทั่วเมือง
คิดดูว่าในขณะที่คนคนหนึ่งทำงานเพื่อชาวบ้านจริงๆ
ยังมีพวกปากหมาใจหมาโฆษณาชวนเชื่อว่าจะพัฒนาประเทศให้ดีขึ้นๆ อยู่ในทีวี
...
เท่าที่ผมคิด(ไปเอง) ผมมองว่าเค้าเป็นคนที่ไม่เชื่อว่าโลกาภิวัฒน์จะช่วยให้ชีวิตคนดีขึ้น
การสร้างเขื่อนปากมูลที่ผลิตไฟฟ้าแค่ 40 เมกะวัตต์ (แค่ศูนย์การค้าแห่งเดัียวใช้ก็ไม่พอแล้ว)
แลกกับผลกระทบต่อชาวบ้าน 6000 หลังคาเรือน วิถีชีวิต และระบบนิเวศน์ถูกทำลาย
เราต้องการมากขึ้น ผลิตมากขึ้น... คนจำนวนมากต้องเดือดร้อน ในที่สุดแล้วชีวิตเราดีขึ้นจริงหรือ
ทุกบ้านมีไฟฟ้าใช้แล้วประเทศเราดีขึ้นจริงมั้ย...
ไอ้พวกเหยื่อทุนนิยม(ดังที่จะเห็นใน comment ตามลิงค์ด้านบน) ออกมาต่อว่าว่า NGO ขวางความเจริญ
ผมอ่านแล้วจะร้องไห้... ประเทศที่เจริญแล้วเขาแสดงความคิดเห็นกันอย่างนี้เองครับ
ขอแสดงความเสียใจกับประเทศไทยที่เสียคนดีๆ ไปอีกหนึ่งคน
ขออภัยที่ผมก็มีส่วนช่วยขับเคลื่อนทุนนิยมและเอาเปรียบชาวบ้านทางอ้อม
ขอแสดงความนับถือในความอดทนต่อเสียงวิจารณ์ของคนเห็นแก่ตัวเป็นเวลากว่าสิบปี และพิสูจน์ว่าอุดมคตินั้นกินได้
ขอให้คุณป้ามดไปสู่ความสุขสงบ หลับให้สบายนะครับ
