ขอขยายความหน่อยละกัน เรื่องที่เดือนสงสัย

คืองี้เข้าใจว่าเดือนไม่สบอารมณ์กับการที่มีคนมาถามกับสิ่งที่ขึ้นป้ายบอกไว้แล้ว แบบนี้ใช่มั้ย
อ่านของอุ้ยแล้วมันก็เหมือนว่าจะเป็นแนวนี้ เรื่องเซอร์วิสมายด์และการบริการ
ก็กลัวว่าจะเข้าใจผิด แล้วจะโกรธจะเคืองกันซะเปล่าๆ
เลยทิ้งประเด็นไว้สองบรรทัด
ให้เอาไปตีความเอง
เพราะถ้าวันหนึ่งได้เป็นเจ้าของกิจการงานบริการอะไรสักอย่าง
การรักษาฐานลูกค้าเอาไว้ได้มากย่อมจะทำให้ยอดรายได้ที่เกิดจากการบริการนั้นๆ เพิ่มขึ้น
เพราะถ้าจะมองกันตามธรรมชาติแล้ว เรื่องข้างต้นมันไม่ได้มีอะไรที่จะต้องเก็บมาคิดเลย
เพราะเอาจริงๆเราจะเจอกับสิ่งแบบนี้จนเฉยๆเพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
อย่าร้านขายของข้างถนน ป้ายราคาก็มีเขียนติดอยู่
แต่เถื่อได้เลยว่าเราเองก็คงจะเคยทำบ้างล่ะที่หยิบของขึ้นมาแล้วถามว่า พี่นี่เท่าไหร่
มันก็ปกตินะที่จะถามย้ำเพื่อความแน่ใจ
และเชื่อว่าคนขายไม่เบื่อหรอกที่จะบอกราคาว่ามันเท่าไหร่
เพราะว่าถ้ามีการถามโอกาสการขายได้มันก็มาจ่ออยู่แล้ว
ถ้ามองในฐานะที่เราไม่ใช่เจ้าของกิจการล่ะ
เราเป็นลูกจ้าง
เรื่องลูกจ้างมันก็จะมีอยู่ 2 แบบ
แบบที่เงินเดือนคงที่ กับเงินเดือนที่มีพิเศษมี incentive
แบบที่เงินเดือนคงที่มีความเป็นไปได้สูงที่จะบริการไม่ดี บริการแย่
เพราะจะดีจะเลวรายได้มันก็คงตัวอยู่แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น
แบบนี้ส่วนใหญ่พวกเช้าชามเย็นชาม พบเห็นได้บ่อย
กับแบบที่สอง ส่วนใหญ่หากเป็นงานบริการ มักจะได้ดั่งใจ
เพราะการบริการดี การตั้งใจทำงาน จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น
พนักงานร้าน เด็กเสิร์ฟเด็กรับรถ พวกนี้ต่างมุ่งหวังรายได้จากการบริการ
บริหารดีโอกาสจะมีรายได้เพิ่มจากปหติมันก็มีสูง
จะมองด้านพนักงานขาย เซลล์ พี.ซี. ที่จะมีส่วนแบ่งรายได้จากยอดขาย
ก็หวังทำยอดขายให้ได้มากเพื่อที่รายได้ของตัวเองจะได้ขยับตามไปด้วย
ก็ประมาณนี้แหละ ไม่รู้ว่าตรงกับประเด็นเดือนระบายอารมณ์รึเปล่า
กลัวแสดงความเห็นแล้วปล่อยไก่ตัวเบ้อเร่ออายเขาว่ะ

พิมพ์ใหม่อีกรอบเหนื่อยว่ะ ปกติขี้เกียจปั่นสั้นๆ ก็พอ
