หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ปริญญา ข้างฝา  (อ่าน 38226 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ตอบเหอะๆ

ให้แต่คนจบๆ กันแล้ว มันก็รู้สิวะว่าจะต้องอะไรยังไง
(แต่บางคนยังไม่รู้เลยนะ กร๊าก)
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
พี่ว่ากิ๊กเก่งหลายอย่างนะ ที่บ้านก็เปิดโอกาสด้วย
เอาน่าสู้เลย ทำแบบที่คิดแหละ
เรื่องทุนน้องพี่บอกว่าลองเปิดเว็บมหาลัยที่สนใจดู แล้วเขียนเรซูเม่ไปลองขอได้
ลองดู ไม่ค่อยรู้ข้อมูลเท่าไหร่ ไว้จะถามให้

ปริญญากับบางคนไม่ช่วยอะไรนะเห็นแล้วหงุดหงิดใจ
เดี๋ยวนี้อย่าว่าแต่ปริญญาตรีเลย
ปริญญาโท ถ้าจะเรียนนี่ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็จบ
แต่จบมาแล้วมีประสิทธิภาพแค่ไหน บางคนพี่ว่าสติปัญญา
ยังไม่เท่าไอ้น้องๆในเว็บเราเลย

ีเอาง่ายๆพวกจบโท จบด๊อกเตอร์ยังสู้จักรีไม่ได้เลย
จากใจจริงนะ ไม่ได้มุก ลันล้า
บันทึกการเข้า

การจะแป้กให้ได้ขนาดนั้นนี่ การศึกษาอย่างเดียวทำไม่ได้นะครับ
ต้องใจรักด้วย
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
แบบนั้นเขาเรียกว่าการศึกเสีย








ช่วยเสริมหน่อย
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
จากใจจริง อย่าเอาผมไปเปรียบกับ คนจบโทเลยนะพี่โบว์  รู้สึกอาย   เอือม

















คนจบโทแป๊กกว่าเยอะ  ลันล้า





(เรียนโทกันทำไม   ผมซื้อมือถือมาก็โทรเป็นแล้วนะ)
บันทึกการเข้า

ล้ำลึกคนึงหาในดวงจิต ใจเคยคิดตัดสวาทมิอาจสิ้น
ดั่งก้านบัวหักกลางชลาสินธุ์ ผิว่าสิ้นไร้เยื่อยังเหลือใย
ขอบคุณพี่ๆเพื่อนๆน้องๆทุกคนในฟอนต์ด้วยนะคะ

ซึ้งใจมากๆ  กรี๊ดดดดด
แล้วก็รู้สึกโล่งใจเหมือนกัน

หลังจากจบกิ๊กคงใช้เวลาค้นหาตัวเองซักระยะ
ต้องรอดูกันต่อไปละกันเนอะ

. . .
จริงๆ มุขพี่จักรีมีหลายมุกไม่แป๊กนะ ...
เก่งกว่าตลกคาเฟ่อีก
บันทึกการเข้า

ท่องเที่ยวเป็นงานหลัก ถ่ายรูปเป็นงานรอง
วาดรูปเป็นงานอดิเรก ขายยาเป็นงานประจำ
ถ้าทำงานตรงสาย มันก็มีความสุขมากเป็นธรรมดาล่ะครับ อย่างผมเป็นต้น
แต่ถ้าเกิดไม่ตรง หลายๆ คนก็น่าจะเป็นนะ มันก็จะบากตอนเริ่มต้นนิดหน่อย

หลังจากนั้นมันก็จะชิน และเข้าที่เข้าทางไปเอง
มันสำคัญที่เราน่ะครับ ว่าจะทำให้ดี กับงานนั้นมั้ย

ปริญญาเป็นใบเบิกทางจริงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ สำหรับการทำงาน
แต่ปริญญา จะไม่สำคัญเลย ถ้าทำงานแบบไม่มีความรักกับงาน

ปริญญา ไม่มีความหมายครับ ถ้าชีวิตไม่มีความสุขในตอนนั้น
อย่าไปยึดติดกับมันว่าจะต้องได้ๆๆๆๆๆๆๆๆ

