หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
 
ผู้เขียน หัวข้อ: บัตรเอทีเอ็มหาย  (อ่าน 35771 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ขอเบิ้ล

http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q5862137/Q5862137.html
เพื่อนร่วมชะตากรรมค่ะ
คนนี้เค้าตามคดีอยู่ด้วย เผื่อมีประโยชน์ ไหว้
บันทึกการเข้า
อือ ยัตรเดบิท นี่น่ากลัวแฮะ

แบงก์ กสิกร ทำไมยุให้ทำจังเลย
บันทึกการเข้า

เสียดายแทน กรี๊ดดดดด
บันทึกการเข้า

MaimeedeeกลอนรักMaimeedeeกลอนรัก
ขอเบิ้ล

http://www.pantip.com/cafe/woman/topic/Q5862137/Q5862137.html
เพื่อนร่วมชะตากรรมค่ะ
คนนี้เค้าตามคดีอยู่ด้วย เผื่อมีประโยชน์ ไหว้

ขอเอามาแปะนะครับ
กลับว่าวันนึงกระทู้จะหมดอายุไป

แอบอ้าง
ระวัง!!!!!!!!! มีข้อเตือนใจของบัตรเอทีเอ็มที่รูดซื้อของได้

ขอโทษนะคะอาจไม่เกี่ยวกับห้องนี้ แต่ไม่รู้จะไปทีไหนแล้ว  เพราะ อยู่ห้องนี้มาตลอด ถ้าควรไปห้องไหน หน่วยงานไหน เพื่อน ๆ กรุณาแนะนำด้วยนะคะ เหตุเกิดที่ร้านผ้าม่านย่านวัชรพล คนร้ายทำทีท่ามาสนใจอย่ากให้เราไปทำผ้าม่าน บอกว่าอยู่บ้านเลขที่ /46ม. ศุภลัยออคิดปาร์ค มากัน 3 คน พ่อ แม่ ลูกชายอายุประมาณ ขวบเก้าเดือน คุยกับเราอยู่ประมาณเกือบชั่วโมง พ่อดูแลลูกที่กำลังซน รื้อผ้าม่านร้านเราเละเทะไปหมด แต่เราไม่ว่าไรเพราะลูกค้าสำคัญเสมอ ส่วนตัวคนร้ายผู้หญิง นั่งเลือกผ้าม่านอยู่กับเรา ความเลินเล่อสะเพร่าของเราทำให้เราลืมไปเสียสนิทว่าเราวางกระเป๋าเงินไว้ ที่โต๊ะทำงานซึ่งอยู่ลึกกว่าจุดรับลูกค้า แต่คนร้ายผู้ชายเขาไปทั่วร้านเนื่องจากคอยตามจับลูกเขาที่กำลังซน  สุดท้ายเขาบอกผู้หญิงว่าจะไปให้ลูกกินนมในรถก่อน(ปิคอัพป้ายแดง ทะเบียนปลอม เช็คกรมทางหลวงแล้ว)พอออกไป ผู้หญิงก็บอกว่างั้นวันเสาร์เอาไปให้เลือกที่บ้านแล้วกันจะรีบไปก่อน เราเลยถามเบอร์โทร จากนั้นก็เก็บของภายในร้าน  ..........ผ่านไป  ประมาณ ยี่สิบนาที...........เดินมาที่โต๊ะทำงานพบว่ากระเป๋าเงินไปแล้ววววววววว รีบโทรไปเบอร์ที่ให้  เสียงปลายสายตอบว่า    อย่าโทรมาที่นี่เลย คนให้เบอร์คุณเขาเป็นพวกมิจฉาชีพ  เจอมาเยอะแล้ว    รีบวางหู  อายัดบัตรที่มีทั้งหมด
เริ่มจาก   
โทร  ธนาคารไทยพาณิชย์ก่อนอันดับแรก call center 02 7777777 บอกว่ากระเป๋าเงินถูกโขมย ช่วยระงับบัตรที่เรามีคือ บัตรเครดิต และบัตร เอทีเอ็ม
เวลาโทร ประมาณ 17.02 น(เราเช็คเวลาภายหลังจากทีมควบคุมและป้องกันการทุจริต)
ระหว่าง รอสาย ....... มีพนักงานไทยพาณิชย์โทรมา บอกว่าบัตรเครดิตถูกรูดอยู่ที่ ร้านเพชรในแฟชั่นไอส์แลนด์  แต่ไม่ต้องห่วงนะครับบัตรไม่ผ่านเนื่องจากอายัดแล้ว..............วางสายไป เรายังคงฟังเสียงรอสายต่อไป
ระหว่างนั้นรีบใช้อีกเครื่องโทรอายัดบัตร เอทีเอ็มที่รูดสินค้าได้ของกสิกร  .................. เรียบร้อย ยังคงรอสายไทยพาณิชย์อยู่      กระทั่ง!!!!!มีพนักงานของไทยพาณิชย์โทรเข้ามาว่า มีการรูดซื้อเพชรไป 50,000 ที่ร้านเพชรร้านเดิม เราบอกว่ามีเจ้าหน้าที่โทรมาแล้ว เขาอายัดแล้ว   แต่เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ใช่  มีการรูดผ่านไปแล้ว  ขอกลับไปเช็คอีกที     ในระหว่างเรากำลังถือสายรอไทยพาณิชย์ callcenter อย่นั้น เจ้าหน้าที่โทรมาอีกบอกว่าเป็นบัตรเอทีเอ็ม easy  เราบอกว่ายังถือสายรอ callcenter อยู่เลยเขาทำการอายัดแล้ว                 หลังจากที่ถือสายรอcall center มานาน ท้ายสุด สุดท้าย   บอกว่าอายัดไม่ทัน


