การเคารพรุ่นพี่ในมหาลัย

[มังกร]

เจอหน้าใครก็ตามต้ิิองชิงไหว้ก่อนค่ะ
เพราะจะเหมาได้ว่าคนที่โดนไหว้เป็นคนแก่กว่า{หมีโหด}

ปล. เพื่อนที่คณะดาเค้าไหว้แม่บ้านด้วยแหละ แบบว่ารู้จักกันมาตั้งแต่ปี1

เกลียดมากครับ การรับน้องแบบนั้นน่ะ
ขนาดคณะที่ตั้งขึ้นมาใหม่ในมหาลัยก็ดันไปรับเอาพิธีกรรมส้นตีนนี่จากอีกคณะที่ซ่อมให้รุ่น 1
เวรกรรม มึงจะไปแถกปลาไหล หรือวิ่งกันให้อ้วกทำไมก็ไม่รู้ทั้งที่ไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร
แล้วรับน้องมาก็ไม่ได้มีการวัดการประเมินผลด้วยนะว่าน้องมันรักกันจริงไหม?

ฮ่วย

ป.ล.
ไม่ได้เกลียดการรับน้องนะครับ (ค่อนข้างชอบมากๆ เลยด้วยซ้ำ)
แต่เกลียดการรับน้องที่ไม่รู้ที่มาที่ไป สักแต่เอามันส์
หรือกูเคยโดนมึงก็ต้องทนได้มั่ง แบบที่บางคณะบางสถาบันเป็นอยู่

ตูเป็นคนมือแข็ง อันนี้โดนพ่อกับแม่ว่าประจำ
กับญาติพี่น้องจะยกมือไหว้นี่แทบจะนับครั้งได้

ไม่รู้นะ ก็เคารพแต่ไม่อยากแสดงออกแค่การยกมือ


เรื่องรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยนี่ลืมไปได้เลย ไม่ว่าหน้าไหน ตูไม่เคยยกมือไหว้
ยกเว้นอาจารย์

ห้องเชียร์ก็คงมีส่วนบ้างครับ แต่ถ้าคนมันจะไม่ไหว้ ทำให้ตายมันก็ไม่ทำครับ
ผมว่าเรื่องอย่างนี้บางทีมันก็เกิดมาจากการสั่งสอนตอนเด็กๆด้วยนะครับ
 ปล.เห็นด้วยกับพี่แอนครับ ถ้าเขาไม่ไหว้แต่จริงใจกับเรายังจะดีกว่าหน้าไหว้หลังหลอก

[มังกร]

ตอนเรียนที่ครุ ไหว้รุ่่นพี่ทุกคน
เพราะคณะสอนให้ไหว้
แต่ก็ไม่ได้ไหว้เพราะโดนบังคับนะ สภาพแวดล้อมเป็นอย่างนั้น ก็ทำอย่างนั้น มันน่ารักดี
(รุ่นพี่ที่ครุ ต้องบริการน้องๆทุกอย่าง เช่นไปซื้อเหล้าให้น้อง เป็นต้น)

ตอนมาอยู่ถาปัตย์ ไม่ได้ไหว้ เพราะรุ่นพี่ไม่ใช่พระ
แต่ก็ไม่ใช่ไม่นับถือรุ่นพี่นะ สภาพแวดล้อมมันเป็นอย่างนั้น
(รุ่นน้องที่ถาปัตย์ต้องบริการรุ่นพี่ทุกๆอย่าง เช่นไปซื้อเหล้าให้พี่ เป็นต้น)

ตอนจบ ทำงาน เจอช่างที่อายุเยอะกว่า ต้องชิงไหว้ เพราะแกยกมือไหว้เราเร็วมากๆ
(เกลียดไอ้ระบบกลายๆ ที่ทำให้คนแก่กว่าที่ไม่รู้จักกัน ต้องไหว้คนเด็กกว่านี่จังเลยแฮะ)

้ต้องบอกแกว่าห้ามไหว้ผม ผมเด็กกว่า เป็นรุ่นลูกรุ่นหลาน ผมต้องไหว้
และเวลาทำงานร่วมกัน ผมต้องขอความรู้จากช่างอีกเยอะแยะ

แถมขู่ด้วยว่า ถ้าคราวหน้าช่างไหว้ผมก่อน ผมจะไม่แนะนำลูกค้าให้ละ
 

[มังกร]

อิ่มก็อยู่ในคณะที่สอนให้เคารพรุ่นพี่นะคะ ตั้งแต่ช่วงรับน้องแล้ว
แต่ไม่ได้บอกให้ไหว้ พี่ๆเค้าจะสอนว่า "ให้ทักทาย"