เพื่อนผมจบ ม.6 เรียนราม 2 ปีแล้วเลิก
ตอนนี้รับเหมา ได้เงินปีละเป็นล้านๆ ก็เห็นมันสุขดี
ใครถามเรื่องปริญญากับมัน มันจะบอกว่า ปริญญาไม่ได้ทำให้กูมีเงินขนาดนี้
บันทึกการเข้า

nuugo.blogspot.com
instagram.com/nuugo
งั้นไปทำรับเหมาบ้างดีกว่า กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

ถ้าได้ปริญญาแล้ว ก็เหมือนทำความฝันให้สำเร็จไป 1 อย่าง 

พ่อแม่ภูมิใจ มีความสุข พร้อมรอดูลูกก้าวเดินไปข้างหน้า

ใบปริญญาอาจจะไม่จำเป็นสำหรับคนที่เก่งๆ ที่พร้อมที่จะมีงานรองรับอยู่แล้ว

แต่สำหรับคนอีกกลุ่ม ถ้าเอกสารไม่ครบก็เหมือนคุณพลาดโอกาสที่สำคัญบางอย่างไป(สำหรับคนที่คิดว่าจะทำงานในองค์กร แบบเป็นลูกจ้างเขา)

มีคนเคยบอกว่าเรียน กับทำงานจริงๆ มันไม่เหมือนกัน  พอได้มาสัมผัสเข้าจริงๆ ก็เป็นเหมือนที่เขาว่าแหละค่ะ

ทำงานบางอย่างง่ายกว่าเรียนซะอีก  แต่ยากที่ต้องควบคุมตัวเองให้ทำตัวเป็นระบบ มากขึ้น  แต่บางอย่างก็ไมีมีสอนในห้องเรียน  เรียนรู้จากสิ่งที่

เจอ เรียนรู้พร้อมที่จะโตกว่าเดิม เรียนรู้เผื่อจะได้เป็นคนสั่งกับเขาบ้าง

คนที่เงินเดือนสูงๆ เก่งที่ความคิด แต่ปฏิบัติจริงๆ ไม่ได้เรื่อง เพราะเขาไม่ได้เรียนมาเพื่อลงมือทำ (แค่ใช้เวิร์ด ยังไม่คล่อง) ก็ดีแต่สั่งๆ

ตอนนี้(ฝึกงาน) ก็ได้แต่ทำตามคำสั่ง เวิร์ดบ้าง  exel บ้าง Ps  เข้าสัมมนา อบรม แดสงความคิดเห็น ฯลฯ เปรียบตัวเองเหมือนร้านก๋วยเตี๋ยว ที่ต้องทำให้ได้ตามคำสั่ง และต้องมีคุณภาพ

เพื่อรักษาหน้าตาสถาบันไว้ด้วย 

หัวหน้าดีก็ดีไป ถือว่าเขามีกุศโลบายในการใช้คน ถ้าไม่ดีอยู่ไปก็เหมือนทรมานตัวเองเปล่าๆ

เคยถามตัวเองเหมือนกันว่าเกิดมาเพื่ออะไร แต่ไหนๆ มันก็เกิดมาแล้ว ก็ลองเป็นคน ที่เป็นคน ดูซักตั้ง จะเป็นไรไป  ไอ้มืดหมี


จากคนที่ใกล้จะจบแล้วเหมือนกัน และตั้งใจว่า จะเป็นมนุษย์เงินเดือนพร้อมกับทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ ในอนาคต  อืมมมมห์

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 04 ธ.ค. 2007, 09:24 น. โดย ﺕ เดอะบุ๋ม ❀ » บันทึกการเข้า
ความจริงเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่เลวร้ายนะ
เห็นหลายคนก็มีความสุขดี
แล้วแต่งานด้วยแหละ ลันล้า
บันทึกการเข้า

ความจริงเป็นมนุษย์เงินเดือนก็ไม่เลวร้ายนะ
เห็นหลายคนก็มีความสุขดี
แล้วแต่งานด้วยแหละ ลันล้า