ภาพ ในวงจรปิดที่เราเอาใบแจ้งความไปดูนั้น รปภ วิ่งตามคนร้ายแต่ไม่ทัน คนร้ายหญิงวิ่งออกจากประตูห้างไปได้ โดยมีชายรอในรถ ขับออกด้วยความเร็วออกจากห้างไปโดยไม่มียามอยู่ที่ทางออกซึ่งมีทางเดียวไม่ มีการสกัดกั้นไปได้แม้แต่น้อย......................
เวลาที่ ไทยพาณิชย์  อายัดบัตร เครดิตคือ  17.10
คนร้ายรูดบัตร easy ต่อทันที  เวลา 17.11
sales slips ออกมาปรากฏเวลา 17.12
call center อายัดบัตร เวลา 17.12.45
โทรอายัดเวลา 17.02???????????????????????????????
เราอยากรู้ว่าตรงนี้ 
1.  ลายเซ็นต์ที่เราขอดูที่ร้านเพชรซึ่งตอนแรกไม่ยอมให้ดู เราต้องบอกให้ตำรวจไปขอให้จึงจะได้ดูนี้    มันเรียกได้ว่า ต่างกับลายมือของเราโดยสิ้นเชิง   แล้วหลักเกณฑ์อะไรในการพิจารณาปล่อยสินค้า
2.  ในระหว่างการดำเนินงานอายัด ต่างกัน 47 วินาที กับการก่อเหตุ ตรงนี้ใครรับผิดชอบ
3.  บัตรเครดิตรูดไม่ผ่านเพราะถูกอายัด ทำไมคนขายยังคงให้ใช้บัตรeasy ได้อีก ถ้าเป็นเพื่อน ๆ จะเอะใจบ้างไหม ว่าทำไมถูกอายัด แล้วไทยพาณิชย์ก้บอกว่าได้บอกร้านเพชรแล้ว????????????/


ขอโทษ นะคะทำให้เปลืองพื้นที่กระทู้ทั้งนี้ทั่งนั้นอยากเตือน เพื่อน ๆ ทุกคน   ให้ระวังตัวด้วยนะคะ   ส่วนตอนนี้ตัวดิฉันเรียกว่ามืดแปดด้านจริง ๆ เดือนนี้ต้องเริ่มผ่อนบ้านกับทางโครงการแล้วด้วย  ถ้าบ้านเสร็จพร้อมโอนก็ไม่รู้ว่าจะกู้กับธนาคารไทยพาณิชย์ดีหรือ ป่าว??????????????  ใครก็ได้ช่วยแนะนำทีนะคะทำงัยให้ได้เงิน 50,000 คืน   เงินในกระเป๋าเงิน  10,000  คงไม่หวังแล้ว.............ขอบคุณมากค่ะ

