หน้า: 1 2 3 [4] 5
 
ผู้เขียน หัวข้อ: ไปเยี่ยมเพื่อนที่โรงพยาบาลบ้า  (อ่าน 31791 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 ขาจร กำลังดูหัวข้อนี้
ศาสนาคริสต์ไม่ได้สอนให้ศรัทธาแบบไม่มีเหตุผลนะครับ
แต่จุดสำคัญที่จะพึงระลึกก็คือ การเชื่อว่าพระเจ้ารักเรา
เพื่อเตือนให้ทำความดี และทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใช่เพราะว่าจะให้ได้ขึ้นสวรรค์
แต่ทำเพราะเราเป็นคนดี และเพราะพระเจ้ารักเราครับ

ลักษณะนี้คือการเตือนว่าจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ
ว่ากำลังจะทำอะไร มีผลยังไง ไม่ใช่ว่าเชื่อไปเสียทุกอย่าง อย่างที่เข้าใจกัน

ในทำนองเดียวกัน... ไม่ใช่ว่าคำสอนของคริสต์จะช่วยให้ชาวคริสต์ทุกคนไม่งมงาย
มันก็ขึ้นอยู่กับบุคคลว่าจะเข้าถึง แล้วก็ปฏิบัติได้มากน้อยแค่ไหน เหมือนพุทธ และอื่นๆ นั่นล่ะครับ
ไม่ถึงแก่นแล้วไปหลงกับอวิชชา ก็ลงเอยเหมือนๆ กันนี่แหละ
บันทึกการเข้า
อูยยย เดี๋ยวยาวเปลี่ยนเรื่องเถอะ ฮิ้ววว

ส่วนตัวคิดว่าการโดรกระทืบเท่านี้อาจไม่ทำให้บ้าได้ขนาดนนั้นนะครับ

น่าจะบ้าก่อน ไม่งั้นไม่ไปท้าทายนรกดงทีนที่สนามหลวงมั้งครับ ฮิ้ววว

ดูอย่างเอสิ โดนขวดยังแค่เย็บเอง ไม่เห็นบ้าเลย (อิอิ)
บันทึกการเข้า

"รักอดทนนาน กระทำคุณให้ รักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง... "
                                                            - โครินทร์1 13:7
ผมก็คิดว่า ต้องเพี้ยนก่อนถึงจะทำเรื่องเพี้ยนๆได้ครับ
บันทึกการเข้า

ในหมู่คนตาบอด คนตาบอดข้างเดียวได้เป็นราชา
อูยยย เดี๋ยวยาวเปลี่ยนเรื่องเถอะ ฮิ้ววว

ส่วนตัวคิดว่าการโดรกระทืบเท่านี้อาจไม่ทำให้บ้าได้ขนาดนนั้นนะครับ

น่าจะบ้าก่อน ไม่งั้นไม่ไปท้าทายนรกดงทีนที่สนามหลวงมั้งครับ ฮิ้ววว

ดูอย่างเอสิ โดนขวดยังแค่เย็บเอง ไม่เห็นบ้าเลย (อิอิ)

 หมีโหดดดด/ ใช้สิทธิพาดพิงครับ
บันทึกการเข้า

เราจะต้องการอะไรมากมายไปกว่า อะไรมากมาย
ผมต้องเคยเห็นแน่เลย น่าจะทันกัน

ขอให้สงบขึ้นก็ยังดีครับ ไหว้
บันทึกการเข้า
อูย  อี๋~
เรื่องศรัทธาแบบบ้าๆบอๆ เชื่อในเรื่องไม่มีเหตุผล นั่นคือมุมมองจากคนที่ไม่ได้เรียนรู้ในศาสนาคริสต์ครับ
การศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า ... เราพิสูจน์ไม่ได้ว่าพระองค์มีอยู่จริง แต่เรารับรู้ได้หลายๆทางครับ
ในขณะที่คำสอนอื่นๆของศาสนาคริสต์ ถ้าไม่ได้นับเรื่องศรัทธา ก็เป็นส่วนที่มีเหตุมีผล ....