คือ จะทำยังไงก็ได้ ที่คนในคณะจะรู้จักกันมากขึ้น
แรกๆก็ไหว้ (แต่อิ่มจะเลือกไหว้เฉพาะรุ่นพี่ที่น่าเคารพนะคะ )
แต่พี่เค้าก็บอกว่า ไม่ต้องไหว้หรอก เขิน

พอมาเป็นรุ่นพี่ซะเองก็ไม่ได้ขอให้น้องไหว้นะ ทักกันเฉยๆก็พอ

อิ่มว่าคำว่าเคารพนี่มันไม่ได้หมายถึงเฉพาะการไหว้ (รึเปล่า)
แต่อิ่มคิดว่า มันหมายถึงการที่เราจะไม่ล้ำเส้นกันและกันมากกว่าค่ะ เพราะอย่างน้อยเค้าก็แก่กว่าเรา

ปล. หลานรหัส(ปี1) อิ่มเรียบร้อยเวอร์ๆค่ะ เมื่อวันงานแต๊งค์พี่ น้องเค้าโทรมาขออนุญาติอิ่มไม่ไปงานด้วย
เวลาคุยกัน เหมือนอิ่มไปรังแกน้องเลยค่ะ 

   ปกติการไหว้กับคนไทยมันก็เป็นของคู่กันอยู่แล้วนี่ครับ 
   ซึ่งผมก็เห็นดีด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์ที่จะให้มีประเพณีนิยมแบบไหว้ทักทายกันระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง ไม่ใช่การทำความเคารพ แต่เป็นการทักทายกัน ฉนั้นใครยกมือก่อนไม่ใช่ประเด็น (ส่วนหนึ่งเพราะรุ่นพี่สอนมาแบบนี้ และก็สอนรุ่นน้องต่อไปแบบนี้)

   แต่เท่าที่เห็นในปัจจุบัน ไหว้กันแต่ละที ยกมือกันท่วมหัวยังกับไหว้พระ ไหว้เจ้า เคยสอนน้องไปว่า
   "ไหว้ทักทายรุ่นพี่น่ะ ยกมือพนมแค่หน้าอกก็พอ เพราะยังไงก็รุ่นราวคราวเดียวกัน ทำให้เหมือนการทักทายกันตามประเพณีไทยดีกว่า ไอ้การยกท่วมหน้า ท่วมคิ้ว นั่นเอาให้ไว้ไหว้พระ ไหว้พ่อ แม่..."

 

เห็นด้วยเลยครับ  อยากจะไหว้แบบที่มันเป็นประเพณีของการทักทายแบบไทยๆเท่านั้นเอง  ความจริงเราก็ไม่อยากจะให้ใครไหว้เราสักเท่าไรเพราะไม่ได้อาวุโส  หรือทำอะไรดีๆให้เขามากมายนัก

แต่สิ่งที่ต้องการคืออยากได้คำทักทายจากรุ่นน้องที่เรารู้จักนะ  แต่ส่วนใหญ่กรรมจะตามสนองนะ  เพราะส่วนใหญ่จะหลบหน้ารุ่นพี่ที่เรารู้จัก  เพราะจำชื่อเขาไม่ได้  เลยพาลไม่อยากทักทาย  รุ่นน้องเราก็คงคิดแบบนี้เหมือนกัน  เราก็เลยเป็นคนที่ไม่ค่อยมีใครทักทายก่อน

[มังกร]

ไหว้แต่คนที่รู้จักและนับถือ แต่ส่วนมากจะไหว้รุ่นพี่ที่รู้จักเกือบทุกคน(ไม่ใช่รุ่นพี่ที่ ม.)แต่ถ้ารู้จักแล้วไม่ไหว้ ก็แปลว่าเกลียดเลย
คือจะแสดงออกให้รู้ไปเลยว่ากูไม่นับถือว่างั้น แต่ก็ไม่ได้ไประรานหาเรื่องอะไร แต่ต่างคนต่างอยู่
ส่วนรุ่นพี่ที่ ม.นี่จะไหว้คนที่รู้จักกันซะส่วนใหญ่ เพราะส่วนมากรุ่นพี่กับคนในคณะไม่ค่อยคิดว่าเป็นเด็กนิติอยู่แล้ว

ที่คณะต้องล่าลายเซ็นต์รุ่นพี่ทุกคนก่อนประชุมเชียร์จบ
น้องมาขอลายเซ็นต์ ก็สนุกไง สมมติว่าเรานั่งในโรงอาหาร
ก็ให้มันไปยืนร้องเพลงให้ใครไม่รู้ฟัง แต่อยู่คนละฟากกับโรงอาหาร แต่เราต้องได้ยิน
และต้องร้องจนกว่าคนที่ฟังมันอายจนเดินหนีไป 