จากคุณ : เม็ดสน - [ 27 ก.ย. 50 22:12:49 ]



//เพิ่ม
อันนี้ทำร้ายจิตใจหน่อย แต่มีประโยชน์

แอบอ้าง
ความคิดเห็นที่ 42

อธิบายให้ฟังขั้นต้นก่อนนะคะ ในฐานะที่เคยทำบัตรหาย คือตกหายแต่บัตรน่ะค่ะ ไม่ได้หายทั้งกระเป๋า แล้วบัตร AMEX ถูกเอาไปรูดซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่พาวเวอร์มอลล์ 25000 บาท แต่ทีนี้กว่าเราจะรู้ว่าบัตรหาย ก็ข้ามวันไปแล้ว (สะเพร่าจริงๆเลยเรา) โทรไปอายัด จนท.ก็บอกว่ามีการทำรายการไปแล้ว และก็ผ่านแล้วด้วย ก็มันข้ามคืนแล้วนี่นา

จนท.ก็บอกว่าจะ hold ยอดนี้เอาไว้ก่อน แล้วจะสอบสวนอีกทีว่าเราใช้จริงหรือเปล่า แล้วก็จะมีพนักงานฝ่ายสืบอะไรซักอย่าง โทรมาถามเราครั้งนึง เราก็ปฏิเสธแข็งขัน ก็ไม่ได้ใช้จริงๆนี่นา บัตรมันตกหาย แล้วเรื่องก็เงียบไป

สเตทเมนท์แรกที่มา ยอดนั้นยังปรากฏอยู่ค่ะ แต่เราก็ไม่จ่าย คือจ่ายแต่ยอดอื่น ยอดนี้ไม่จ่าย (ปกติเราจ่ายเต็ม) พอเสตทเมนท์เดือนถัดมาออก ปรากฏว่าทาง AMEX cancelled ยอดนี้ไปให้เรียบร้อยแล้ว ซึ้งจริงๆเลยค่ะ เรียกว่าหายใจทั่วท้อง นอนหลับเป็นยังไงก็วันนั้นเอง ยังนึกขอบคุณไม่หาย คือบัตรเครดิตนี้เค้าจะมีประกันในกรณีแบบนี้อยู่แล้ว แต่ในสัญญาของเราตอนนั้นจะระบุว่า ถ้ามียอดคชจ.หลังจากโทรอายัดบัตรแล้วจะไม่เกิน 5000 บาท แต่ของเรามันอายัดไม่ทัน ข้ามไปอีกวันนั่นเลย แล้วเค้าก็ส่งบัตรมาให้ใหม่ด้วยนะคะ เราเลยใช้มาอีกเป็นปีแน่ะ แต่ตอนนี้เลิกใช้แล้วหาที่รับบัตรยากไปหน่อย

ส่วนบัตรเอทีเอ็มแบบ วีซ่าอิเล็กตรอน หรือ มาสเตอร์การ์ดอิเล็กโทรนิคส์ อะไรนั่น คำปลอบใจคือ ทำใจ ได้เลยค่ะ ไม่ได้อยากพูดให้เสียกำลังใจนะคะ เพราะนั่นเท่ากับว่าเค้าเอาเงินสดของเราไปแล้ว โอกาสจะได้คืนแทบไม่มี ในขณะที่บัตรเครดิตเรายังไม่ได้เสียเงินไป ถ้าจะให้สู้คดีจริงๆ ก็คงต้องให้แบงค์ฟ้อง แล้วเราสู้ตรงข้อที่ว่า เราไม่ได้เป็นคนใช้ ซึ่งตอนนั้นถ้าเรื่องไม่จบเราก็ตั้งใจจะสู้คดี ยังไงก็ไม่จ่าย

บทเรียนนี้ทำให้เราใช้กระเป๋าเงินแบบมีซิปมาตลอด แม้มันจะไม่สวยเท่าแบบพับบางๆก็ตาม

จากคุณ : vilandra - [ 28 ก.ย. 50 16:57:38 ]