อูย  อี๋~

หนิงก็ศาสนาคริสต์นะคะ
เรียนคำสอนด้วยแหละ  ฮือๆ~

ที่หนิงพูดนี่หมายถึง คนนั้นเค้าได้รับการปลูกฝังมาแบบนี้
พอเจอลัทธิ หรือศาสนาอะไรก็เชื่อแบบสุดตัวน่ะค่ะ
บันทึกการเข้า

<3.
เพราะรู้ไงหนิงส์คุง ผมเลย
แอบอ้าง
อูย..... อี๋~
ขนาดคนคริสต์ยังคิดกันแบบนี้
บันทึกการเข้า

ฝันซ่อนสับสนวุ่นวาย หย่อนคล้อย
..ยิ่งถ้าคนไม่คิดนี่


ไม่ได้เอะใจอะไรเลยครับ อ่านแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไร หมีโหดดดด
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
แล้วพระที่เพื่อนคุยด้วยท่านไม่ตอบอะไรเลยหรือครับ
บันทึกการเข้า

I ROCK , THEREFORE I AM
by the way
บันทึกการเข้า

เคยนะ นั่งสมาธิ แล้วรู้สึกเหมือนองค์ลง
แสงสีตระการตา แขนขางอกมาสิบหกขา
ขยับร่างกายเองหมดเลยนะ เหมือนมีดวงจิตสองดวง
ในร่างเดียวกัน ทำท่าเหมือนนมัสการเจ้าแม่กวนอิม
พระสังกระจายแล้วก็หลวงปู่โต ชักแหง่กๆ

ระลึกชาติไปหลายชาติอีกต่างหาก
ตอนนั้น อินอะไรไม่รู้ ไปเบิกเนตร แล้วก็ไปนั่ง
สมาธิที่สถานปฏิบัติธรรม แล้วพอดีที่บ้านห่วงมาก
เค้าว่าใกล้บ้าแล้ว เลยให้หยุด ตอนนั้นเหมือนมีพลังจิตด้วย
จากกลัวผี เดินไปไหน ตะโกนท้าผีตลอด แถมไปหาพระเครื่อง
มาใส่อีก เวลาจะดูว่าพระองค์ไหนแรง ก็นำองค์ท่านมา
ใส่ในอุ้งมือ แล้วตั้งจิตมั่น ถ้าองค์ไหนดี มือจะร้อน
ถ้าองค์ไหนแบบว่าปลุกเสกสุดยอด มือสั่นดิ๊กๆ
แบบเต้นเลย

ดีนะถอนตัวทัน ไม่งั้นบ้าแน่ๆ  ง่ะ

ไม่รู้เหมือนกันว่า เวลาคนบ้าเค้าทำให้หายกันยังไง
รู้แต่อยู่รพบ้า ยิ่งนานยิ่งบ้า อาจจะจิตสงบลงแต่แทบไม่เคย
เห็นใครหายเลย
บันทึกการเข้า
ถึงตอนนี้ก็มีคนที่แขนงอกมาเป็น 8 แขนนะครับ
ไม่ได้นั่งสมาธิด้วย เจ๋ง
บันทึกการเข้า

ทำมาหากินด้วยการเปิดร้านสกรีนเสื้อยืด จ้ะ
ตอนนี้เค้าไป ราชบุรีครับ คงจะไม่ได้สยาย มือกันให้เห็นอีกหลายวัน  เจ๋ง
บันทึกการเข้า
มันบรรลุกว่าตูอีกนะบักนัท โวย
บันทึกการเข้า
แกมีความลับดำมืดอะไรอีกไหมปุก ฮือๆ~
บันทึกการเข้า

หน้า: 1 2 3 [4] 5
 
 
Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.21 | SMF © 2006-2007, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF Valid XHTML 1.0! Valid CSS!