เมื่อกี๊อ่านเป็น แล้วแต่งงาน   กร๊าก 

กลับมาตั้งใจอ่านอีกรอบ  กร๊าก
บันทึกการเข้า
อ่านจู๋วนขึ้นลงสองรอบ
อ่านของชาวบ้านเขาด้วย
ก็เหมือนเขาจะตอบกันถ้วนแล้ว

งั้นมาย้ำว่า หน้าที่พึงมีต่อครอบครัว(และตัวเอง)
ในชั้นปริญญาตรีก็ผ่านไป ผมยินดีด้วย
 (แจ๋ว แจ๋ว)

ชีวิตผมสอบอะไรไม่ค่อยสำเร็จเลย
แต่ก็มีชีวิตที่มีความสุข มากด้วย
(ปริญญาได้มาเพราะเขาสอนรอบค่ำ
เลยได้เรียน)

พูดไปก็วนๆเรื่องตัวเอง

เอาสิ่งที่ผมคิดเสมอๆมาบอกดีกว่า

ทำอะไรให้สนุก มีความสุขกับสิ่งที่ทำ
เท่านี้เอง

งานผมต้องสนุกเท่านั้น
ไม่สนุกผมเลิกเลยนะ
 

บันทึกการเข้า

ผมเป็นคนหนึ่งที่จบมาแล้วทำไม่ตรงสาย

ตอนนั้นคิดอย่างเดียวว่า งานอะไรก็ทำขอให้มีงานทำ ดีกว่าอยู่ว่างๆ

ตอนนี้ผมเริ่มชินกับการที่อยู่ในสารบบแบบเช้าเข้างานเย็นกลับบ้าน

สภาพแวดล้อมที่นี่ก็ดี แต่ก้าวหน้าคงยาก

ตอนนี้รู้สึกไม่มีกำลังใจ และแรงผลักดันให้หาที่ใหม่ที่ดีขึ้น

ถ้าคุณอยู่ไปแบบนี้ คุณจะถูกกลืนโดยองค์กร จนคุณเสียตัวตนที่แท้จริงไป

ไล่ตามความฝันเถอะครับ อย่าเป็นแบบผม  เจ๋ง
บันทึกการเข้า

Everyone have their own misery. So do I
Please don't give me another!!!
เอากันจริง ๆ เพื่อน ๆ ที่เรียนมาด้วยกัน ไม่มีใครทำงานตรงสายเลย
จอยทำกราฟิค อีกคนวาดภาพปกให้แจ่มใส คนนึงไปขายเครื่องสำอางค์
มีไปเป็นครูสอนศิลปะ ทำร้านอาหาร น้อยคนจริงๆ ที่ไปทำงานตรงกับที่เรียนมา  หมีโหด~
บันทึกการเข้า
นึกถึงตัวเองในห้าปีข้างหน้าออกไหมครับ
ุถ้านึกออกแล้ว ก็ทำให้ตัวเองไปอยู่จุดนั้น
ปริญญาก็อาจเป็นเครื่องมืออย่างนึงก็ได้

แต่ถ้ายังนึกตัวเองในห้าปีข้างหน้าไม่ออก
ก็ลองทำอะไรที่ยังไม่เคยทำดูครับ  เจ๋ง

คนบางคนเก่งไม่เท่ากัน
โอกาสของคนก็มีไม่เท่ากัน
ปริญญาสำหรับบางคน อาจจะไม่มีความหมาย
แต่บางคนมันก็จำเป็น ที่จะทำให้เขาได้งาน
เพื่อได้เงินไปเลี้ยงปากท้อง

ถ้านึกอะไรไม่ออกเลย
แนะนำให้ลองเที่ยวคนเดียวสักเดือน
ในที่ๆ ไม่เคยไปครับ  เจ๋ง
บางทีอาจจะทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น

แต่ถ้ายังไม่มีตังค์เที่ยว
ก็แนะนำให้ทำงานอะไรก็ได้ไปก่อน
พอได้ตังค์พอ ก็เอาไปเที่ยวนะครับ  ฮิ้ววว

บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6 7 8
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!