แอบอ้าง
ความคิดเห็นที่ 44

ฝ่ายที่ต้องยืนยันว่าเราใช้บัตรน่ะ คือธนาคารค่ะ ไม่ใช่เราที่ต้องไปหาหลักฐานว่าเราไม่ได้ใช้ คือธนาคารจะเอาเงินเราก็ต้องพิสูจน์ว่าเราใช้จริง

เมื่อเร็วๆนี้มี คดีของธนาคารหนึ่งที่ลูกค้าโดนคนร้ายลักลอบเอาข้อมูลในบัตร (ผ่านเครื่องเอทีเอ็ม) ไปทำบัตรปลอมแล้วไปกดเงินที่ภาคใต้ ทั้งที่เจ้าของอยู่ภาคเหนือ (มั๊ง) ตอนแรกธนาคารไม่ยอมใช้คืน อ้างว่าลูกค้าเคยบอกรหัสกับลูกและภรรยา ให้ไปกดเงินให้ ครั้งนี้ก็อาจจะเป็นลูกหรือภรรยาไปกด ทั้งที่ตอนแจ้งความลูกค้ากับภรรยาและลูกก็ไปแจ้งกันทั้งครอบครัว

ขึ้น ศาลค่ะคดีนี้ แต่ก่อนศาลจะตัดสิน ธนาคารจะรับใช้ให้ครึ่งหนึ่งแต่ลุกค้าไม่ยอม เลยสู้คดีกัน ศาลตัดสินว่าธนาคารมีหน้าที่รับฝากทรัพย์ ถ้าลูกค้าเรียกทรัพย์คืน แล้วธนาคารไม่ให้ (จะเนื่องจากอะไรก็แล้วแต่ ) ธนาคารต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เป็นความผิดของลูกค้า คือลูกค้าเอาเงินนั้นไปแล้วจริง แต่นี่ธนาคารพิสูจน์ไม่ได้ จึงต้องชดใช้เงินทั้งหมดคืนแก่ลูกค้าพร้อมดอกเบี้ย 7.5 เปอร์เซ็นต์ (มากกว่าดอกเบี้ยปกติอีกแน่ะ)

เราไม่ต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ว่าไม่ได้ ใช้นะคะ ธนาคารต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายพิสูจน์ว่าเราใช้จริง และธนาคารก็ได้ทำประกันถึงความเสี่ยงตรงนี้เอาไว้แล้ว แต่กรณีของคุณมันเป็นบัตรเอทีเอ็มด้วยอ่ะค่ะ เราก็ว่าเงินเข้าปากเค้าไปแล้ว ได้คืนยากค่ะ

จากคุณ : vilandra - [ 28 ก.ย. 50 17:08:14 ]

แอบอ้าง
ความคิดเห็นที่ 50

ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ วันนี้มีข่าวที่เกือบดีคือธนาคารยินดีชดใช้แต่จะเป็นข่าวดีจริง ๆ คือเงินโอนกลับคืนมาในบัญชีเราน่ะ   ข้อมูลเพิ่มเติมคือ
17.09  รูด credit card   100,000 ติดโดนBlog
17.10 รูดอีกครั้ง ขึ้นข้อความให้ติดต่อธนาคาร
17.11 รูด เดบิต 50,000  ผ่าน
17.12  รูดอีกครั้ง แต่ Blog แล้ว บัตรเดบิตถูกอายัดตอนนี้เองแหล่ะ

ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารไทยพาณิชย์ที่ให้ข้อมูลนะคะ

มีความคืบหน้ายังงัยจะรีบแจ้งมาให้ทราบ

จากคุณ : เม็ดสน (เม็ดสน) - [ 28 ก.ย. 50 19:50:53 ]
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 ก.ย. 2007, 17:20 น. โดย แอน แฟนกลัว » บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
เอิ่ม..