บางทีก็ให้มันไปขอตังใครไม่รู้ในโรงอาหาร
บอกบทไปด้วยนะว่า ผมไม่มีข้าวกินน่ะพี่ ช่วยผมหน่อย พวกนั้นก็ดีใจหายให้เงินมันด้วย

บางครั้งก็ใช้ให้มันไปของเบอร์สาว

ให้มันไปนั่งขอทานจนได้เงินครบตามจำนวนที่กำหนด ถึงจะเซ็นต์ให้ก็เคย 

วันรับน้องวันสุดท้าย ซื้อกางเกงในผู้หญิงสีแสบๆ มีลูกไม้ให้มันคนละตัว ให้ใส่ทับแบบซุปเปอร์แมน
แล้วไปนั่งซักผ้ากะสระผมในโรงอาหารมหาลัย    (พี่ขอโทษ)

เล้วเลว ตูเนี่ย
ทุกวันนี้น้องรุ่นนั้นรักรุ่นผมมาก เพราะมันบอกว่ารุ่นผมช่วยสร้างประสบการณ์ดีๆ ในชีวิตมหาลัยให้มัน
อะไรที่ไม่เคยทำก็ได้ทำ

[มังกร]

  โอ้ววว

[มังกร]

 


รู้สึกว่าตัวเองโชคดีแฮะ 

[มังกร]

เคยต้องแต่งตัวประหลาด ออกไปเต้นริมถนนตรงท่าช้าง
แล้วต้องวิ่งกลับมาชนช้างต่อใน ม.

แล้วก็โดนออกเต้นโชว์ต่อหน้าพี่เก่า
แล้วก็ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



แต่ก็สนุกดีนะคะ 

คิดว่าการรับน้องทำให้เราเกิดความกล้าขึ้นนะ(หน้าด้านขึ้น )
แต่แบบพวกเอกที่ให้รุ่นน้องตะโกนข้ามตึกหรือโชว์พาวกันมากๆนี่ไม่ไหว- -


ส่วนเรื่องไหว เอามาตรฐานของตัวเองนะคะ
ในฐานะรุ่นน้อง เราไหว้คนที่เราอยากไหว้น่ะ - -''
(แต่จะมีรุ่นพี่บางคนที่ชอบทวงไหว้..นึกออกมั้ย พวกนั้นแล ไม่อยากจะไหว้เท่าไหร่ - -)


ในฐานะรุ่นพี่
ก็เคยบอกรุ่นน้องว่า พี่ไม่ใช่ศาลพระภูมิไม่ต้องไหว้บ่อยก็ได้

ผมไหว้ทุกคน แต่เคารพเป็นบางคน


ไม่แปลกหรอกที่ผมไหว้ทุกคน เพราะ ตอนมัธยม ขนาดรุ่นน้อง เพื่อน รุ่นพี่ เจอกัน ก็ต้องยกมือไหว้ (แล้วแต่อารมณ์) 
ผมถือว่ามันเป็นธรรมเนียมการทักทายของคนไทย นี่นา

แต่แปลก ที่ทำไมเดี๋ยวนี้ คนเราพอยกมือไหว้ทักทายกันถึงมองเป็นเรื่องแปลก  เท่าที่ผมจำที่คุณครูเคยสอนได้
ว่า ยกมือไหว้ทักทายเพื่อน หัวนิ้มมือ อยุ่ตรงไหน ยกมือไว้ผู้ใหญ่อยุ่ตรงไหน ไหว้พระ อะไรแบบนี้ 
ถ้าเรา เข้าใจข้อนี้ดี เราก็ไม่ต้องกลัวอายุสั้น เพราะว่ามีรุ่นพี่มายกมือไหว้เรา


แต่สำหรับผมแล้ว รุ้ดีนะ แต่บางที่ก็ อยุ่ที่ความเคยชิน แล้วก็ความอายที่จะทำให้มันถูกต้องซะอย่างงั้น

ส่วนความเคารพมันต่างกันเลย ชีวิตมหาลัยของผม แทบไม่ได้เจอรุ่นพี่เลยก็ว่าได้ รุ่นพี่ของผมส่วนใหญคือคนทำงาน
รุ่นพี่ที่มหาลัยมีเพียง 4 คนเท่านั้นที่สามารถยกมือไหว้ ด้วยใจที่เคารพโดยไม่เคอะเขิน