บัตรเครดิต กะเดบิต ต่างกันยังไงอะคะ ง่ะ
คือตามความเข้าใจงูๆ ปลาๆ ตอนนี้คือบัตรเดบิตมันดีกว่าบัตรเครดิตตรงใช้ซื้อของได้


แต่เอ๊ะ บัตรเครดิตก็ซื้อได้ไม่ใช่เหรอฮิ หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
บัตรเดบิตหักจากบัญชีเราโดยตรงครับ เงินใน บช.หมดก็ซื้อของไม่ได้  ยิ้มน่ารัก
บันทึกการเข้า
ตามความเข้าใจดานะ

เดบิต คือบัตรที่รูดแล้วหักเงินที่เรามีจากบัญชี รูดปุ๊บ ตังค์หายปั๊บ
        ใครจะทำก็ได้ถ้ามีเงิน
เครดิต คือบัตรที่หักเงินในอนาคตของเรา ตอนที่รูด
         คนจ่ายคือธนาคารที่เรามีเครดิตอยู่ แล้วเราค่อยไปจ่ายให้ธนาคารทีหลัง
         ใครจะทำก็ได้ถ้าธนาคารเห็นว่ามีความสามารถจะจ่ายเงินคืนให้เค้าได้

ใช่มะ
บันทึกการเข้า
แต่เงินในธนาคารเราก็หายนะฮิ ถ้าเราใช้บัตรเครดิตง่ะ หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ช่าย ยิ้มน่ารัก
แต่เงินในธนาคารของบัตรเครดิตมันเป็นเงินอนาคตน่ะ
คือเกินวงเงินได้ (เครดิต) แล้วภายหลังค่อยใช้คืน


เอาเข้าจริงก็เพิ่งเคยลองรูด(เดบิต)เล่นๆ อย่างเป็นจริงเป็นจังเมื่อไม่นานนี้เอง
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
กำลังจะโพสตอบเลย  ฮือๆ~

เดี๋ยวนี้บัตร นศ. ก็เป็นบัตร เดบิตไปในตัวเลยด้วย


วันนี้ไ้ปกดเงิน  สลิปหมด เงินไม่ออกมาให้ แถมเงินในบัญชีก็หักไปแล้ว

คอลเซ็นเตอร์สายไม่ว่าง หาทางเอาเงินคืนอยู่ บัตรอยู่แต่เงินหาย  ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

บัตรเดบิตเสียตู้ ATM อ่านไม่ได้
จะยกเลิกต้องไปยกเลิกหรือทำใหม่ที่สาขาเจ้าของบัญชี
ถ้าจะทำต่างสาขาต้องเสียค่าธรรมเนียมสามร้อย เซ็งเลย
ทุกวันนี้พกสมุดบัญชีติดกระเป๋าไว้ครับ เวลาจะใช้เงินเดิน
เข้าแบงค์ไปถอนเอา สะใจดี  บางทีลายเซ็นไม่เหมือนมัน
ก็ให้เซ็นแล้วเซ็นอีกจนกว่าจะเหมือน บัตรประชาชนดูๆ
แล้วพวกก็บ่นว่าเดี๋ยวนี้ปลอมกันเยอะ ลูกเล่นก็เยอะ ยิ่งพี่น้อง
กันนี่แหละตัวดี ปลอมลายเซ็น แล้วขโมยบัตรประชาชนเจ้า
ของบัญชีมายื่น ดูออกยากมากหน้าคล้ายๆกัน
บันทึกการเข้า
โอ้เย่


กำลังจะบอกพอดีว่า งั้นบัตร นศ. ก็ไม่ใช่บัตรเครดิต กร๊าก
บันทึกการเข้า

ที่สุดถ้ามันจะไม่คุ้ม
แต่มันก็ดีที่อย่างน้อยได้จดจำ
ว่าครั้งนึงเคยก้าวไป...
ตูก็เพิ่งเปลี่ยนมาเเหมือนกัน 300 แน่ะ  ง่ะ


วันนี้ไ้ปกดเงิน  สลิปหมด เงินไม่ออกมาให้ แถมเงินในบัญชีก็หักไปแล้ว

คอลเซ็นเตอร์สายไม่ว่าง หาทางเอาเงินคืนอยู่ บัตรอยู่แต่เงินหาย  ฮือๆ~

อันนี้ยิ่งต้องรีบเลยนะครับ
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
บ.กรุงเทพเปล่าวะ เอือม
บันทึกการเข้า
ธ.กรุงเทพ บัตรพังง่ายโคตรๆ
พังทีนึง เปลืองตังค์เราอีก โวย
บันทึกการเข้า
หน้า: 1 2 [3] 4 5 6
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!